ฝนเกิดจากการดลบันดาลของเทวดาจริงหรือ

 
Nareopak
วันที่  20 มิ.ย. 2551
หมายเลข  8959
อ่าน  3,922

เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ดิฉัน ขอถามท่านผู้รู้ว่า "ฝนเกิดจากการดลบัลดาลของเทวดาจริงหรือ" (ดิฉันรู้ว่าฝนตกอย่างไรในทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นค่ะ)


Tag  ฝน  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 20 มิ.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ฝนเกิดขึ้นจากเหตุหลายประการ

1. เกิดจากอุตุ ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ

2. เกิดจากผู้มีฤทธิ์ (เช่น พระภิกษุชื่อมหกะ บันดาลฝน)

3. เกิดจากผลของบุญ (เช่น เกิดจากผลของบุญของพระพุทธเจ้าเมื่อคราวเสด็จไปเมืองเวสาลี แล้วฝนโบกขรพรรษตกลงมาเพราะบุญที่พระองค์เคยทำในชาติก่อนคือ ปะพรมน้ำบูชาเจดีย์พระปัจเจกพระพุทธเจ้า)

4. เกิดจากเทวดา ([เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ ๕๘๘)

อรรถกถาวาตวลาหกสูตรที่ ๕๖

บทว่า เทโว วสฺสติ ความว่า ฝนที่ตกตลอด ๔ เดือน ที่เป็นฤดูฝน มีอุตุเป็นสมุฏฐานทั้งนั้น. ส่วนฝนชุกที่ตกในฤดูฝน และฝนในเดือน ๕ เดือน ๖ ชื่อว่า เกิดขึ้นด้วยอานุภาพเทวดา.

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 20 มิ.ย. 2551

วัสสวลาหกสูตร

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ พวกเทวดาชื่อว่าวัสสวลาหกมีอยู่ เมื่อใด เทวดาพวกนั้นมีความคิดอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ พวกเราพึงยินดีด้วยความยินดีของตน เมื่อนั้น ฝนย่อมมี เพราะอาศัยความตั้งใจของเทวดาพวกนั้น ดูก่อนภิกษุ ข้อนั้นแลเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้ฝนมีในบางคราว.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 21 มิ.ย. 2551

ในพระไตรปิฏกมีแสดงไว้ ในอดีตมีเมืองหนึ่งฝนไม่ตกตามฤดูกาล ก็เลยรักษาศีล ภายหลังฝนก็ตก ชาวเมืองก็มีความสุข ฯลฯ และตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดญาติ ฝนก็ตก ใครอยากเปียกก็เปียก ใครไม่อยากเปียกก็ไม่เปียก ด้วยอานุภาพของพระพุทธเจ้าค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มาณพน้อย
วันที่ 22 มิ.ย. 2551

ฝน เกิดจากผู้มีฤทธิ์ (เช่น พระภิกษุชื่อมหกะ บันดาลฝน) ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านพระมหกะเป็นผู้อ่อนกว่าทุกรูปในภิกษุสงฆ์หมู่นั้น ครั้งนั้นแล ท่านพระมหกะได้พูดกะพระเถระผู้เป็นประธานว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เป็นการดีทีเดียวที่พึงมีลมเย็นพัดมา และ พึงมีแดดอ่อน ทั้งฝนพึงโปรยลงมาทีละเม็ดๆ . พระเถระ (ผู้เป็นประธาน) กล่าวว่า ท่านมหกะ เป็นการดีทีเดียว ที่พึงมีลมเย็นพัดมาและพึงมีแดดอ่อน ทั้งฝนพึงโปรยลงมาทีละเม็ดๆ . ครั้งนั้นแล ท่านพระมหกะ ได้บันดาลอิทธาภิสังขาร ให้มีลมเย็นพัดมา และมีแดดอ่อน ทั้งให้มีฝนโปรยลงมาทีละเม็ดๆ . (ข้อความตอนหนึ่งจาก [เล่มที่ 29] มหกสูตร สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๒๙)

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Nareopak
วันที่ 22 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาและขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
นิโรธะ
วันที่ 22 มิ.ย. 2551

ศึกษาประวัติศาสตร์ประเทศอื่น แต่ลืมที่จะศึกษาประวัติศาสตร์ประเทศไทย ศึกษาเรื่องน้ำบนฟ้า แต่ลืมศึกษาน้ำลาย น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำตา เสมหะ น้ำเหงื่อ น้ำมูก น้ำในกาย

สาธุการครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ตุลา
วันที่ 23 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
พุทธรักษา
วันที่ 23 มิ.ย. 2551

ความเป็นจริงหลายๆ อย่างอันเกิดแต่ความเป็นสัพพัญญูของพระพุทธองค์เป็นความจริงที่ไม่แปรผัน หากแต่ขณะนี้ความจริง คือสภาพธรรมกำลังปรากฏให้รู้ได้ด้วยปัญญาของตนเอง น่าสนใจไหมคะ หากสิ่งนั้นเป็นการรู้จักตนเองตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ศุจิกา
วันที่ 24 มิ.ย. 2551

อนุโมทนาคะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ