เริ่มชินหรือยัง?

 
พาราระวี
วันที่  4 พ.ค. 2551
หมายเลข  8564
อ่าน  1,257

ฟังธรรมะเพื่อเข้าใจและขัดเกลากิเลส มิใช่เพื่ออย่างอื่น ฟังเพื่อน้อมไปเพื่อเห็นว่าเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่ง เป็นสภาพธรรมะที่กำลังปรากฎ ถ้ายังไม่เข้าใจก็ไม่เดือดร้อนให้รู้เสมอว่าอวิชชามีมากเหลือจะประมาณแล้วใครเล่าจะไป "ทำ" หรือ บังคับบัญชาให้สติเกิดได้ตลอด แต่การได้ฟังพระธรรมเมื่อสะสมความเข้าใจเพิ่มขึ้นก็จะเริ่มชินขึ้นๆ ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 5 พ.ค. 2551

ไม่พักไม่เพียร ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดแต่ก็กำลังค่อยๆ เริ่มชินแล้วค่ะ

ทั้งเรื่องที่เป็นความพอใจหรือไม่พอใจ ไม่คิดอยู่นานมากเหมือนเมื่อก่อน เพราะทุกอย่างเป็นธรรมะ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ทุกเรื่องทุกอย่าง ทั้งกุศลและอกุศลเรียกคืนกลับมาไม่ได้ ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกก็ไม่ได้ อยากให้เกิดหรือไม่อยากให้เกิดก็ไม่ได้ ทุกอย่างเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ทำได้แค่ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษา

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 6 พ.ค. 2551

ได้ฟังพระธรรมเมื่อสะสมความเข้าใจเพิ่มขึ้นก็จะเริ่มชินขึ้นๆ ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะเวลาเห็นหรือได้ยินข้อความนี้มักถอนหายใจ เมื่อ่ไรนะจะชินว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ คำตอบมีว่าเมื่อไรก็เมื่อนั้น หากอยากชินเป็นก็อกุศลอีกจริงคะ ถึงท้ออย่างไรก็ไม่พักไม่เพียรไม่พักไม่เพียรอย่างไร เชิญคลิกอ่านไม่พักไม่เพียร

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 6 พ.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 6 พ.ค. 2551
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 6 พ.ค. 2551

การชินเป็นลักษณะการปรุงแต่งของนามขันธ์นั่นเอง ชินด้วยเวทนาความรู้สึก ชินเพราะสัญญาขันธ์จำ ชินเพราะสังขารขันธ์และวิญญาณขันธ์เกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้นบ่อยๆ


ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม เราย่อมคุ้นชินกับโลกของเรื่องราวสมมติบัญญัติ เมื่อเริ่มฟังใหม่ๆ ยังไม่คุ้นชินกับพระธรรมคำสอน ทำให้บางคราวรู้สึกขัดกับความรู้ที่เคยชินมานานก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม จนบางทีก็เกิดโทสะ ผู้ที่สะสมมาที่จะเห็นประโยชน์ของพระธรรม มีวิริยะและขันติที่จะฟังต่อไป จนความชินในพระธรรมคำสอนมากขึ้น ทีละน้อย ทีละน้อย ทำให้สัญญาขันธ์จำคำสอน และสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติเกิดขึ้น "ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฎตามปกติตามความเป็นจริง"

เมื่อสติปัฏฐานเริ่มเกิดก็ยังไม่ชิน ต้องอดทนอบรมต่อไป สัญญาขันธ์เริ่มจำลักษณะของสภาพธรรม สังขารขันธ์ค่อยๆ ปรุงแต่งไปจนกว่าจะชินกับลักษณะที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน จนกว่าจะเป็นความรู้แจ้งขั้นวิปัสนาญาณไปจนถึงการรู้แจ้งพระนิพพาน เราจึงควรพิจารณาตนเนืองๆ ว่า เริ่มชินหรือยัง?

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pornpaon
วันที่ 6 พ.ค. 2551
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 5 โดย K

การชินเป็นลักษณะการปรุงแต่งของนามขันธ์นั่นเอง ชินด้วยเวทนาความรู้สึก ชินเพราะสัญญาขันธ์จำ ชินเพราะสังขารขันธ์และวิญญาณขันธ์เกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้นบ่อยๆ


ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม เราย่อมคุ้นชินกับโลกของเรื่องราวสมมติบัญญัติ เมื่อเริ่มฟังใหม่ๆ ยังไม่คุ้นชินกับพระธรรมคำสอน ทำให้บางคราวรู้สึกขัดกับความรู้ที่เคยชินมานานก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม จนบางทีก็เกิดโทสะ ผู้ที่สะสมมาที่จะเห็นประโยชน์ของพระธรรม มีวิริยะและขันติที่จะฟังต่อไป จนความชินในพระธรรมคำสอนมากขึ้น ทีละน้อย ทีละน้อย ทำให้สัญญาขันธ์จำคำสอน และสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติเกิดขึ้น "ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฎตามปกติตามความเป็นจริง"

เมื่อสติปัฏฐานเริ่มเกิดก็ยังไม่ชิน ต้องอดทนอบรมต่อไป สัญญาขันธ์เริ่มจำลักษณะของสภาพธรรม สังขารขันธ์ค่อยๆ ปรุงแต่งไปจนกว่าจะชินกับลักษณะที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน จนกว่าจะเป็นความรู้แจ้งขั้นวิปัสนาญาณไปจนถึงการรู้แจ้งพระนิพพาน เราจึงควรพิจารณาตนเนืองๆ ว่า เริ่มชินหรือยัง?

อ่านรายละเอียดแล้วจึงรู้สึกว่าตนเองยังเป็นผู้ชินกับความหยาบอยู่มากกว่าที่คิด

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jurairat
วันที่ 6 พ.ค. 2551
ยังไม่ชินค่ะ เพราะสติเพิ่งเริ่มเกิดวันละนิดวันละหน่อย ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
C.pongsiri
วันที่ 7 พ.ค. 2551

ชินกับความคิดว่าไม่มีตัวตน แต่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดกับตนเองเรียกว่าสติหรือไม่

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 7 พ.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
happyindy
วันที่ 7 พ.ค. 2551

และแล้วก็ได้รู้ว่า ยังไม่ได้ชินอะไรเลย

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 7 พ.ค. 2551

ชินกับความไม่รู้ ชินกับอกุศล ชินกับความยึดถือว่าเป็นสัตว์เป็นบุคคล ตัวตน

ไม่ชินกับการรู้ว่าสภาพธรรม ไม่ชินกับกุศลธรรมประการต่างๆ ไม่ชินกับทุกอย่างเพื่อละความเข้าใจถูก ทำให้ชินในทางที่ถูกโดยเริ่มจากการฟังว่าขณะนี้เป็นธรรมและธรรมคืออะไร

ไม่ชินก็ไม่เป็นไรเพราะเป็นธรรมและเป็นอนัตตา จะชินหรือไม่ชินก็ไม่ใช่เราและเป็นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
อิสระ
วันที่ 8 พ.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
opanayigo
วันที่ 10 พ.ค. 2551

ฟังเพื่อละความไม่รู้ เพื่อเข้าใจ

ฟังเพื่อรู้เพื่อละ ในสิ่งที่รู้ มิใช่เพื่อรู้พยัญชนะ

อาศัยชื่อ ไม่ใช่ชื่อ รู้ ละ วาง

ต้องเข้าใจ ถึงวางได้อย่างไม่ตั้งใจ

ค่อยๆ สะสมทีละนิดค่ะ ตามเหตุปัจจัยซึ่งบังคับไม่ได้

อนุโมทนานะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
narong.p
วันที่ 30 พ.ค. 2551

ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้น หากรู้ว่า ตนเองยังไม่รู้อะไรและยังไม่ชินกับความเป็นสภาพธรรม ครับ

หากคิดว่าเริ่มชินหรือชินแล้วก็จะเป็นเครื่องกั้นปัญญาที่จะรู้ตามความเป็นจริงว่ามีแต่เพียง รูปธรรม นามธรรม เท่านั้นจริงๆ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ