ไม่ว่าใครจะประพฤติไม่ดีต่อเราอย่างไร เราก็ไม่โกรธ
ถ้าเป็นผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เข้าใจตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าใครจะประพฤติตนไม่ดีต่อเราอย่างไร เราก็ไม่โกรธ เพราะเป็นผู้ที่เห็นโทษของอกุศล เห็นโทษของความโกรธ แล้วก็เกิดเมตตา มีความหวังดี ปรารถนาดีพร้อมทั้งช่วยเหลือเกื้อกูลบุคคลนั้นได้ทุกเมื่อ ครับ
"ชนทั้งหลาย ผู้ไม่สำรวมแล้ว ย่อมทิ่มแทงชนเหล่าอื่นด้วยวาจาเหมือนเหล่าทหารที่เป็นข้าศึกทิ่มแทงกุญชรตัวเข้าสงครามด้วยลูกศร ฉะนั้นภิกษุผู้มีจิตไม่ประทุษร้ายฟังคำอันหยาบคายที่ชนทั้งหลาย
เปล่งขึ้นแล้ว พึงอดกลั้น"
ข้อความตอนหนึ่งจาก ... สุนทรีสูตร
ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 453
ถึงจะรู้ว่าความโกรธไม่ดี มีโทษ แต่เราก็ไม่สามารถห้ามได้ การฟังธรรมะทำให้เราเป็น คนดี แม้ว่าบางครั้งเราจะโกรธเมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจแต่ก็ไม่ผูกโกรธและให้อภัยค่ะ
ผู้ที่ไม่โกรธเลยคือพระอนาคามี ไม่โกรธด้วยปัญญาระดับที่สามารถ ดับโทสะได้เป็นสมุทเฉจ ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ เมื่อมีเหตุปัจจัย ให้โกรธเกิด ความโกรธก็ย่อมเกิดขึ้น ไม่ใช่เราที่โกรธ และ ไม่ใช่เราที่จะไม่โกรธ ครับ
ไม่ง่ายค่ะ ... แต่จากลักษณะของความโกรธ เผาใจ ไม่มีประโยชน์ โกรธแล้ว ... จบแล้ว ผ่านไปแล้ว ไม่มีสาระที่จะเก็บสิ่งไม่ดีเอาไว้ ไม่คิด ... ก็ไม่โกรธ
อนุโมทนาค่ะ
ถึงแม้ได้ศึกษาธรรมะแล้วก็ตามปัญญาขั้นฟัง ขั้นคิดพิจจารณา ก็ไม่เป็นเหตุให้เมตตาเกิดได้ง่ายๆ โดยส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่านอกจากการสั่งสมการเห็นโทษของความพยาบาทแล้วการสั่งสมปัญญาเพื่อเป็นอาหารของสติในการเห็นโทษของอกุศลนั้นก็สำคัญถ้าไม่เจริญปัญญา จะเจริญเมตตาได้อย่างไร