รับจ้างฆ่าวัว......
มีน้องมาพูดให้ฟังว่า กลุ้มใจมากที่หลานชายอายุ 14 ปี ไม่ยอมไปเรียนหนังสือ แต่กลับไปรับจ้างฆ่าวัว ทั้งๆ ที่ฐานะทางบ้านก็ร่ำรวยไม่ต้องทำอะไรก็มีกิน แสดงว่าเด็กคนนี้มีความหลงผิด และผิดศีลข้อ ๑ เราจะทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยเขาได้บ้าง
ควรแนะนำให้เขาศึกษาพระธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระธรรมจะเป็นเครื่องชี้ทางที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิตของเขา ว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควร สิ่งใดมีโทษสิ่งใดมีคุณ สิ่งใดประพฤติแล้วเป็นไปเพื่อประโยชน์หรือเพื่อมิใช่ประโยชน์เป็นไปเพื่อสุขหรือเพื่อทุกข์ตลอดกาลนาน...
แนะนำให้เห็นโทษของการล่วงศีล ๕ เช่น การล่วงศีลข้อ ๑ ทำให้อายุสั้นเป็นเหตุให้ไปทุคติ ชี้ให้เห็นคุณประโยชน์ของการศึกษาธรรมเพราะทำให้เกิดปัญญาดำเนินชีวิตในศีล ในธรรม และไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
หากเข้าใจความจริงก็คือสภาพธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่สะสมมาให้เป็นไปในทางอกุศลประภทต่างๆ เมื่อยังมีกิเลสก็ย่อมมีเหตุปัจจัยน้อมไปทางอกุศล ความไม่รู้ (ความหลง) เป็นรากเหง้าและต้นเหตุของอกุศลทุกประการ ไม่รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรม ไม่รู้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด สิ่งใดควรหรือไม่ควร เมื่อมีความไม่รู้ อกุศลประเภทต่างๆ จึงเกิดขึ้นจนเมื่อมีกำลังก็สามารถล่วงออกมาทางกาย วาจา เช่น การฆ่าสัตว์ เป็นต้น จนสะสมเป็นอุปนิสัยทำให้เมื่อเกิดมาก็มีอุปนิสัยน้อมไปในทางอกุศลประเภทนั้นมาก แต่ควรเข้าใจความจริงว่าเพราะความไม่รู้นั่นเองทำให้เกิดอกุศลประเภทต่างๆ
ความไม่รู้จึงไม่เลือกหญิงชาย ไม่เลือกฐานะ ไม่เลือกอายุ ไม่เลือกภพภูมิที่เกิด ตราบใดเมื่อยังไม่มีปัญญารู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ก็ย่อมเวียนวนไปด้วยความไม่รู้ และทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นอกุศลต่างๆ ได้มากมาย เหตุที่จะดับความไม่รู้คือ เริ่มจากการอบรมปัญญาขั้นการฟัง หากแต่ว่าพระธรรมนั้นก็ไม่สาธารณะ จึงควรรู้จักกาลเวลาและบุคคลที่เหมาะสม แต่ก็สามารถแนะนำได้ตามสมควร
ขออนุโมทนา ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
"ผู้ที่มีชีวิต ไม่พึงเบียดเบียนผู้มีชีวิตด้วยกัน เพราะผู้เบียดเบียนผู้มีชีวิต ย่อมเศร้าโศก" การที่เป็นผู้เดินทางผิด ดำรงชีวิตด้วยการประกอบอกุศลกรรมดังกล่าว (รับจ้างฆ่าวัว) กล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่ตั้งจิตไว้ผิด คือเป็นผู้ที่ตั้งจิตไว้ในบาปอกุศล คือกายทุจริต ซึ่งเป็นไปตามการสั่งสมมาของแต่ละบุคคลจริงๆ เพราะได้สั่งสมอกุศลมามากมายและเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์, จากการกระทำอกุศลกรรม ย่อมนำความทุกข์มาให้อย่างแน่นอน เพราะเหตุย่อมสมควรแก่ผล ทุกข์ที่จะได้รับนั้น ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้ลงโทษ แต่เป็นความทุกข์ ที่เป็นผลของอกุศลกรรมที่ได้กระทำแล้ว มีการได้รับทุกข์ในอบาย เป็นต้น ที่ไม่มีใครทำให้เลย
พระพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงธรรม เพื่อให้พุทธบริษัทมีความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง ในเหตุในผล ว่าเหตุอะไร ทำให้เกิดผลอะไร ดังนั้น อกุศลกรรมที่ได้กระทำไปแล้วย่อมจะทำให้ได้รับผลที่ไม่ดี ตามควรแก่กาลเวลาและความหนักเบาของกรรมนั้นๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นหน้าที่ของบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ เป็นต้น ที่จะคอยแนะนำหนทางหรือแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องให้ พร้อมทั้งแนะนำให้ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ตามโอกาสอันสมควร ถ้าเป็นผู้ที่ได้สั่งสมบุญมาตั้งแต่ชาติปางก่อน บุคคลนั้นก็คงจะรับฟังในคำแนะนำ แล้วหันมาศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม เมื่อมีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาจนกระทั่งมีความเข้าใจตามลำดับแล้ว ความประพฤติที่ไม่ดี ที่เป็นอกุศลกรรมก็จะค่อยๆ ลดลงตามลำดับขั้นของความเข้าใจ ยังไม่สายสำหรับผู้ที่จะเริ่มตั้นชีวิตใหม่ เริ่มต้นช้า ก็ยังดีกว่าที่จะไม่เริ่มเลย ครับ
...ขออนุโมทนาครับ...
แน่นอนเราไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมผู้อื่นได้ง่ายๆ แต่การชักชวนให้เขาเข้าวัด หรือหาเพื่อนใหม่น่าจะช่วยได้ แต่ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน การเข้าถึงธรรมนั้นเป็นเรื่องที่เกิดได้ยากเรื่อง ๑ ใน ๕ เรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ แต่ต้องมีสักวันที่เขาจะเข้าใจและสำนึกผิด
อาจจะแนะนำให้เขาเห็นว่า เรารักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด สัตว์อื่นก็เหมือนกันฉันนั้น เราไม่อยากตาย ไม่อยากถูกฆ่า วัวและสัตว์อื่นก็เช่นกัน
ขณะที่เราถูกของมีคมบาด เจ็บปวดเพียงใด มีความทุกข์กายเพียงใด สัตว์อื่นก็มีความทุกข์ทรมานมากมายเช่นกัน
และผู้กระทำปาณาติบาต ตายแล้วย่อมเกิดในนรกซึ่งจะได้รับความทุกข์ทรมานทางร่างกายมากกว่าความทุกข์กายในภูมิมนุษย์หลายล้านเท่า ครับ..