ไม่ใช่ให้ตัวเราละความเป็นตัวตน
ธรรมนั้นลึกซึ้งและยากที่จะเข้าใจแม้ขั้นฟัง ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เข้าใจขึ้นว่าสิ่งที่มีจริงคือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน นามธรรมรูปธรรมเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป
ดังนั้นการฟังธรรม ว่าไม่มีตัวตน สัตว์ บุคคล เพื่อให้เกิดความเห็นถูก เป็นปัญญาที่รู้ถูก ไม่ใช่ตัวเราที่ เห็นถูกว่าไม่มีตัวตน จึงไม่ใช่เป็น ตัวเรา ที่จะละความเป็นตัวตนแต่เป็น ปัญญา เท่านั้นที่ละความเป็นตัวตน ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมที่เป็นความจริงที่มีในขณะนี้ การจะเข้าใจเป็นสิ่งที่ยากแม้ขั้นการฟัง เพราะสะสมความไม่รู้มามาก แต่ทุกอย่างอบรมได้ โดยสะสมเหตุเพราะธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุปัจจัย การจะเข้าใจความจริง ก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่จริง คือ เข้าใจขั้นการฟังว่าเป็นธรรม อะไรเป็นธรรม เป็นต้น นี่คือเหตุ เหตุย่อมสมควรแก่ผล แต่เหตุต้องถูก ผลจึงถูก ไม่ใช่ตัวเราที่จะอบรม ขณะที่เข้าใจ ขณะนั้นก็กำลังอบรมแล้ว ไม่ได้มีตัวตนไปพยายามอบรมธรรมทำหน้าที่อบรมคือ ขณะที่เข้าใจ ที่สำคัญ ขณะที่ไม่เข้าใจ ก็ไม่เข้าใจ จะทำให้เข้าใจก็ไม่ได้ ความเข้าใจไม่ได้เกิดจากความอยากหรือหวัง ปัญญาเท่านั้นทำหน้าที่เข้าใจ เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ธรรมกล่าวว่าเป็นอนัตตา จะถึงความเป็นอนัตตาก็เริ่มจากฟังด้วยความเข้าใจว่าเป็นอนัตตา ทำด้วยความเป็นอัตตา มีตัวเราที่จะทำ จะพยายามปฏิบัติ จะถึงความเป็นอนัตตาไม่ได้เลย เพราะเหตุย่อมไม่สมควรแก่ผล
ขออนุโมทนา
ความจริงไม่มีตัวตน ถ้าจะเอาตัวตนไปละตัวตนย่อมไม่ได้ นอกจากศึกษาพระธรรม
ให้มีความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง
และขออนุโมทนาค่ะ
ยังจำคำพูดของท่านอาจารย์ได้
.....ฟังธรรมะเพื่อละค่ะ.....
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูง
ในทุกคำพูดเพื่อความเห็นถูก ความเข้าใจถูกในพระธรรมที่ยากแสนยาก ที่ท่านมีให้กับทุกคนโดยเสมอกันมาเป็นเวลานานหลายสิบปี
ขออนุโมทนาคุณณรงค์และผู้เจริญกุศลทุกท่านค่ะ