ศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร

 
study
วันที่  29 เม.ย. 2551
หมายเลข  8479
อ่าน  3,039

[เล่มที่ 3] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค-ทุติยภาค เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๒๕๔

บทภาชนีย์ มาติกา สตรี ๑๐ จำพวก

[๔๒๘] สตรี ๑๐ จำพวก คือ

สตรีมีมารดาปกครอง สตรีมีบิดาปกครอง ๑

สตรีมีมารดาบิดาปกครอง ๑

สตรีมีพี่น้องชายปกครอง ๑

สตรีมีพี่น้องหญิงปกครอง ๑

สตรีมีญาติปกครอง ๑

สตรีมีโคตรปกครอง ๑

สตรีมีธรรมคุ้มครอง ๑

สตรีมีคู่หมั้น ๑

สตรีมีกฎหมายคุ้มครอง ๑

ภรรยา ๑๐ จำพวก

[๔๒๙] ภรรยา ๑ จำพวกคือ

ภรรยาสินไถ่ ๑

ภรรยาที่อยู่ด้วยความเต็มใจ ภรรยาที่อยู่เพราะสมบัติ ๑

ภรรยาที่อยู่เพราะผ้า ๑

ภรรยาที่สมรส ๑

ภรรยาที่ถูกปลงเทริด ๑

ภรรยาที่เป็นทั้งคนใช้เป็นทั้งภรรยา ๑

ภรรยาที่เป็นทั้งลูกจ้างทั้งเป็นภรรยา ๑

ภรรยาเชลยภรรยาชั่วคราว ๑

นิเทศแห่งหญิงเหล่านั้นปรากฏชัดแล้วแล

บรรดาหญิง ๑๐ จำพวกนี้ เฉพาะสองพวกหลังเท่านั้น เมื่อคบหาชายอื่นย่อมเป็นมิจฉาจาร พวกนอกนี้หาเป็นไม่ (หมายถึงสตรี ๑๐ จำพวกแรกที่ยังไม่มีสามี) มีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล เป็นมิจฉาจารแก่สตรีทั้ง ๑๐ จำพวกนี้ ในเพราะคบหาชายอื่น ก็ในสตรีทั้ง ๒๐ จำพวกนี้เป็นมิจฉาจารแก่พวกบุรุษ และก็เป็นการชักสื่อแก่ภิกษุด้วย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 29 เม.ย. 2551

มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒ หน้าที่ ๑๐๐

สตรี ๒๐ จำพวก สตรีที่มารดารักษาเป็นต้น ชื่อว่า อคมนียัฏฐานของพวกบุรุษ

ในบทว่า อคมนียัฏฺฐานวิติกฺกมเจตนา นั้น สตรี ๒๐ จำพวกนั้น จักมีแจ้งในมงคลข้อว่า การสงเคราะห์บุตรและภริยานั้น ด้วยเหตุนั้น ในอนุฎีกาวิมติวิโนทนีแห่งสัญจริตตสิกขาบท ท่านจึงกล่าวไว้ว่า "แท้จริง บุรุษทั้งหลายย่อมไม่ได้เพื่อจะถึง (ล่วง) สตรีที่ผู้ปกครองเหล่าใดเหล่าหนึ่งคุ้มครองรักษาไว้ เพราะฉะนั้น บุรุษเหล่านั้น ไป (ถึง) ในสตรี ๘ จำพวกมีสตรีที่มารดารักษา เป็นต้น จึงเป็นมิจฉาจารโดยแท้ เพราะสตรีเหล่านั้นอันผู้ปกครองทั้งหลายมีมารดา เป็นต้น รักษาไว้ โดยประการที่เธอจะสำเร็จการอยู่ร่วมกับบุรุษไม่ได้ บุรุษไปในสตรี ๑๒ จำพวก นอกจากสตรี ๘ จำพวกนั้นเป็นมิจฉาจาร (เหมือนกัน) เพราะเข้าไปในฐานะซึ่งไม่ใช่ของๆ ตน ที่ชนเหล่าอื่นห้ามแล้ว

ฎีกาสารัตถทีปนีว่า "เป็นมิจฉาจาร เพราะสตรีเหล่านั้นถูกบุรุษลักผัสสะที่คนเหล่าอื่นรักษาคุ้มคองแตะต้องแล้ว"

[๒๐๕] ก็ในสตรี ๒๐ จำพวก บุรุษเหล่าอื่น ชื่อว่าเป็นอคมนียัฏฐานของสตรี ๑๒ จำพวก มีสตรีมีอารักขา เป็นต้น. ด้วยว่าพวกสตรีที่บุรุษคนใดคนหนึ่งถือโดยความเป็นภริยาเท่านั้น ไม่ได้เพื่อจะถึงบุรุษอื่น, เพราะฉะนั้น สตรี ๑๒ จำพวกเหล่านั้นเท่านั้นชื่อว่าเป็นมิจฉาจาร ในเพราะถึงบุรุษอื่น เพราะตัวมีสามี. จริงอยู่ สตรีเหล่านั้นขโมยผัสสะซึ่งเป็นของสามี ยังการอภิรมให้เกิดขึ้นแก่บุรุษเหล่าอื่น เพราะฉะนั้น สตรีเหล่านั้นจึงเป็นมิจฉาจาร.

ส่วนสตรี ๘ จำพวกนอกนี้มีสตรีที่มารดารักษา เป็นต้น ชื่อว่าไม่เป็นมิจฉาจาร ในเพราะถึงบุรุษอื่น เพราะตัวยังไม่มีสามี. อีกอย่างหนึ่ง สตรีเหล่านั้นชื่อว่าไม่เป็นมิจฉาจาร เพราะตนมีผัสสะที่ใครๆ หวงห้ามไม่ได้และเพราะตนเป็นเจ้าของแห่งผัสสะเอง. ผู้ปกครองทั้งหลายมีมารดา เป็นต้น ย่อมรักษาสตรีเหล่านั้นไว้ เพื่อชมเชยผัสสะของสตรี เหล่านั้นเองก็หามิได้, ผู้ปกครองเหล่านั้น ป้องกันอนาจารอย่างเดียว จึงห้ามการถึงบุรุษอื่นแห่งสตรีเหล่านั้นเสีย, เพราะฉะนั้น ผูปกครองทั้งหลายมีมารดา เป็นต้น จึงหาชื่อว่าเป็นใหญ่ในผัสสะของสตรีเหล่านั้นไม่แล.

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 18 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ