สงสัยเกี่ยวกับพระนิพพาน...2

 
เจริญในธรรม
วันที่  2 มิ.ย. 2551
หมายเลข  8787
อ่าน  1,339

ผมได้อ่านในหัวข้อก่อนหน้า เลยอยากถามว่า

1. สภาพนิพพานต่างกับการที่ดวงจิตแตกเนื่องจากไฟบรรลัยกัล ในยุคที่โลกมีการเผาด้วยไฟ พระอาทิตย์ 7 ดวงอย่างไร? ว่ากันว่า เผาผลาญสวรรค์ทุกชั้นเหลือไว้แค่ชั้นพรหม ชั้นที่ 3 ขึ้นไป

2. การที่เกิดสภาพพระนิพพานแสดงว่าดวงจิตนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ จบแล้วสำหรับการเวียนว่ายตายเกิดในวัฎฎะ แล้วสภาพนิพานก็คือเฉยๆ เช่นนี้ จะมีผู้ที่สามารถเห็นสภาพพระนิพพานนี้หรือไม่?

3. คนบางคนอาจบอกว่า หากยังไม่สามารถไปถึงพระนิพพานได้ อย่างงี้รอช่วงที่โลกมีการเผาด้วยไฟจนดวงจิตแตกก็เหมือนไม่มีสภาพทุกข์หรือสุขเช่นกัน ท่านคิดว่ารอดีหรือไม่?

ขออนุโมทนากับทุกคำตอบครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 2 มิ.ย. 2551

๑. ต่างตรงที่ ณ สถานที่นั้น ก็เป็นสถานที่ โอกาส มีรูป แต่พระนิพพานไม่ใช่สถานที่๒. การปรินิพพานของพระอรหันต์ คือ การสิ้นสุดวัฏฏะ ไม่มีการเกิดขึ้นอีกเลย แต่สภาพของพระนิพพานย่อมเป็นอารมณ์ของโลกุตตรจิตของพระอริยเจ้าทั้งหลาย ๓. ถึงอย่างตอนนั้นก็ไม่พ้นจากวัฏฏะ เพราะยังต้องเกิดอีก ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
อนุโมทนา
วันที่ 2 มิ.ย. 2551

ขณะนี้เป็นอย่างไร ให้เข้าใจว่านิพพานไม่ใช่อย่างนี้ ขณะนี้ ขณะนี้เห็นสิ่งต่างๆ เพราะอะไร เพราะมีสิ่งที่เกิดขึ้นคือสภาพธรรม ไม่ว่าเป็น จิต เจตสิก รูปที่เกิดขึ้น ถึงแม้สภาพธรรมต่างๆ จะแตกทำลายไปตามเหตุปัจจัย (เช่น ไฟไหม้กัปป์) แต่เมื่อมีเหตุก็เกิดขึ้นอีก การประจักษ์พระนิพพาน...ทัพพีย่อมไม่รู้รส ตาย่อมไม่ได้กลิ่น พระนิพพานไม่ใช่รู้เพราะคิดนึกเทียบเคียง แม้ฝันก็ไม่เคยฝันถึงพระนิพพาน เพราะประจักษ์ด้วยปัญญาระดับสูง สิ่งใดเกิดขึ้นในขณะนี้ พระนิพพานตรงข้าม เมื่อโลกทำลายสภาพธรรมเกิดขึ้นอีกตามเหตุปัจจัย เมื่อเกิดขึ้นก็ย่อมเป็นทุกข์ พระนิพพานไม่ใช่ประจักษ์เพราะการแตกทำลายแต่ด้วยปัญญา พระนิพพานไม่ใช่สภาพธรรมที่ไม่สุขไม่ทุกข์แบบความรู้สึก แต่เพราะไม่มีความเกิดของสภาพธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่งจึงเป็นสุข สุขไม่ใช่ความรู้สึกแต่สุขเพราะไม่เกิด

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 3 มิ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 3 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 3 มิ.ย. 2551

จิต เจตสิก รูป เป็นสังขารธรรม เพราะมีปัจจัยปรุงแต่ง เกิดแล้วดับ

นิพพาน เป็นอสังขารธรรม ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง นิพพานจึงไม่เกิด ไม่ดับ

นิพพาน ไม่ใช่เมืองแก้ว ไม่มีที่อยู่ จะประจักษ์นิพพานได้ด้วยปัญญาตามลำดับขั้นตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 3 มิ.ย. 2551

1. แตกต่างกันค่ะสภาพนิพพานเป็นสภาพที่หมดสิ้นกิเลส เป็นที่ระงับแห่งทุกข์ทั้งมวลเป็นที่สิ้นตัณหา เป็นที่ตัดวัฏฏะไม่ต้องเวียน ว่าย ตาย เกิดอีก เพราะเป็นธรรมที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง ส่วนจิตแตกดับ เนื่องจากไฟบรรลัยกัลในยุคที่โลกมีการเผาด้วยไฟนั้นยังเป็นจิตที่ยังไม่ได้ดับกิเลส เมื่อดับไปก็ต้องเวียน ว่าย ตาย เกิด อยู่ในวัฏฏะอีก

2. สภาพนิพพานเป็นสภาพที่ไม่เกิดอีก เมื่อไม่เกิดจึงไม่ดับ เป็นสุขอย่างยิ่ง ผู้ที่สามารถเห็นสภาพนิพพาน ก็คือพระอรหันต์ ท่านดับกิเลสเป็นสมุจเฉทตัดวัฏฏะได้แล้ว

3. ถ้ายังไม่อบรมเจริญสติปัฏฐานรู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง จนดับกิเลสทีละขั้น จนถึงบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วนั้น ก็หนีจากวัฏฏะไม่ได้ ถ้ารอช่วงที่โลกมีการเผาด้วยไฟ จนจิตแตกดับ ตราบใดที่จิตนั้นถ้ายังไม่หมดสิ้นกิเลส ก็ต้องไปเกิดอีก เวียนว่ายต่ายเกิดอยู่ในสังสารวัฏฏ์แน่นอน

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ