พุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ
มีความเกี่ยวข้องกับพระนิพพานอย่างไรและมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกหรือไม่คะ (เคยได้ยินว่า การระลึกถึงพระพุทธคุณ ถึงที่สุด คือพระนิพพาน แต่จากการศึกษา มีหนทางเดียว คือ มรรคมีองค์ ๘) กรุณาอธิบายด้วยค่ะ
อนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สิ่งใดมีจริง เป็นธรรม สิ่งนั้นเป็นอารมณ์ของสติปัฏฐานได้ครับ ขณะที่ระลึกเป็นไปในพระพุทธคุณ ขณะนั้นมีสภาพธรรมที่มีจริงไหม มีจิตไหม มีเจตสิกไหม เป็นต้น สติก็สามารถระลึกรู้สภาพธรรมที่มีจริงในขณะที่ระลึกเป็นไปใน พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ... ได้ เป็นอารมณ์ของสติปัฏฐานได้ ซึ่งในพระไตรปิฎกแสดงไว้ว่าพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ เป็นไปเพื่อประโยชน์ในการอบรมเจริญวิปัสสนาได้ เช่น ขณะที่ระลึกถึงพระพุทธคุณ สติปัฏฐานย่อมระลึกสภาพธรรมที่มีจริงคือ จิต เจตสิกในขณะนั้น ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ย่อมเข้าใจถูกโดยปรมัตถ์ว่า พระพุทธเจ้าไม่มี มีแต่ธรรมในขณะนั้นคือ จิต เจตสิก และรูป เป็นต้น หรือเห็นถึงความไม่เที่ยง และจนสามารถแทงตลอดสภาพธรรมนั้น จนบรรลุก็ได้ครับ ดังนั้น หนทางเดียวคือสติปัฏฐาน แต่พุทธานุสสติ เป็นต้น ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ในการอบรมเจริญวิปัสสนาหรือสติปัฏฐานได้ครับ ดังได้อธิบายมา
ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากพระไตรปิฎกเล่ม 33 หน้า 175-180 ฉบับบมหามกุฎราชวิทยาลัย
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
อนุสสติ ๑๐ เป็นกรรมฐานประเภทหนึ่งในสมถกรรมฐาน ที่ทำให้จิตสงบจากนิวรณธรรมทุกประการ เป็นกรรมฐานที่เกื้อกูลให้กุศลธรรมเจริญมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังดับกิเลสไม่ได้ถ้ายังไม่เริ่มเจริญสติปัฏฐาน เป็นธรรมดาที่เราจะมีการคิดนึกถึงพระพุทธคุณของพระรัตนตรัยด้วยกุศลจิตหลังจากที่เกิดความเข้าใจ คือเกิดความเห็นถูก ตรงตามความเป็นจริงจากการฟังพระธรรม แต่ขณะที่ระลึกนั้นนั่นเอง ผู้ที่มีปรกติเจริญสติปัฏฐาน เมื่อสติเกิดก็จะมีความมั่นคงว่า แม้ที่กำลังคิดก็เป็นอนัตตา กุศลจิตที่เป็นไปในพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ไม่มีเราที่กำลังไปพยายามนึกถึงพระพุทธคุณประการต่างๆ โดยความจงใจ ตั้งใจ หรือตระเตรียมมาที่จะคิด แต่ที่กำลังคิดนั้น เป็นธรรม เป็นธาตุ เป็นสิ่งที่มีจริง คือ จิตและเจตสิกที่กำลังตรึกถึงบุคคล สัตว์สิ่งต่างๆ โดยที่ความจริงนั้น บุคคล สัตว์ สิ่งต่างๆ ไม่ใช่สิ่งที่มีสภาพธรรมปรากฏ แต่การคิดนึกทางใจมีจริง มีปรากฏ เป็นปรมัตถ์ สามารถเป็นอารมณ์ของสติปัฏฐานได้ครับ