ธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุปัจจัย เป็นอนัตตา

 
paisan.ju
วันที่  4 มี.ค. 2549
หมายเลข  875
อ่าน  1,756

ต้องขออภัย หากคำถามนี้ได้ถูกส่งไปแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่าส่งได้หรือไม่ เคยฟังธรรมว่านามธรรม รูปธรรม เกิดจากเหตุปัจจัย ไม่มีใครสร้างขึ้นได้ เป็นอนัตตา ขอถามดังนี้ ...

1. ทำไมเรามีความคิดที่จะเดิน และเราก็เดินไปตามความต้องการได้ ทำไมจึงว่าบังคับ บัญชาไม่ได้

2. ถ้าคนที่ไม่เคยสะสั่งการฟังธรรม และศึกษาธรรมมา เขาก็จะไม่มีทางที่จะมาฟังธรรม และศึกษาธรรมเลยใช่หรือไม่

3. ถ้าทุกสิ่งเกิดจากเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ เราก็ปล่อยตัวเฉยๆ ไม่ต้องศึกษาธรรม ไม่ต้องคิดที่จะเจริญกุศล แล้วกุศลก็จะเจริญเองได้หรือ

4. ถ้าเราสามารถเลือกที่จะฟังธรรมได้ เลือกที่จะทำดี จะขัดกับหลักอนัตตาหรือไม่

5. เราสะสมกิเลสมามากมาย อะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้กุศลเจริญขึ้นได้

ไม่เข้าใจครับ โปรดให้ความกระจ่างและคลายความสงสัยให้ด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 6 มี.ค. 2549

๑. ตามหลักสัจจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้คือ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เป็นไป ตามเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ โดยหลักของปรมัตถธรรมแล้วเป็นเช่นนั้นจริง จิต เจตสิก รูป ที่เป็นไปทุกขณะเพราะปัจจัยปรุงแต่ให้เป็นไป ที่ว่าบังคับบัญชาไม่ได้ คือ ไม่มีอัตตาเจ้าของที่เป็นใหญ่จะบังคับได้ แต่ด้วยความไม่รู้ เราก็รวมเหมาว่า เป็นเราบังคับได้ ความจริงแม้เราก็ไม่มี การบังคับจะมีได้อย่างไร อีกอย่างหนึ่งที่ว่า เมื่อมีความคิดจะเดิน ก็เดินไปได้ตามความต้องการนั้น ถ้าไม่มีปัจจัยคือ จิต เจตสิก และรูปที่เหมาะสมกับการเดินนั้น การเดินนั้นก็มีไม่ได้ เช่น คนที่ป่วยหนักไม่มีแรง หรือเป็นอัมพาต เป็นต้น แม้อยากจะลุกขึ้นเดินก็ไม่สามารถเดินได้ตามต้องการ

๒. ถ้าไม่เคยมีการสะสมมาเลย ย่อมไม่เห็นประโยชน์ของการฟังธรรม แม้ได้ยินก็ไม่สนใจ

๓. ผู้ที่มีปัญญา เมื่อเข้าใจความจริงย่อมเห็นประโยชน์และเจริญกุศลธรรมและย่อมเห็น โทษและพยายามเพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย คือ มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ไม่ปล่อยวันและคืนให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์

๔. ไม่ขัดเพราะการกระทำเหล่านั้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา

๕. กุศลธรรมทั้งหลายจะเจริญยิ่งขึ้นได้ เพราะอาศัยธรรมหลายประการ เช่น การคบ เพื่อนที่ดี การเห็นประโยชน์ของกุศล (ตามข้อ ๓) การฟังพระสัทธรรม โยนิโสมนสิการ เป็นต้น

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paisan.ju
วันที่ 8 มี.ค. 2549

ขอบคุณครับ ผมมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังสลัวๆ อยู่ครับ ขอถามเพิ่มเติมดังนี้

ความเป็นอนัตตา หมายถึง ความเป็นองค์รวมของเหตุปัจจัย เราไม่สามารถสร้างเหตุปัจจัยได้ ไม่สามารถบังคับบัญชาไปตามที่เราต้องการได้ แต่เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมจิต เจตสิก ก็เลือกที่จะเดินไปทางซ้ายหรือขวาได้ จิต เจตสิก ก็เลือก (น้อมไป) ที่จะฟังธรรมได้ ไม่ใช่เราเพราะเป็นเพียงแต่สภาพธรรมอย่างหนึ่งที่เป็นนามธรรม และรูปธรรม แต่ละอย่างๆ ไม่มีความเป็นกลุ่มเป็นก้อนที่จะบังคับบัญชาต้องการอะไรก็ได้ ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าเพราะเหตุในอดีตใช่หรือไม่

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
study
วันที่ 10 มี.ค. 2549

ความหมาย อนัตตา อรรถกถาวิภังค์ท่านอธิบายไว้ดังนี้

[เล่มที่ 77] พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 172

อนึ่ง จักขุนั้น ชื่อว่า เป็นอนัตตา ด้วยอรรถว่าไม่เป็นไปในอำนาจ.อีกอย่างหนึ่ง ความที่จักขุนั้นเป็นไปในอำนาจของใครๆ ในฐานะ ๓ เหล่านี้คือ จักขุนี้เกิดขึ้นแล้วขอจงอย่าถึงการตั้งอยู่ ถึงการตั้งอยู่แล้ว จงอย่าแก่ ถึงการแก่แล้ว จงอย่าแตกดับ ดังนี้ หามีได้ไม่ เป็นของสูง ไปจากอาการที่เป็นไปในอำนาจนั้น เพราะฉะนั้น จักขุนั้น จึงชื่อว่า เป็นอนัตตา เพราะเหตุ๔ เหล่านั้น คือ โดยความเป็นของสูญ ๑ โดยความไม่มีเจ้าของ ๑ โดยเป็นสิ่งที่ควรทำตามชอบใจไม่ได้ ๑ โดยปฏิเสธต่ออัตตา ๑.

เชิญคลิกอ่าน...

อธิบายอายตนะโดยไตรลักษณ์[วิภังค์]

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ