คำถามว่าด้วยการฆ่าตัวตาย
ทราบมาว่า "การฆ่าตัวตาย" ไม่เป็นอกุศลกรรมบถ เนื่องจากไม่มีการเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่น ทว่าการฆ่าตัวตายในสมัยนี้มีความพิสดารมากขึ้น อาทิ การกระโดดตึก หรือการกระโดดให้รถชน เหล่านี้แม้จะไม่มีการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นเป็นเจตนา แต่ก็ล้วนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนทั้งสิ้น จะถือเป็นอกุศลกรรมบถได้หรือไม่ อย่างไร
การฆ่าตัวตาย ไม่เป็นอกุศลกรรมข้อปาณาติบาต เพราะไม่มีเจตนาเบียดเบียนชีวิตของสัตว์อื่น การฆ่าตัวตายนั้นจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม ผู้นั้นไม่คิดถึงอย่างอื่นคือมุ่งที่จะทำลายชีวิตของตนเท่านั้น ลักษณะอย่างนี้ไม่เป็นอกุศลกรรมบถ แต่ถ้าคิดว่าเมื่อเราจะตายก็ให้คนอื่นเดือดร้อนหรือตายด้วย อย่างนี้มีเจตนาก่อนที่จะกระทำการนั้นๆ ถ้าผู้อื่นตายด้วยการกระทำนั้นๆ เป็นอกุศลกรรมบถข้อปาณาติบาต
ขอเรียนถามต่อนะครับว่า ผลกรรมหรือวิบากกรรมที่ต้องรับจากการฆ่าตัวตาย ด้วยวิธีต่างๆ นั้น คืออะไรครับ
กราบขอบพระคุณครับ
การฆ่าตัวตายไม่เป็นอกุศลกรรมบถ จึงไม่มีผลของกรรมหรือวิบากกรรม แต่เป็นการสะสมอกุศลจิต
เรียนถามต่อครับ ก็อาจจะถือการฆ่าตัวตายนั้นไม่ใช่กรรมหนักอันนี้พอจะสรุปได้มั้ยครับ เพราะแค่สะสมเป็นอกุศลจิต
กราบขอพระคุณครับ
ถูกครับ เป็นเพียงอกุศลจิตเท่านั้น ไม่ใช่อกุศลกรรมบถและมีโทษไม่มาก
การฆ่าตัวตาย ต้องตกนรกเสมอไปหรือคะ ถ้าหากเป็นการฆ่าตัวตายแบบถึงที่ตายจริงๆ จะตกนรกหรือไม่ และก่อนตายก็ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร คืออยากตายจริงๆ และก่อนตายไม่มีอกุศลจิต และเห็นภาพภพหน้าไม่ใช่นรกด้วยล่ะคะ และไม่ไช่การฆ่าตัวตายแบบคิดสั้นนะคะ คือต้องตายจริงๆ น่ะค่ะ ตายไปแล้วไม่ตกนรกด้วย ตายไปด้วยจิตสบาย หลุดพ้นจากทุกข์ กรณีนี้อาจารย์คิดว่ายังไงคะ กรณีนี้ต่างกับพวกที่คิดสั้นแล้วตกนรกนะคะ คือ เป็นข้อยกเว้นการฆ่าตัวตายที่ไม่ตกนรก กรณีนี้มีจริงหรือเปล่าคะ อยากรู้จากผู้ที่รู้จริงๆ อ่ะค่ะ
ถ้าถึงที่ตายจริงๆ ก็ไม่ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตายสิคะ เพราะหมดกรรมไปเอง ไม่มีเจตนาในการฆ่า กุศลจิตคือจิตขณะที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ แต่ถ้าอยากตายจริงๆ และก่อนตายจะไม่มีอกุศลจิตได้อย่างไรคะ ในเมื่อความอยาก (ตาย) ก็ถือว่าเป็นเโลภะ เป็นตัณหาอย่างหนึ่ง
ตอบคุณ fangfangfang
การฆ่าตัวตายไม่เป็นอกุศลกรรมบถ ไม่นำเกิดในอบายภูมิ แต่ถ้าผู้ที่ฆ่าตัวตายมีจิตเศร้าหมองก่อนตายย่อมเป็นปัจจัยให้อกุศลกรรมอื่นให้ผลนำเกิดในอบายภูมิได้
ในสมัยครั้งพุทธกาลมีพระภิกษุฆ่าตัวตาย ก่อนตายท่านเจริญวิปัสสนาสำเร็จเป็นพระอรหันต์ไม่เกิดในที่ใดอีกก็มี การเกิดเป็นมนุษย์แสนยาก ไม่ควรทำลายชีวิตที่ได้มาโดยยากนี้ ในภูมิมนุษย์นี้เป็นสุคติภูมิ ถึงแม้ว่าจะมีความทุกข์มากแค่ไหนก็ไม่หนักเท่ากับทุกข์ในภูมินรก ในภูมิเปรต ในนรก มีทุกข์มากกว่าความทุกข์ในภูมิมนุษย์ตั้งหลายร้อย หลายพัน หลายแสนเท่า หลายล้านเท่า
เมื่อ ๒๑ ปีก่อนนี้ เคยคิดและเคยทำ ตอนนั้นอายุน้อย และยังไม่ได้พบ ไม่ได้ฟังพระสัทธรรม อกุศลจิตแน่นอนขณะที่คิดทำเรื่องนี้ คิดว่าผู้มีกุศลจิตประกอบด้วยปัญญาคงไม่มีวันทำเป็นอันขาด เพียงแต่เหตุที่นำมาเกิดและให้ผลเป็นอัตภาพนี้ในภพนี้ยังไม่หมดไป จึงรอดมานั่งอ่านและเขียนอยู่ตรงนี้ได้ โชคดีที่ไม่ตาย ไม่งั้นคงหมดโอกาสที่จะได้ฟังพระสัทธรรม แทนที่จะได้สะสมความเห็นถูก ก็คงลงอบายไปก่อนเพราะกระทำด้วยความเห็นผิด แถมด้วยการสะสมของอกุศลจิตติดตัวไปในภพใหม่ด้วย
ใครที่กำลังคิดอยู่ก็ควรทำความเข้าใจให้ถูก เลิกคิดไปเถอะค่ะ โอกาสดีที่มี ที่ได้ฟังพระธรรมอยู่ในขณะนี้ ไม่ได้สาธารณะกับคนทั่วไปหรอกนะคะ
ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่สะสมมาดีแล้ว และที่กำลังสะสมต่อไปทุกท่านค่ะ