ได้ยินเสียง แต่ไม่รู้ความจริงในความเป็นธาตุ

 
คุณย่า
วันที่  3 พ.ค. 2551
หมายเลข  8537
อ่าน  2,049

สนทนาพื้นฐานพระอภิธรรม
ที่มูลนิธิฯ วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พ.ย. ๒๕๕๐

วิชัย ท่านอาจารย์กล่าวถึงเสียง ปรากฏโดยความเป็นเสียง เสียงที่ปรากฏโดยความเป็นธาตุที่เป็นเสียง ความรู้ความเข้าใจแตกต่างกันอย่างไรครับ

อาจารย์ ไม่มีใครสงสัยเสียงใช่ไหมคะ

วิชัย ไม่ครับ กำลังได้ยิน

อาจารย์ แล้วเสียงเป็นอะไร

วิชัย ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่ปรากฏทางหู

อาจารย์ เข้าใจอย่างนั้นหรือเปล่า หรือว่าเสียงก็เป็นเสียง เสียงนก เสียงกา เสียงอะไรต่างๆ ก็ยังคงเป็นเสียง รู้เพียงเสียงด้วยโสตวิญญาณที่ได้ยิน แต่ไม่เข้าใจความจริงว่า ทุกอย่างเป็นธาตุ รวมทั้งเสียง แม้เสียงก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง มีจริงๆ มิฉะนั้นแล้ว ก็คงจะไม่มีการติดข้องในเสียง ใช่ไหมคะ

วิชัย หมายความว่า ถ้าปัญญาเกิด รู้โดยความเป็นธาตุ ความติดข้องก็เป็นไปไม่ได้

อาจารย์ หมายความว่าทั้งหมด ต้องมีความเข้าใจ ความหมายของคำว่า ธาตุ คือธรรมชาติ ปกติธรรมดานี่ ทุกอย่างก็เกิดตามเหตุตามปัจจัยตลอดชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ไม่รู้ความจริง คือความเป็นธาตุหรือธรรมชาติแต่ละลักษณะที่ต่างกันไป แล้วก็ปรากฏเพียงแค่ให้ได้ยิน อย่างสิ่งที่ปรากฏทางตา จะติดข้องมากมายสักเท่าไรก็ตาม แต่ลักษณะแม้จริงของสิ่งที่แท้จริงที่ปรากฏทางตา ก็คือ เพียงให้เห็น เพราะฉะนั้นเสียงก็เช่นเดียวกัน เพียงให้ได้ยินเท่านั้นเอง คือ ความหมายของธาตุหรือธรรมชาติแต่ละชนิด ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตนคือ สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา ก็เพียงให้เห็น เสียงที่ปรากฏก็เพียงให้ได้ยินและดับแล้ว หมดแล้วด้วย จะรู้ไหมว่าเสียงเกิดแล้ว ดับโดยความเป็นธาตุซึ่งไม่กลับมาอีกเลย แต่ละลักษณะเหมือนธาตุอื่นๆ ถ้าไม่รู้อย่างนี้ ก็ไม่คลาย เพราะไม่รู้ว่าแท้ที่จริง แม้เสียงที่ปรากฏและได้ยินทุกวันนี้ ก็เป็นธรรมชาติ หรือธาตุชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับธาตุชนิดอื่นๆ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
คุณย่า
วันที่ 3 พ.ค. 2551

วิชัย การที่ปัญญาเกิด สติเกิดและสัจธรรมที่เป็นเสียงปรากฏแก่สตินี้ โดยความที่สติเกิดก็ทราบว่าเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง แต่การที่รู้ธาตุแต่ละธาตุ แม้เสียงหรือสิ่งที่ปรากฏมีความต่างกัน เพราะฉะนั้น ความรู้ที่ว่าโดยความเป็นธาตุอย่างหนึ่ง ความเข้าใจจะทราบถึงความต่างกันไหม ถึงความเป็นคนละธาตุ คนละอย่าง ที่ต่างกันอยู่แล้ว

อาจารย์ ที่ขาด ก็คือไม่รู้ว่าเป็นธาตุหรือเป็นธรรมชาติ เสียงนี้ไม่สงสัยแต่ไม่รู้ว่าแม้จริงของเสียง คือเป็นธาตุหรือเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง ธาตุหรือธรรมชาติ ที่เป็นเสียงต้องเกิดใช่ไหม แล้วก็ดับ อริยสัจข้อแรก คืออะไร

วิชัย ทุกขอริยสัจ

อาจารย์ คือ การเกิดขึ้นและดับไปของธรรมชาติ เพราะฉะนั้น แม้เสียงก็ไม่ได้ประจักษ์การเกิดขึ้นและดับไป เพราะฉะนั้น ถ้าจะกล่าวว่าเสียงเป็นธรรมชาติ เสียงมีจริงๆ ในขั้นการฟัง เสียงมีจริงแน่นอน ก็ฟังก็รู้ว่าเสียงมีจริง แต่พอฟังแล้ว รู้ว่าเสียงเป็นธรรมชาติซึ่งเกิดดับ และทุกคนก็เหมือนจะไม่สงสัย เพราะไม่มี แล้วมี แล้วหามีไม่ เวลาที่ไม่มีเสียงแล้วมีเสียงแล้วเสียงก็หมดไป ฟังเหมือนเข้าใจ ว่านี่ก็ทุกขอริยสัจ แต่ตราบใดที่ยังไม่เห็นความเป็นธาตุของเสียง เช่นเดียวกับธาตุที่กำลังปรากฏทางตาเสมอกันหมด รูปเป็นสัจธรรมที่มีจริงปรากฏให้เห็น ให้รู้ความเย็น ความร้อน ความอ่อน ความแข็งแล้วไม่มีอะไรเหลือเลย นี่คือ “รูปธาตุ”

เพราะฉะนั้น ถ้ามีความเข้าใจอย่างนี้ จะค่อยๆ คลายการที่เป็นเสียงหนี่งเสียงใด แล้วก็ติดข้องในเสียงนั้นเหมือนกับทางตา พอปรากฏแล้วก็ไม่รู้ความจริงว่าเกิดดับ แล้วก็ไม่กลับมาอีก แต่ปรากฏเป็นนิมิตเหมือนว่ามีสิ่งที่เที่ยง ก็ยังคงติดข้องอยู่

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 3 พ.ค. 2551

ยากแสนยากที่จะรู้ความจริงในขณะนี้เป็นธรรมะที่มีจริงกำลังปรากฏค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ทศพล.com
วันที่ 3 พ.ค. 2551
ขออนุโมทนาคุณ ถอดเทป
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
lichinda
วันที่ 4 พ.ค. 2551

รู้เพิ่มขึ้นครับ ขออนุโมทนาการเห็นสภาพธรรมว่าไม่ใช่เรา นอกจากกอปรด้วยรูปนามแล้วต้องเป็นธาตุแต่ละชนิด ไม่มี มีแล้ว หามีไม่ และไม่ใช่นิมิตเป็นนั่นเป็นนี้ครับ ความจริงก็เคยได้ฟังมาก่อน แต่เผินๆ พอได้ฟังอีก ก็เข้าใจมากขึ้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
lichinda
วันที่ 4 พ.ค. 2551
แต่ก็ยังได้ยินเป็นเสียงนกเสียงกาอยู่ และยินดีพอใจอยู่ครับแหม! กิเลสนี้ คงทน แนบแน่นจริงๆ แนบแน่นอย่างนี้ ถ้าเป็นปัญญาก็ดีนะครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
narong.p
วันที่ 4 พ.ค. 2551

นอกจากต้องรู้ว่า เสียง เป็นเพียงธาตุอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแล้วดับไป ยังต้องรู้ด้วยว่า จิตได้ยินเกิดขึ้นรู้เสียงนั้นแล้วก็ดับไปก็เป็นเพียงธาตุอีกชนิดหนึ่งไม่ใช่เราที่ได้ยินเสียงค่อยๆ คลายความเป็นเราที่รู้เสียงโดยรู้ว่า ทุกอย่าง เป็น ธรรมะ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 4 พ.ค. 2551
กำลังค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้น ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pamali
วันที่ 16 ต.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอจ. คุณวิชัย. และทุกๆ ท่านในเว็ปบ้านธรรมนี้ต่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ