จงตั้งใจฟังพระธรรม
เหมือนหยอดน้ำมันไขข้อของราชสีห์ลงในหลอดทองที่แสนเล็ก
... คนที่ฟังพระธรรมในครั้งโน้น จะเห็นได้ว่า เมื่อไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคแล้วพระผู้มีพระภาคจะตรัสว่า “ จงตั้งใจฟัง เราจะแสดง ” หรือ “ เราจะกล่าว ” นี้ก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่พระองค์จะกล่าวนี้ไม่ใช้สิ่งซึ่งใครเพียงฟังเผินๆ แล้วจะคิดว่าเข้าใจ แต่ว่าจะต้องมีความตั้งใจจริงๆ ที่จะฟังให้เข้าใจในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง มีคำอุปมาว่าการตั้งใจฟังพระธรรมนี้ เพราะเหตุว่าพระธรรมเป็นสิ่งซึ่งยากและก็ละเอียด แม้ว่าเป็นสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่ถ้าพระผู้มีพระภาคไม่ทรงตรัสรู้ ไม่ทรงแสดง เราจะไม่มีวันที่จะเข้าใจสภาพธรรมะตามความเป็นจริงได้ เพราะฉะนั้น ผู้ใดก็ตามที่มีโอกาสที่จะได้ฟัง ควรที่จะมีความจะตั้งใจฟังอุปมาเหมือนกับ “หยอดน้ำมันไขข้อของราชสีห์ลงในหลอดทองที่แสนเล็ก”ลองคิดดู สิ่งที่ได้ยินทางหูนี้ กว่าจะค่อยๆ ไตร่ตรอง พิจารณา จนกระทั่งถึงใจหมายความว่า เข้าใจจริงๆ นี้ ไม่ใช่ว่าฟังเผินๆ หรือว่าบางคนก็อาจจะคุยกันกลายเป็นว่า เรื่องที่คุยนี้ สำคัญกว่า พระธรรมพระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงถึง ๔๕ พรรษา จากการที่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีถึงสี่อสงไขย แสนกัปหลังจากที่ทรงได้รับพยากรณ์จากพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่าทีปังกร ไม่นับก่อนๆ นั้น นี้ก็แสดงให้เห็นว่า โอกาสที่จะได้ฟังพระธรรม ไม่ใช่ว่าใครก็มีโอกาส แต่ต้องเป็นผู้ได้สะสมปัจจัยในอดีดมาแล้ว
อยากอ่านเรื่องเหมือนหยอดน้ำมันไขข้อของราชสีห์ กรุณาช่วยสงเคราะห์ที
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออ่านเรื่องเหมือนหยอดน้ำมันไขข้อของราชสีห์ด้วยคนค่ะ (พอดีเพิ่งเคยได้ยินน่ะค่ะ)
ขออนุโมทนาค่ะ
โอกาสของการฟังพระธรรม มิใช่หาได้โดยง่าย (การได้ฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก) พระธรรมนั้นไม่ได้สาธารณะทั่วไปกับทุกคน เพราะเหตุว่าเกิดมาเป็นคนเหมือนกัน แต่ผู้ที่ศึกษาธรรมไม่ได้มีกันทุกคน ขึ้นอยู่กับการสั่งสม ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละบุคคลจริงๆ คำกล่าวที่ว่า "เหมือนหยอดน้ำมันไขข้อของราชสีห์ลงในหลอดทองที่แสนเล็ก"
เป็นคำกล่าวที่แสดงถึงความตั้งใจฟังพระธรรม ใคร่ครวญพิจารณาตาม เพื่อความเข้าใจพระธรรมตรงตามความเป็นจริง และเมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงแล้ว ย่อมไม่ลืมเลือน ย่อมเป็นผู้ที่มีความมั่นคงในธรรม ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากพระไตรปิฎกเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
น้ำมันราชสีห์ที่ใส่ไว้ในภาชนะทองคำ