แต่ละบุคคล มีอัธยาศัยที่ต่างกันตามการสะสม

สัตว์โลกต่างกันเพราะมีธาตุและการสะสมมาต่างกันท้าวสักกะทูลถามว่า ก็ทำไม สมณพราหมณ์ทั้งหมด จึงเป็นผู้ไม่มีวาทะเป็นอย่างเดียวกัน ไม่มีศีลเป็นอย่างเดียวกัน ไม่มีฉันทะเป็นอย่างเดียวกัน

ไม่มีที่สุดลงเป็นอย่างเดียวกันเล่า. พระพุทธเจ้าตรัสว่า. โลกมีธาตุไม่เป็นอันเดียวกัน มีธาตุต่างๆ กัน หมู่

สัตว์ถือมั่น ในธาตุใดๆ แล ย่อมยึดถือธาตุนั้นๆ กล่าวด้วยกำลังความยึดถือ

ว่า อย่างนี้แหละแน่นอน อย่างอื่นเหลวไหล ดังนี้ เพราะเหตุนั้น สมณ พราหมณ์จึงเป็นผู้ชื่อว่ามีวาทะเป็นอย่างเดียวกัน มีศีลเป็นอย่างเดียวกัน

มีฉันทะเป็นอย่างเดียวกัน มีที่สุดลงเป็นอย่างเดียวกันทั้งหมดไม่ได้.

การฟังธรรมะทำให้เข้าใจความจริงว่าทุกคนสะสมมาไม่เหมือนกัน การอยู่ร่วมกันใน

สังคม ไม่ว่าจะในที่ทำงานหรือที่บ้าน การกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา การศึกษา

ธรรมะช่วยให้เราเข้าใจคนอื่น และการให้อภัยคนอื่นก็ง่ายขึ้นค่ะ

ชื่อว่า จิต "เพราะสั่งสมสันดานของตนด้วยสามารถแห่งชวนวิถี" ท่านอาจารย์สุจินต์อธิบายไว้ว่า จิตแต่ละขณะที่เกิดดับสือต่อกันอย่างรวดเร็วนั้น ก็สั่งสมสันดานของตน คือไม่ว่าจะเป็น กุศล อกุศล แต่ละขณะที่เกิดขึ้นแล้วดับไปนั้นเป็นปัจจัยสะสมสืบต่อในจิตดวง (ขณะ) ต่อไปเพราะเมื่อจิตดวงหนึ่งเกิดขึ้นแล้วดับไป การดับไปของจิตดวงก่อนเป็นปัจจัยให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้นสืบต่อทันที ฉะนั้น จิตดวงทีเกิดต่อจึงมีสภาพธรรมซึ่งจิตดวงก่อนสะสมไว้แล้วสืบต่อไปในจิตดวงหลังๆ ที่เกิดต่อๆ ไปอีกเรื่อยๆ แต่ละบุคคลจึงมีอัธยาศัย มีอุปนิสัยต่างๆ กันตามการสะสมของจิตแต่ละขณะซึ่งเกิดดับสืบต่อกัน ขออนุโมทนาค่ะ

กราบอนุโมทนาค่ะ

ขออนุโมทนาครับ