ถ้าไม่ได้เจริญกุศล อกุศลก็จะมีแต่จะหนาขึ้น

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  17 มิ.ย. 2551
หมายเลข  8928
อ่าน  1,205
บุญ คือสภาพจิตที่ดีงาม ไม่มีโทษ ขณะใดที่กุศลจิตเกิด ขณะนั้น เป็นบุญ ครับโอกาสของการเจริญกุศล เป็นโอกาสที่หายากในชีวิต จะเสียดายมากถ้าหากว่ามีโอกาสที่จะได้เจริญกุศลแล้ว ไม่ได้เจริญ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นวันพระหรือไม่ใช่วันพระก็สามารถที่จะเจริญกุศลได้ทั้งนั้น เพราะถ้าไม่ได้เจริญกุศล อกุศลก็จะมีแต่จะหนาขึ้นเรื่อยๆ

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 17 มิ.ย. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
all-for-ละ
วันที่ 17 มิ.ย. 2551

บุคคลพึงรีบขวนขวายในความดี พึงห้ามจิต เสียจากบาป เพราะว่าเมื่อบุคคล

ทำความดีช้าอยู ใจจะยินดีในบาป.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้านั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จ่าหนาน
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

เพราะได้ยินบ่อยว่าคนใจบุญเขาจะใสบาตรทุกวันพระ ก็เลยติดกันมาเรื่อย ถือว่าการใส่บาตรวันพระเป็นสิ่งที่ดี (ที่จริงควรจะดีทุกวัน) ก็เลยทำกับเขามั่ง ที่เห็นมา (ผมเดินตามพระบิณฑบาตร) พระก็บิณฑบาตรผ่านหน้าบ้านทุกวัน รู้ก็รู้ว่าพระต้องฉันอาหารทุกวัน แต่ไม่ใส่หรอกจะใส่วันพระ ถ้าจะใส่แบบ 7 วันใส่ที ควรจะใส่วันธรรมดามากกว่า เพราะจะเป็นการเฉลี่ยอาหารให้เท่าๆ กันในแต่ละวัน ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้วันพระจะใส่กันมาก วันธรรมดาจะน้อย เพราะมีคนติดวันพระเยอะ ในหลายๆ เรื่อง ชาวพุทธที่ไม่ศึกษา ก็จะทำให้ปฏิบัติกิจทางศาสนาคลาดเคลื่อนจากพระไตปิฏกไปเรื่อยๆ เห็นเขาทำก็ทำมั่ง ไม่รู้เหตุผล ไม่รู้ความหมาย ไม่รู้ที่ถูกที่ควรคืออย่างไร รู้แล้วหลงลืมก็ยังดีกว่าไม่รู้เลย ลืมยังนึกได้ ทำใหม่ให้ถูกได้ แต่..ทำแบบผิดบ้างก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย (พระบิณฑบาตรผ่านหน้าบ้านทุกวันเป็นปี ไม่เคยใสบาตรเลย แต่บอกว่าเป็นชาวพุทธ)

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
yupa
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

ยุคนี้ ดูอะไรก็ง่ายไปหมด ขอให้มีเงินก็พอ เช่นการใส่บาตร จะซื้ออาหารใส่บาตรกันเป็นส่วนใหญ่ (ง่าย สะดวก ประหยัด) แต่ บ่อยครั้งที่พระฉันอาหารแล้ว ก็เกิดอาพาธเพราะอาหารที่รับบิณฑบาตรมา จึงไม่ทราบว่า จะได้บุญหรือได้บาป

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
study
วันที่ 18 มิ.ย. 2551
เข้าใจว่าเป็นบุญที่ไม่ประณีต ผลและอานิสงส์ก็เป็นไปตามเหตุครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ตุลา
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

ถ้าเราไม่เจริญกุศล...เราก็กำลังสะสมอกุศลอยู่ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 18 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ ในชีวิตประจำวันกุศลจิตเกิดน้อยมาก ถ้าไม่ใช่ขณะที่เป็นทาน ศีล ภาวนา (บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐) ก็จะเป็นอกุศลจิตหมด เราจึงไม่ควรประมาทแม้กุศลเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันค่อยๆ สะสมกุศลเช่น การจูงคนแก่ข้ามถนน การช่วยผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก รับฟังความทุกข์ของคนอื่นอย่างเห็นอกเห็นใจเขา แนะนำสิ่งที่ดีเท่าที่จะทำได้ เป็นต้น แม้โอกาสของการเจริญกุศลเป็นโอกาสที่หาได้ยากในชีวิต เมื่อมีโอกาสก็อย่าละเลยที่จะทำเพื่อการขัดเกลากิเลส เพราะขณะที่จิตเป็นกุศลขณะนั้นจิตสงบจากกิเลส เป็นบุญ ค่อยๆ สะสมอบรมเจริญปัญญากุศลก็จะมีมากขึ้นอกุศลก็จะเกิดน้อยลงค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

ทำความดีได้ทุกวัน ทุกเวลา ไม่จำกัดค่ะ เพราะเวลาที่กุศลจิตเกิดมีค่ามากกว่าเงินทองที่หามาได้ค่ะ กุศลมี 10 อย่าง โดยเฉพาะการฟังธรรม การศึกษาธรรม เป็นกุศลที่สงบจาก โลภะ โทสะ โมหะ ชั่วขณะ เป็นกุศลที่สูงกว่าการให้ทาน สูงกว่าการรักษาศีลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 18 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
happyindy
วันที่ 19 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
prakaimuk.k
วันที่ 19 มิ.ย. 2551
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ไม่มีเรา
วันที่ 20 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pamali
วันที่ 9 ก.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ