ไม่ใช่ให้ตัวเราละความเป็นตัวตน

 
narong.p
วันที่  8 มิ.ย. 2551
หมายเลข  8839
อ่าน  1,153

ธรรมนั้นลึกซึ้งและยากที่จะเข้าใจแม้ขั้นฟัง ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เข้าใจขึ้นว่าสิ่งที่มีจริงคือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน นามธรรมรูปธรรมเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป

ดังนั้นการฟังธรรม ว่าไม่มีตัวตน สัตว์ บุคคล เพื่อให้เกิดความเห็นถูก เป็นปัญญาที่รู้ถูก ไม่ใช่ตัวเราที่ เห็นถูกว่าไม่มีตัวตน จึงไม่ใช่เป็น ตัวเรา ที่จะละความเป็นตัวตนแต่เป็น ปัญญา เท่านั้นที่ละความเป็นตัวตน ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 8 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
อนุโมทนา
วันที่ 8 มิ.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมที่เป็นความจริงที่มีในขณะนี้ การจะเข้าใจเป็นสิ่งที่ยากแม้ขั้นการฟัง เพราะสะสมความไม่รู้มามาก แต่ทุกอย่างอบรมได้ โดยสะสมเหตุเพราะธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุปัจจัย การจะเข้าใจความจริง ก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่จริง คือ เข้าใจขั้นการฟังว่าเป็นธรรม อะไรเป็นธรรม เป็นต้น นี่คือเหตุ เหตุย่อมสมควรแก่ผล แต่เหตุต้องถูก ผลจึงถูก ไม่ใช่ตัวเราที่จะอบรม ขณะที่เข้าใจ ขณะนั้นก็กำลังอบรมแล้ว ไม่ได้มีตัวตนไปพยายามอบรมธรรมทำหน้าที่อบรมคือ ขณะที่เข้าใจ ที่สำคัญ ขณะที่ไม่เข้าใจ ก็ไม่เข้าใจ จะทำให้เข้าใจก็ไม่ได้ ความเข้าใจไม่ได้เกิดจากความอยากหรือหวัง ปัญญาเท่านั้นทำหน้าที่เข้าใจ เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ธรรมกล่าวว่าเป็นอนัตตา จะถึงความเป็นอนัตตาก็เริ่มจากฟังด้วยความเข้าใจว่าเป็นอนัตตา ทำด้วยความเป็นอัตตา มีตัวเราที่จะทำ จะพยายามปฏิบัติ จะถึงความเป็นอนัตตาไม่ได้เลย เพราะเหตุย่อมไม่สมควรแก่ผล

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Pararawee
วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ไม่ใช่ให้ไปทำให้ไม่มีตัวตนจริงๆ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ความจริงไม่มีตัวตน ถ้าจะเอาตัวตนไปละตัวตนย่อมไม่ได้ นอกจากศึกษาพระธรรม

ให้มีความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง

และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาคุณอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pornpaon
วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ยังจำคำพูดของท่านอาจารย์ได้

.....ฟังธรรมะเพื่อละค่ะ.....

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูง

ในทุกคำพูดเพื่อความเห็นถูก ความเข้าใจถูกในพระธรรมที่ยากแสนยาก ที่ท่านมีให้กับทุกคนโดยเสมอกันมาเป็นเวลานานหลายสิบปี

ขออนุโมทนาคุณณรงค์และผู้เจริญกุศลทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ผู้ที่เจริญสติปัฏฐาน รู้ลักษณะของสติจึงจะเจริญสติปัฏฐานได้ เช่น ในขณะที่กำลังได้ยิน เป็นต้น พิจารณารู้ลักษณะของได้ยิน หรือรู้ลักษณะของเสียงที่ปรากฏตามปกติธรรมดา สติปัฏฐานคือ สภาพธรรมที่มีจริงที่สติระลึกเป็นปกติค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
suwit02
วันที่ 10 มิ.ย. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
choonj
วันที่ 10 มิ.ย. 2551


ขออนุโมทนา คุณ วรรณณี ทีกล่าวได้ดีมากๆ ๆ ๆ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ