ควรอย่างยิ่งที่จะติเตียนตนเอง

ตราบใดที่ยังมีกิเลส การกระทำ หรือ การพูด อาจจะไม่ดีตามการสั่งสมมาของแต่ละบุคคล เวลาที่ตนเองได้กระทำในสิ่งที่ไม่ดีลงไปแล้ว ควรที่จะติเตียนตัวเองได้แล้วในขณะนั้น เวลาที่คนอื่นกระทำไม่ดี ดูเหมือนจะน่ารังเกียจมากแต่เวลาตัวเองทำ ไม่ค่อยจะเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ขณะนั้นเป็นกิเลสของเราเองไม่ใช่กิเลสของคนอื่น ดังนั้นจึงควรที่จะติเตียนตัวเองเพื่อจะได้สำรวมให้ดีต่อไปครับ

ถ้าเป็นผู้ที่ติเตียนตัวเองได้บ่อยๆ เนืองๆ เห็นกิเลสของตัวเองบ่อยๆ เห็นว่าเป็นการกระทำที่เป็นโทษเป็นภัย นั่นย่อมเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่จะทำให้ละสิ่งที่ไม่ดีนั้นให้ลดน้อยลงได้ ครับ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

แว่นมีไว้ทำอะไร มีไว้ส่องคือส่องดูกาย วาจา ใจของเราเองว่าสิ่งใดควรทำ ไม่ควรทำ มีประโยชน์หรือมีโทษ เมื่อพิจารณาด้วยปัญญาย่อมเห็นโทษของตัวเองและขัดเกลากิเลส จุดประสงค์ของการศึกษาธรรมคือเพื่อขัดเกลากิเลส เป็นคนดีครับ ขออนุโมทนาคุณ khampan.a ครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

สาธุ

อนึ่งควรสรรเสริญปูชนียบุคคลทั้งหลาย ผู้ควรสรรเสริญควรเดินไปตามทางที่ท่านเหล่านั้นได้เดินไปแล้ว

ชื่มชมกุศลกรรมของผู้อื่น - ติเตียนอกุศลกรรมของตนเอง...ขออนุโมทนาครับ...

ขออนุโมทนาครับ

เวลาที่คนอื่นกระทำไม่ดี ดูเหมือนจะน่ารังเกียจมากแต่เวลาตัวเองทำ ไม่ค่อยจะเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

ขออนุโมทนาค่ะ

ฟังธรรมะแล้วเห็นสิ่งไม่ดีของตัวเองมาก จึงต้องฟังเพื่อเข้าใจยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ อนุโมทนา

อนุโมทนาคุณคำปั่นค่ะ และเห็นด้วยกับคุณชุมพร จะเก็บคำพูดที่ดีมีค่านี้ไว้คอยเตือนตัวเองอยู่เสมอ

ผู้ที่เพ่งโทษของบุคคลอื่นเป็นผู้ที่ห่างไกลจากพระนิพพาน เพราะอาสวะกิเลสย่อมเกิดขึ้นกับบุคคลนั้นอย่างเดียวค่ะ