เมื่อต้องฉีดยา
เมื่อพระภิกษุอาพาธ ต้องได้รับการฉีดยา ถ้านางพยาบาลมาฉีดให้เป็นอาบัติหรือไม่
แม้ท่านไม่มีจิตยินดี ในกรณีอย่างนี้ มีข้อปฏิบัตอย่างไรสำหรับพระภิกษุ
ถ้านางพยาบาลฉีดยาให้ หรือถูกตัวพระภิกษุ ถ้าพระภิกษุไม่มีความยินดีในสัมผัส ไม่อาบัติค่ะ
แม้ภิกษุที่เป็นพระอริยะ ขั้นพระโสดาบัน ก็ยังมีความยินดีใน รูป เสียง กลิ่น รส
สัมผัสทางกาย (โดยเฉพาะสัมผัสทางกายจากมาตุคาม)
ทางที่ดีภิกษุปุถุชน และภิกษุอริยะที่มิใช่ พระอนาคามีและพระอรหันต์
ไม่ควรให้มาตุคาม (แม้แต่มารดา) ถูกต้องร่างกายครับ
และถึงแม้จะไม่มีความยินดีในสัมผัสทางกายจากมาตุคาม
แต่การที่ภิกษุนั้นอนุญาตให้มาตุคามจับเนื้อต้องตัว
ย่อมเป็นข้อครหาติเตียน จากผู้พบเห็นที่ไม่รู้ถึงวาระจิตของภิกษุนั้น
ถ้าในกรณีที่จำเป็นจริงๆ แม้ต้องอาบัติ ก็ควรรักษาชีวิตพระภิกษุไว้ก่อนกระมังคะ?
ภิกษุรู้อยู่ เห็นอยู่ ว่าเป็นนางพยาบาล แต่ไม่ปฏิเสธ เพราะคิดว่าไม่มีผู้อื่นที่ทำหน้า
ที่นี้ ยื่นแขนให้ ไม่มีจิตยินดีในสัมผัสนั้น ไม่อาบัติใช่หรือไม่ ในกรณีนี้มีข้อยกเว้น
หรือไม่
พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต สละทรัพย์ อวัยวะ และชีวิตเพื่อรักษาธรรม พระอริยเจ้าทั้งหลายจึงยอมตายแต่ไม่ยอมล่วงอกุศลกรรมบถเลย
สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชน ยังมีความรักตนเป็นปกติธรรมดา ส่วนภิกษุปุถุชนนั้น หากได้
ศึกษาพระวินัยครบถ้วน ย่อมมีทางออกหรือทางแก้สำหรับความจำเป็นอันถึงแก่ชีวิตซึ่งไม่ขัดกับพระวินัยบัญญัติ เช่นแม้ต้องอาบัติเพื่อรักษาชีวิตแล้วก็มีการปลงอาบัติให้ถูกต้อง และสำรวมระมัดระวังต่อไป
พระผู้มีพระภาคทรงทราบอัธยาศัยของสัตว์โลกทั้งหลาย จึงได้ทรงบัญญัติพระวินัยเพื่อปกป้องและเป็นแนวทางให้ภิกษุดำรงเพศอันประเสริฐได้โดยสะดวก มิได้เป็นบัญญัติเพื่อความอยู่เป็นทุกข์ของผู้ใดเลยครับ
ถึงภิกษุรู้ว่าเป็นนางพยาบาลฉีดยาให้ ไม่มีจิตยินดีในสัมผัส ไม่อาบัติค่ะ
ทุกอย่างเป็นธรรมและเป็นอนัตตาแม้จะถูกฉีดจากใครหรือถูกต้องบุคคลใด
แต่เมื่อใดยินดีอาบัติ ไม่ยินดีไม่อาบัติ
ทุกอย่างเป็นธรรมและเป็นอนัตตาแม้จะถูกฉีดจากใครหรือถูกต้องบุคคลใด
แต่เมื่อใดยินดีอาบัติ ไม่ยินดีไม่อาบัติ
สาธุ