ความเชื่อในศาสนาอื่น

ก่อนอื่น"อวิชชา"คืออะไร? "อวิชชา" คือความไม่รู้ ไม่รู้ในที่นี้คือ ไม่รู้ว่าขณะนี้มีอะไร ขณะนี้มี เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส คิดนึก แต่ด้วยความไม่รู้คือ "อวิชชา" เห็นจึงเป็นเราที่เห็น ได้ยินก็เป็นเราที่ได้ยิน ได้กลิ่นฯลฯ ล้วนเป็นเราทั้งสิ้น เมื่อเป็นเราที่เห็น จึงเป็นอัตตา ตัวตนที่เป็นเรา (ทั้งๆ ที่ไม่มีเรา) นี่คือความไม่รู้ต่างจาก"วิชชา" ที่รู้ว่า เห็น ได้ยินได้กลิ่น ลิ้มรส นี้ไม่ใช่เรา แต่เป็น "ธรรม" แต่ละชนิดเกิดขึ้นกระทำกิจหน้าที่ของตนๆ แล้วดับไปเท่านั้น

ขออนุโมทนาครับ

พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงที่เป็นอริยสัจจธรรม ซึ่งเป็นธรรมะส่วนละเอียดที่เป็นสากล คือ เป็นความจริงโดยทั่วไป ไม่จำกัดว่าจะเป็นใคร นับถือศาสนาอะไร ความเชื่อต่างๆ แบ่งโดยใหญ่ๆ มีเพียงสอง คือความเชื่อด้วยความเห็นถูก กับความเชื่อด้วยความเห็นผิด
ความเชื่อด้วยความเห็นถูก คือเกิดความเข้าใจจากการฟังความเป็นจริงของธรรมะ มีปัญญาเกิดร่วมด้วย ในขณะนั้นเป็นกุศลจิต อวิชชาไม่เกิด แต่ถ้าเชื่อด้วยความเห็นผิดคือไม่รู้ความเป็นจริงของธรรมะ มีการยึดถือความเชื่อที่ผิดๆ นั้น ขณะนั้นจิตเป็นอกุศลมีอวิชชาเกิดร่วมด้วย

ศาสนาอื่นสอนให้ทำความดีก็มีมาก แต่ความดีในศาสนานี้ให้ถึงความหลุดพ้นทั้งในความดีและความชั่วทั้งหลาย ที่จะเป็นเหตุให้สภาพธรรมเกิดต่อไป

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พุทธก็บอกว่าอยู่แล้วครับว่า ผู้ทรงตรัสรู้ ตรัสรู้อะไร ตรัสรู้ความจริงว่าขณะนี้เป็นสภาพธรรมไม่ใช่เรา ตรัสรู้ความจริงว่าทุกอย่างมีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น รู้ความเป็นจริงว่าเพราะกิเลสจึงเกิดทุกข์ เพราะดับกิเลสหมดจึงไม่มีทุกข์ รู้ความจริงหนทางดับกิเลสคือ เข้าใจความจริงที่มีในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ดังนั้น คำสอนใดที่ไม่เข้าใจความจริงที่กล่าวมาก็คือความไม่รู้ ยังยึดถือว่าเป็นเรา ไม่เข้าใจว่าเป็นธรรม ตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ด่วยปัญญา

เชิญคลิกอ่านข้อความในพระไตรปิฎดเพิ่มเติมที่นี่ครับ อายาจนสูตร .. พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และพบทางบริสุทธิ์ ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี แต่ศาสนาพุทธเน้นเรื่องของปัญญา เพราะปัญญาที่ถึงโลกุตตรจึงจะดับกิเลสได้ค่ะ