พระอภิธรรมยาก
เคยได้อ่าน แต่จำที่มาไม่ได้นะคะ ประมาณว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระอภิธรรม โปรดพุทธมารดาและเหล่าเทวดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพราะฉะนั้นจะยากเกินระดับ สติปัญญาของมนุษย์ จึงยังไม่จำเป็นต้องศึกษาพระอภิธรรม แต่หลังจากที่คิดว่าตัวเอง ได้กำลังเริ่มหัดก้าวเดินหนทางที่ถูกแล้ว ก็พอจะมีคำตอบงูๆ ปลาๆ อยู่ในใจ รบกวนขอ ความเห็นและคำตอบที่ตรงและกระจ่างด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
พระอภิธรรม คือสิ่งที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ธรรมะทั้งหมดมีอยู่ในขณะนี้ แต่ไม่ เคยรู้คือไม่รู้จักอภิธรรม พระองค์ทรงแสดงอภิธรรมตามกำลังปัญญาของแต่ละบุคคล เราสามารถศึกษาอภิธรรมให้ละเอียดมากขึ้น และอบรมเจริญปัญญาในขณะนี้ค่ะ
ซึ่งจากข้อความที่ว่า แสดงอภิธรรมตอนโปรดพุทธมารดา ดังนั้นพระอภิธรรมจึงยาก เกินไปสำหรับมนุษย์ ซึ่งจริงๆ แล้วนั้น เวลาเดียวกับที่พระพุทธเจ้าโปรดพุทธมารดา ท่านพระสารีบุตรก็แสดงอภิธรรมให้มนุษย์ได้ฟังกันด้วย สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมเป็นประโยชน์และสามารถรู้และปฏิบัติตามได้
พระอภิธรรมเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่สำคัญคือในขณะนี้ สภาพธรรมที่มีจริง เช่น เห็น เสียง มีจริงในขณะนี้ มีเฉพาะที่สวรรค์หรือเปล่า (สภาพธรรม) หรือขณะนี้ในภพภูมิ มนุษย์ก็มีด้วย การศึกษาพระอภิธรรม จุดประสงค์คือให้เข้าใจว่าขณะนี้เป็นธรรม เป็นอภิธรรมในชีวิตประจำวัน ขณะนี้เห็น เป็นเราที่เห็น ขณะนี้ได้ยิน เป็นเราที่ได้ยิน แต่พระอภิธรรมแสดงว่า เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เป็น จิตเห็น จิตได้ยิน ไม่มีเรามีแต่ สภาพธรรม มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น (ปัญญา) ความไม่รู้ก็น้อยลง ไม่รู้อะไร ไม่รู้ว่า เป็นธรรม รู้อะไร รู้ว่าเป็นธรรม รู้ได้อย่างไร ศึกษาพระอภิธรรมในเรื่องของสภาพธรรม ศึกษาอย่างไร ศึกษาให้เข้าใจก่อนว่า ธรรมคืออะไร อยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่ศึกษาเพื่อจำชื่อ เยอะๆ แต่ศึกษาเพื่อเกื้อกูลให้ปัญญาเจริญจนมั่นคงว่าขณะนี้เป็นธรรม ด้วยปัญญาที่รู้ จริงๆ โดยเริ่มจากการฟังว่า ธรรมคืออะไร ขณะที่เข้าใจขึ้น ก็ชื่อว่ากำลังเริ่มศึกษาพระ อภิธรรม แม้จะไม่ได้กล่าวว่าศึกษาพระอภิธรรมอยู่ก็ตาม เพราะอภิธรรมก็คือ สิ่งที่มีจริง ในชีวิตประจำวัน
อนุโมทนา ความคิดเห็นที่ 3
การศึกษาพระอภิธรรม จุดประสงค์คือให้เข้าใจว่าขณะนี้เป็นธรรม เป็นอภิธรรมใน ชีวิตประจำวัน .... ศึกษาเพื่อเกื้อกูลให้ปัญญาเจริญจนมั่นคงว่าขณะนี้เป็นธรรม ด้วยปัญญาที่รู้จริงๆ โดยเริ่มจากการฟังว่าธรรมคืออะไร ขณะที่เข้าใจขึ้น ก็ชื่อว่ากำลังเริ่มศึกษาพระอภิธรรม แม้จะไม่ได้กล่าวว่าศึกษาพระอภิธรรมอยู่ก็ตาม เพราะอภิธรรมก็คือสิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวัน
สาธุ
คำว่า อภิธรรม ฟังดูชื่อแล้ว หลายท่านกลัว แต่ที่จริงแล้ว อภิธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นจริง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะ ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไรก็ตาม สภาพธรรมไม่มีเปลี่ยน ขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึกขณะที่กุศลจิตเกิด เช่น ให้ทาน ช่วยเหลือผู้อื่น ฟังธรรม อ่อนน้อมต่อผู้ที่ควรแก่การอ่อนน้อม เป็นต้น ขณะที่อกุศลจิตเกิด ไม่ว่าจะเป็นความติดข้อง หรือ ความไม่พอใจขุ่นเคืองใจ เป็นต้น ขณะที่หลับสนิทไม่รู้อารมณ์ของโลกนี้ ... ทั้งหมด เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นอภิธรรม พระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้พุทธบริษัทเกิดปัญญาเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ครับ
อภิธรรม คือ สิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นอนัตตา คือไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด และ บังคับบัญชาไม่ได้ เกิดขึ้น ปรากฎ แล้วก็ดับไป ตามเหตุตามปัจจัย ซึ่งถ้าไม่อบรมให้มี ความเห็นถูกความเข้าใจถูกตามความเป็นจริงของสภาพธรรม ก็จะมีแต่ความเห็นผิด ความเข้าใจผิดความจริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นเหตุให้หลงยึดมั่นธรรมะว่าเป็นเรา และเป็นของเรา จึงนำมาซึ่งกิเลสและความทุกข์ทั้งปวง
สมัยที่ยังไม่เคยศึกษาพระอภิธรรม ก็เคยมีคนพูดให้ฟังเช่นกันว่าจะเรียนไปทำไม มีแต่ศัพท์ยากๆ ไม่เห็นเกี่ยวกับชีวิตประจำวันตรงไหน แต่ดิฉันดื้อไปเรียน (เพราะตอนนั้นว่างมาก) ได้ 2 เดือน ก็มีเหตุให้ไม่ว่าง คำตอบที่ดิฉันได้จากเวลา 2 เดือนนั้น คือ พระอภิธรรมนี่แหละสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นจริงในชีวิตประจำวันมากที่สุด
ขออนุโมทนาคุณวรรณี คุณอนุโมทนา และทุกความคิดเห็นค่ะ
ไม่จริงค่ะ
การศึกษาสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้นั้นมีค่ามากกว่าใบปริญญาซักใบมหาศาลค่ะ เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้สิ่งที่มีอยู่จริงมีอยู่ในขณะนี้ ควรจะเริ่มศึกษาตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ
ดีใจที่ได้ตัดสินใจถามมาหลังจากลังเลอยู่ เนื่องจากเคยคิดว่าสงสัยอะไร เดี๋ยว ค่อยๆ ศึกษาไป ก็จะพบคำตอบเอง หรือฟังไป อ่านไป เดี๋ยวก็คงเจอคำถามเหมือนเรา แต่ ครั้งนี้ก็ทำให้รู้ว่าถ้าสงสัยอะไรแล้วใช้คำค้นไม่เจอะ ควรจะถามเลย เพราะคำตอบที่ได้รับ ดีกว่า ตรงกว่าที่คิดไว้ และที่สำคัญเร็วกว่าที่จะรอพบคำตอบเอง
ขออนุโมทนาและขอบพระคุณทุกท่านค่ะ