โลภะ ...ถาม - ตอบตอนที่ 5 [จบ]
ถาม โลภะก็พอจะรู้บ้าง
ส. พอจะรู้ชื่อ หรือรู้ลักษณะ
ถาม รู้ลักษณะ
ส. ถ้ารู้ลักษณะแล้ว ในตอนต้นยังไม่รู้ว่าเป็นประเภทไหนใน ๘ ใช่ไหม คะ
ถาม ใช่ครับ
ส. ก็ระลึกต่อไป จนกว่าอาการที่ต่างกันของโลภะจะปรากฏว่า ในขณะนั้นโลภะนั้นเป็นลักษณะใดใน ๘ ประเภท
ถาม ก็ระลึกหลายทีแล้ว ก็ยังไม่เห็น จึงมาถามอาจารย์
ส. ชาตินี้คงจะเป็นพระอรหันต์แน่ค่ะ ถ้าหลายทีแล้วสามารถที่จะรู้ได้ใน
ลักษณะของโลภะ ๘ ประเภท ต้องเป็นพระอรหันต์แน่นอน ถ้าบุคคลนั้นสามารถที่ว่า เมื่อระลึกหลายทีแล้วสามารถรู้ได้ เพราะฉะนั้นแสดงว่า หลายทียังไม่พอ ใครรู้ บุคคลนั้นเองรู้ว่ายังไม่พอ ตรงตามความเป็นจริง เมื่อยังไม่พอแล้วหนทางจะเป็นอย่างไร จะขวนขวายอยากรู้โดยไม่เจริญเหตุที่จะให้รู้ ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือว่าจะเกิดความเดือดร้อนใจ เศร้าหมองใจว่า หลายทีแล้ว ทำไมยังไม่รู้ ก็เป็นการเปล่าประโยชน์ เหมือนกับเวลาที่ต้นไม้กำลังจะมีดอกมีผล เริ่มมีดอกตูมเล็กๆ ขึ้น แล้วท่านผู้ฟังก็ไปนั่งจ้องว่า เมื่อไรดอกนั้นจะโต แล้วจะบาน จ้องสักเท่าไรก็คงจะไม่เห็น เพราะว่าต้องอาศัยกาลเวลา ฉันใด การที่ท่านผู้ฟังจะนั่งนับว่า หลายทีแล้วก็ยังไม่รู้ลักษณะของโลภะประเภทต่างๆ แล้วก็อยากที่จะรู้ จะไม่มีวิธีอื่นเลยนอกจากอบรมเจริญสติ ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมโดยไม่เลือกโดยไม่เจาะจง จะต้องเจาะจงรู้ลักษณะของโลภะที่ต่างกันเป็น ๘ ประเภท สภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา แล้วแต่ว่าสติจะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมใด
บรรยายโดย ท่าน อ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ข้อความบางตอนจาก... แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๙๘๐
จะขวนขวายอยากรู้โดยไม่เจริญเหตุที่จะให้รู้ ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ขออนุโมทนาคะ
"ชาตินี้คงจะเป็นพระอรหันต์แน่ค่ะ ถ้าหลายทีแล้วสามารถที่จะรู้ได้ในลักษณะของโลภะ ๘ ประเภท ต้องเป็นพระอรหันต์แน่นอน ถ้าบุคคลนั้นสามารถที่ว่า เมื่อระลึกหลายทีแล้ว สามารถรู้ได้ เพราะฉะนั้นแสดงว่า หลายที ยังไม่พอ ใครรู้ บุคคลนั้นเองรู้ว่ายังไม่พอ ตรงตามความเป็นจริง."
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ครับ