โมหมูลจิต ๒
โมหมูลจิตต่างกันเป็น ๒ ดวง คือ ดวงหนึ่งเป็นวิจิกิจฉาสัมปยุตต์เกิดร่วมกับวิจิกิจฉาเจตสิก ซึ่งสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขันธ์ ธาตุอดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นต้น อีกดวงหนึ่งเป็น อุทธัจจสัมปยุตต์ โมหเจตสิก เป็นเจตสิกที่ไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แม้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับอารมณ์ ก็ไม่สามารถรู้ลักษณะที่แท้จริงของอารมณ์ที่ปรากฏได้ เช่น ในขณะที่กำลังเห็นนี้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นสภาพธรรมชนิดหนึ่ง เมื่อไม่รู้ก็สงสัยว่าลักษณะของสภาพธรรมที่เพียงปรากฏทางตานั้นต่างกับที่เคยเข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นคนหรือเป็นวัตถุสิ่งของอย่างไร ขณะใดที่สงสัยขณะนั้นเป็นโมหมูลจิตวิจิกิจฉาสัมปยุตต์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าความสงสัยจะเกิดตลอดเวลาขณะใดที่สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏขณะนั้นเป็นโมหมูลจิตที่เกิดร่วมกับวิกิจฉาเจตสิก
โดยปกติเมื่อเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกายแล้ว ถ้าขณะนั้นจิตที่เกิดต่อไม่เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิตประเภทอื่นๆ ก็เป็นโมหมูลจิตอุทธัจจสัมปยุตต์ เพราะว่าขณะนั้นไม่ได้มีความสงสัยเกิดร่วมด้วย ไม่มีโลภเจตสิกเกิดร่วมด้วย ไม่มีโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย ฉะนั้น จึงรู้ลักษณะของโมหมูลจิตอุทธัจจสัมปยุตต์ได้ว่า ขณะใดที่หลงลืมสติ ขณะนั้นกำลังไม่รู้ในสภาพของอารมณ์ที่ปรากฏ และขณะที่เป็นอกุศลจิตที่ไม่เกิดร่วมกับโลภเจตสิกหรือโทสเจตสิกและวิจิกิจฉาเจตสิก อกุศลจิตขณะนั้นก็เป็นโมหมูลจิตอุทธัจจสัมปยุตต์
ดังนั้น โมหมูลจิต ๒ ดวง คือ
อุเปกฺขาสหคต วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺต ๑ ดวง
อุเปกฺขาสหคตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตํ ๑ ดวง
รวมอกุศลจิต ๑๒ ดวง เป็นสัมปยุตต์ ๘ ดวง เป็นวิปปยุตต์ ๔ ดวง
ดาวน์โหลดหนังสือ -->