ฟังพระะธรรมด้วยความอยากรู้มาก รู้เร็ว เป็นเรื่องหนัก
จากประสบการณ์ส่วนตัว..... ถ้าฟังพระธรรมด้วยความอยากรู้มาก รู้เร็ว เป็นเรื่องหนักมาก แต่การศึกษาพระธรรมไปเรื่อยๆ ไม่ขาด เข้าใจสิ่งที่ศึกษาจริงๆ เท่าที่จะเข้าใจได้อะไรไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องกังวล ค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ การศึกษาธรรมะไม่เหมือนการเรียนในโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยที่ต้องเรียนไปตามหลักสูตรเพราะพุทธศาสตร์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยาก จนเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ได้...หากเหตุสมควรแก่ผลและเดินไปตามหนทางที่ถูกต้อง...คือ มรรค (ไม่พัก ไม่เพียร) ที่สำคัญ ต้องไม่ทิ้งพระธรรมค่ะ
เป็นหนทางที่ช่างแสนยาวไกล
ขณะนี้...กำลังเดินอยู่บนเส้นทางใด
ขออนุโมทนาค่ะ
ฟังพระะธรรมด้วยความอยากรู้มาก รู้เร็ว เป็นเรื่องหนัก
ขออนุโมทนาคุณธรรมทัศนะ ค่ะ เมื่อก่อนดิฉันก็ฟังพระธรรมด้วยความอยากรู้มากรู้เร็ว เป็นเรื่องหนักจริงๆ เครียดด้วยค่ะโดยไม่รู้ว่าโลภะหลอกล่อไปอีกแล้ว จนได้มาฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ ท่านให้ฟังพระธรรมให้ค่อยๆ พิจารณาพระธรรมให้เข้าใจ พระธรรมเป็นของยาก ค่อยๆ อบรมเจริญปัญญา (ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องอยากเพราะเป็นอกุศล) จิรกาลภาวนาค่ะ จะเบาสบาย ไม่หนักไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อนค่ะ
..
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พรหมจรรย์นี้ ภิกษุไม่อยู่ประพฤติเพื่อจะหลอกลวงชน ไม่อยู่ประพฤติเพื่อประจบคน ไม่อยู่ประพฤติเพื่ออานิสงส์ คือ ลาภ สักการะ ความสรรเสริญ ไม่อยู่ประพฤติ ด้วยคิดว่า ชนจงรู้จักเราด้วยอาการอย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ที่แท้พรหมจรรย์นี้ ภิกษุย่อมอยู่ประพฤติเพื่อการสำรวมและเพื่อการละ.
ปฐมนกุหนาสูตร
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 207
อยู่ประพฤติเพื่อการสำรวมและการละ
ขออนุโมทนาค่ะ เป็นธรรมเตือนใจที่ดีมากๆ ค่ะ ในเพศคฤหัสถ์ เราก็ควรพิจารณา
เพื่ออยู่ประพฤติเช่นนี้ให้ได้ด้วยเช่นกัน.....
ขออนุโมทนา สาธุ ครับ เป็นกระทู้ที่ดีมาก ผมก็ถูกโลภะเอาไปเป็นพวกเช่นกันเพราะเราคุ้นเคยกับการฟังแล้วเข้าใจ ตรงๆ ง่ายๆ พอฟังไม่เข้าใจก็หงุดหงิด (ตามมาด้วยโทสะอีก) แล้วเมื่อไหร่จะลดละได้นะนี่
หวังหรือไม่หวัง
หากสะสมมาถูก ผลที่ได้รับย่อมถูกด้วย
เพราะผลย่อมสมควรแก่เหตุนั้น
ศึกษาพระธรรม ฟังธรรมกันต่อไป ไม่พักไม่เพียร
* * * ขออนุโมทนาค่ะ * * *
..