อาคันตุกาคารสูตร - ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ควรละ - ๒๑ มิ.ย. ๒๕๕๑
สนทนาธรรมที่ ...
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ ๒๑ มิ.ย. ๒๕๕๑ เวลา ๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐น. คือ
๑๔. อาคันตุกาคารสูตร
ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ควรละ ควรทำให้แจ้ง ควรทำให้เจริญ
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๕๖
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๕๖
๑๔. อาคันตุกาคารสูตร
ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ควรละ ควรทำให้แจ้ง ควรทำให้เจริญ
[๒๙๐] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนผู้มาจากทิศบูรพาก็ดี จากทิศปัจฉิมก็ดี จากทิศอุดรก็ดี จากทิศทักษิณก็ดี ย่อมพักอยู่ที่เรือนสำหรับรับแขก ถึงกษัตริย์ พราหมณ์. แพทย์ ศูทรก็ดี ที่มาแล้วก็ย่อมพักอยู่ที่เรือนสำหรับรับแขกนั้น แม้ฉันใด ภิกษุเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกําหนดรู้ธรรมที่ควรกําหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ย่อมละธรรมที่ควรละด้วยปัญญาอันยิ่ง ย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง ย่อมเจริญธรรมที่ควรให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง ฉันนั้นเหมือนกัน. [๒๙๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่ควรกําหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน คือ ธรรมที่เรียกว่า อุปาทานขันธ์ ๕ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นไฉน คือ รูปูปาทานขันธ์ ฯลฯ วิญญาณูปาทานขันธ์ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรมเหล่านี้ควรกําหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง. [๒๙๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่ควรละด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน คือ อวิชชาและภวตัณหา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้ควรละด้วยปัญญาอันยิ่ง. [๒๙๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน คือ วิชชาและวิมุตติ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรมเหล่านี้ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. [๒๙๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่ควรให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นไฉน คือ สมถะและวิปัสสนา ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรมเหล่านี้ควรให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง. [๒๙๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า จึงกําหนดรู้ธรรมที่ควรกําหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ฯลฯ จึงเจริญธรรมที่ควรให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวกอาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล จึงกําหนดรู้ธรรมที่ควรกําหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งฯลฯ จึงเจริญธรรมที่ควรให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง.
จบอาคันตุกาควรสูตรที่ ๑๔
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๕๘
อรรถกถาอาคันตุกาคารสูตร
บทว่า อาคนฺตุกาคารํ ได้แก่เรือนรับรองแขกที่ผู้ต้องการบุญสร้างไว้ท่ามกลางเมือง แม้พระราชาและมหาอำมาตย์ของพระราชาก็สามารถเข้าไปพักอาศัยได้. บทว่า อภิญฺญา ปริญฺเญยฺย ความว่าเหมือนอย่างว่า การอยู่ของกษัตริย์เป็นต้นผู้มาจากทิศ มีทิศตะวันออกเป็นต้นเหล่านั้น ย่อมสำเร็จได้ในเรือนรับรองฉันใด ภิกษุทั้งหลายย่อมสำเร็จด้วยการเจริญอริยมรรคอันเป็นสมาธิวิปัสสนา ด้วยการกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งเป็นต้นแห่งธรรมทั้งหลายมีอาทิว่า อภิญฺญาปริญฺเญยฺย แม้เหล่านี้ก็ฉันนั้น ด้วยเหตุนั้นท่านจึงกล่าวคำนี้ไว้.
จบอรรถกถาอาคันตุกาควรสูตรที่ ๑๔