เมื่อต้องฉีดยา

 
หาคำตอบ
วันที่  14 พ.ค. 2551
หมายเลข  8648
อ่าน  3,564

เมื่อพระภิกษุอาพาธ ต้องได้รับการฉีดยา ถ้านางพยาบาลมาฉีดให้เป็นอาบัติหรือไม่

แม้ท่านไม่มีจิตยินดี ในกรณีอย่างนี้ มีข้อปฏิบัตอย่างไรสำหรับพระภิกษุ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 14 พ.ค. 2551
ตามพระวินัยบัญญัติ เมื่อพระภิกษุอาพาธ หน้าที่ของการพยาบาลพระภิกษุอาพาธต้องเป็นพระภิกษุด้วยกันดูแลรักษาพยาบาล แต่ถ้ามีนายแพทย์ที่มีศรัทธามารักษาที่วัดก็จะเป็นการดี ไม่ควรให้หมอผู้หญิงหรือพยาบาลถูกต้องตัวพระภิกษุ เพราะอาจจะทำให้พระท่านต้องอาบัติหนักได้ เพราะธรรมชาติของจิตปุถุชนกลับกลอก ถ้ามีความพยายามทางกายเพียงนิดเดียว ก็เป็นอาบัติแล้ว ดังนั้น เมื่อมีความจำเป็นต้องไปหาหมอ เพื่อรักษาพระวินัย ควรให้หมอผู้ชายหรือบุรุษพยาบาลรักษาฉีดยาดีกว่าครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 14 พ.ค. 2551

ถ้านางพยาบาลฉีดยาให้ หรือถูกตัวพระภิกษุ ถ้าพระภิกษุไม่มีความยินดีในสัมผัส ไม่อาบัติค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornchai.s
วันที่ 14 พ.ค. 2551

แม้ภิกษุที่เป็นพระอริยะ ขั้นพระโสดาบัน ก็ยังมีความยินดีใน รูป เสียง กลิ่น รส

สัมผัสทางกาย (โดยเฉพาะสัมผัสทางกายจากมาตุคาม)

ทางที่ดีภิกษุปุถุชน และภิกษุอริยะที่มิใช่ พระอนาคามีและพระอรหันต์

ไม่ควรให้มาตุคาม (แม้แต่มารดา) ถูกต้องร่างกายครับ

และถึงแม้จะไม่มีความยินดีในสัมผัสทางกายจากมาตุคาม

แต่การที่ภิกษุนั้นอนุญาตให้มาตุคามจับเนื้อต้องตัว

ย่อมเป็นข้อครหาติเตียน จากผู้พบเห็นที่ไม่รู้ถึงวาระจิตของภิกษุนั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prissna
วันที่ 14 พ.ค. 2551

ถ้าในกรณีที่จำเป็นจริงๆ แม้ต้องอาบัติ ก็ควรรักษาชีวิตพระภิกษุไว้ก่อนกระมังคะ?

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
หาคำตอบ
วันที่ 15 พ.ค. 2551

ภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ว่าเป็นนางพยาบาล แต่ไม่ปฏิเสธ เพราะคิดว่าไม่มีผู้อื่นที่ทำหน้า

ที่นี้ ยื่นแขนให้ ไม่มีจิตยินดีในสัมผัสนั้น ไม่อาบัติใช่หรือไม่ ในกรณีนี้มีข้อยกเว้น

หรือไม่

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Sam
วันที่ 15 พ.ค. 2551

พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต สละทรัพย์ อวัยวะ และชีวิตเพื่อรักษาธรรม พระอริยเจ้าทั้งหลายจึงยอมตายแต่ไม่ยอมล่วงอกุศลกรรมบถเลย

สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชน ยังมีความรักตนเป็นปกติธรรมดา ส่วนภิกษุปุถุชนนั้น หากได้

ศึกษาพระวินัยครบถ้วน ย่อมมีทางออกหรือทางแก้สำหรับความจำเป็นอันถึงแก่ชีวิตซึ่งไม่ขัดกับพระวินัยบัญญัติ เช่นแม้ต้องอาบัติเพื่อรักษาชีวิตแล้วก็มีการปลงอาบัติให้ถูกต้อง และสำรวมระมัดระวังต่อไป

พระผู้มีพระภาคทรงทราบอัธยาศัยของสัตว์โลกทั้งหลาย จึงได้ทรงบัญญัติพระวินัยเพื่อปกป้องและเป็นแนวทางให้ภิกษุดำรงเพศอันประเสริฐได้โดยสะดวก มิได้เป็นบัญญัติเพื่อความอยู่เป็นทุกข์ของผู้ใดเลยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 15 พ.ค. 2551

ถึงภิกษุรู้ว่าเป็นนางพยาบาลฉีดยาให้ ไม่มีจิตยินดีในสัมผัส ไม่อาบัติค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
อนุโมทนา
วันที่ 15 พ.ค. 2551

ทุกอย่างเป็นธรรมและเป็นอนัตตาแม้จะถูกฉีดจากใครหรือถูกต้องบุคคลใด

แต่เมื่อใดยินดีอาบัติ ไม่ยินดีไม่อาบัติ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
suwit02
วันที่ 16 พ.ค. 2551
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 8 โดย อนุโมทนา

ทุกอย่างเป็นธรรมและเป็นอนัตตาแม้จะถูกฉีดจากใครหรือถูกต้องบุคคลใด

แต่เมื่อใดยินดีอาบัติ ไม่ยินดีไม่อาบัติ


สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
khampan.a
วันที่ 16 พ.ค. 2551
การรักษาจิตไม่ให้เป็นอกุศล ย่อมเป็นสิ่งที่ดี ครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
บักกะปอม
วันที่ 22 พ.ค. 2551
พระพุทธองค์ทรงทราบว่าจิตของปุถุชนนั้นมีธรรมดากลับกลอกผู้ที่เป็นภิกษุจึงควรสำรวมระวัง ฆราวาส เมื่อเห็นคุณของกุศลธรรมย่อมเห็นประโยชน์ของการสำรวม เช่น ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเรื่องไร้สาระไม่เข้าข้างตัวเอง...แม้เป็นอนัตตา การกระทำที่ก่อให้เกิดอกุศลจิตทั้งตนเองและผู้อื่น ไม่เป็นไปเพื่อการเลื่อมใส พึงสังวรณ์จึงเห็นด้วยกับ ความเห็นที่ ๑๐ โดยคุณคำปั่น เป็นอย่างยิ่งค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ