ไม่ได้อยู่ในตำรา
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้า ด้วยพระปัญญา เมื่อได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้พุทธบริษัทซึ่งเป็นผู้ฟัง ได้รู้แจ้งธรรมตามความเป็นจริง
จุดประสงค์ ก็คือ เพื่อให้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นธรรมนั้น ไม่ใช่ว่าอยู่ในตำรา ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้อยู่ในตำรา ครับ เพราะเหตุว่า ขณะนี้ทางตา ที่กำลังเห็น ก็เป็นธรรม ทางหู ที่กำลังได้ยิน ก็เป็นธรรม ความไม่พอใจ ความโกรธ ก็เป็นธรรม ความติดข้องต้องการ ก็เป็นธรรม ดีใจ เสียใจ เศร้าใจหดหู่ใจ กลัว ก็เป็นธรรม ทุกอย่างเป็นธรรมทั้งหมด เพราะเป็นสิ่งที่มีจริง ครับ
ที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้อยู่ในตำรานั้น ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องฟังไม่ต้องสอบถาม ไม่ต้องสนทนาธรรมกันเลย ในความเป็นจริงแล้วต้องอาศัยการอ่าน การฟัง การสนทนา การสอบถาม การพิจารณาไตร่ตรอง เพื่อที่จะช่วยให้เราเข้าใจ ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ครับ
* หมายเหตุ คำว่า ธรรม เขียนได้หลายแบบ ดังนี้ .- ธัมมะ (เหมือนกับ บ้านธัมมะ) ธรรมะ และ ธรรม ครับ *
ธรรมมีอยู่แล้วทุกขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ฯลฯ แต่อวิชชาปิดบังไม่ให้รู้ความจริง ผู้ที่อบรมปัญญาเท่านั้นจึงจะรู้ทั้งหมดเป็นธรรมะที่ไม่ใช่เราค่ะ
มีอยู่ในขณะนี้เอง อาศัยตำราหรือการฟัง สนทนาจึงเข้าใจสิ่งที่มีในขณะนี้
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา ที่ไม่ปฏิเสธตำรา เพราะความเข้าใจของตัวเอง (แม้ยังน้อยมาก) ก็มาจากตำรา ยังต้องอ่านตำราอยู่ เมื่อถาม ผู้ตอบก็ยังอ้างอิงตำราเพื่อความมั่นใจของผู้ฟัง
พระธรรมทุกส่วนละเอียดยิ่ง โดยเฉพาะพระอภิธรรมไม่ง่าย ที่จะเข้าใจได้โดยรวดเร็ว สำหรับคนในยุคนี้ สมัยนี้หากขาดการใส่ใจ ศึกษาสภาพธรรมที่กำลังเกิดปรากฏตามความเป็นจริงแล้วก็ยังไม่พ้นที่จะอยู่แต่ในโลกของเรื่องราวธรรมะโดยที่ไม่รู้จักตัวจริงของธรรมะอยู่ดี
ขออนุโมทนาครับ