หลงจำไว้มั่นคงว่ามีเราเพราะมีอัตตสัญญา
สนทนาพื้นฐานพระอภิธรรม
ที่มูลนิธิฯ วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พ.ย. ๒๕๕๐
อรวรรณ ที่เข้าใจว่าเป็นเรา ก็เป็น นามธรรม
อาจารย์ โดยชื่อ แต่ลักษณะไม่ได้ปรากฏกับสติสัมปชัญญะ เพราะฉะนั้น ก็มีปัญญาต่างระดับ ขั้นฟังเข้าใจ แต่ไม่สามารถจะรู้ลักษณะของสัจธรรมที่เป็นธรรมะจริงๆ เพราะเป็นเพียงเข้าใจเรื่องราวของสัจธรรม จนกว่าสติสัมปชัญญะเกิดเมื่อไร เมื่อนั้น คนนั้นก็รู้เอง ไม่ใช่ขณะที่ไม่มีสติ หรือว่าขณะที่สติไม่เกิด แต่ว่าขณะนั้นสติเกิดจึงมีลักษณะของธรรมที่เคยได้ฟัง เข้าใจแล้ว ขณะนั้นปรากฏกับสติด้วยก็เป็นการอบรมค่ะ การที่จะรู้ลักษณะของสัจธรรม ซึ่งเป็นจริงตรงกับที่ได้ฟังทุกอย่าง ในขณะที่กำลังรู้แข็ง อย่างอื่นมีไหม ไม่มี เพราะเกิดดับเร็วมาก เหมือนยังมีใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้น เป็นขณะที่ต่างกัน จะต้องมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น จนกระทั่งอะไรก็ไม่ปรากฏ นอกจากสิ่งที่ปรากฏและจิตที่กำลังรู้ตรงแข็งนั้นเท่านั้น
เพราะฉะนั้น นี้เป็นทางที่จะทำให้ไม่มีเรา มิฉะนั้น ก็ยังมีเราตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน จะพูด จะคิด มีเราทั้งนั้น เพราะจำไว้มากมาย เหมือนกับขณะนี้มีฟันไหม มีปอดไหม มีหัวใจไหม มีหรือเปล่าคะ? มี ไม่ได้ปรากฏ ก็บอกว่ามี นี่น่ะ แสดงว่า จำไว้หมด ว่าเป็นเรา ทั้งๆ ที่สัจจธรรมนั้น เกิดแล้วดับแล้วหมดไม่เหลือเลย นามธรรมและรูปธรรม นี้ เกิดดับเร็วเกินกว่าที่จะประมาณได้ ร่างกายในขณะนี้เหมือนยั่งยืนแต่มีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ ระหว่างจิตเห็นกับจิตได้ยิน จิตเกิดดับเกิน ๑๗ ขณะ เพราะฉะนั้น ร่างกายที่จำไว้ว่านี้ไม่ได้มี เกิดแล้วดับแล้วหมดค่ะ
ถ้าเข้าใจอย่างนี้ ก็ไม่มีเรา นามธรรมก็ไม่เป็นเรา ทั้งรูปธรรมก็ไม่เป็นเรา แต่อัตตสัญญาที่จำไว้มากมายมั่นคง แม้ฟังอย่างนี้ ก็ยังไม่สามารถจะละ อัตตสัญญาได้ จนกว่า สติสัมปชัญญะ จะเกิดและเริ่มรู้ลักษณะของสัจจธรรมทีละลักษณะจริงๆ แล้วก็มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นในลักษณะของธรรมที่เป็นธรรม แล้วก็มีการละคลายความไม่รู้ ความติดข้อง จึงจะสามารถประจักษ์การเกิดดับของสัจธรรมได้