การฟังธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
สนทนาพื้นฐานพระอภิธรรม ที่มูลนิธิฯ
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พ.ย. ๒๕๕๐
ธนากร ท่านอาจารย์พยายามจะบอกให้ทราบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะ และเข้าใจลักษณะของสัทธรรม แต่ละลักษณะ แต่ละอย่างๆ แล้วก็อาจหาญร่าเริงที่จะรู้ในความจริง
อาจารย์ การฟังธรรม ต้องเป็นผู้ละเอียด ตั้งแต่ต้นก็รู้ว่าฟังอะไร เพื่ออะไร ไม่ใช่พอได้ยินคำว่า จิต ก็อยากจะรู้ว่า จิตมีเท่าไร โดยชื่อ โดยเรื่องราว แต่ต้องรู้ว่าขณะนี้จริงๆ มีหรือเปล่า และอยู่ที่ไหน ทำอะไรด้วย ไม่ใช่พอได้ยินคำว่า จิต มีจิต ก็จบ ไปหาเรื่องราวของจิต แล้วก็เข้าใจว่ารู้จิตแล้ว ไม่ใช่อย่างนั้นเลย จะต้องเป็นผู้ที่ละเอียดและพิจารณาแต่ละคำ และมีความเข้าใจที่มั่นคง เช่น คำว่า “ธรรมะ” เป็นสิ่งที่มีจริง แค่นี้ แต่เราสามารถที่จะไตร่ตรอง ว่าขณะนี้อะไรมีจริง และสิ่งที่มีจริงเป็นธรรมะ หรือมิฉะนั้นจะไปหาธรรมะที่ไหน
เพราะฉะนั้น แต่ละคำไม่ใช่เพียงฟัง แล้วจำตามๆ พูดตามๆ แต่ต้องเป็นความไตร่ตรองและเป็นความเข้าใจของตัวเอง ขณะนี้มีสิ่งปรากฏ เพราะฉะนั้น ฟังเรื่องอะไร ให้เข้าใจอะไร ในเรื่องที่ไม่ปรากฏ ให้เข้าใจสิ่งที่ไม่ปรากฏ หรือแม้ว่าสิ่งที่มีในขณะนี้ เข้าใจถูกต้องหรือเปล่า แล้วถ้าได้ยินได้ฟังมากขึ้น ก็จะรู้ว่า จุดประสงค์ของการฟัง เพื่อเข้าใจในสิ่งที่มีจริงๆ แล้วปรากฏ ซึ่งไม่เคยเข้าใจมาก่อน
ถ้าจำเรื่องตัวหนังสือ มีมากมาย ข้อความต่างๆ ในพระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์ต่างๆ และอรรถกถา แต่ไม่รู้ว่าขณะนี้เป็นธรรมะ ผู้นั้นเข้าใจผิดได้ไหม เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ว่า บางคนฟังมา ๒๐ ปี ๓๐ ปี แต่เป็นผู้ที่ฟังด้วยความเพลิดเพลิน ในอรรถรส ในข้อความ ในเรื่องราว แต่ไม่รู้ว่าในขณะนี้เป็นธรรมะตรงกับที่ได้ยินได้ฟังมาทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า แม้แต่แต่ละคำ ที่ได้ยินได้ฟัง ต้องพิจารณา ไตร่ตรองให้เข้าใจถูกต้องจริงๆ ว่ามีจริง เพราะไม่รู้จึงฟัง จนกว่าจะเข้าใจ แต่ละคำที่ได้ยินได้ฟัง ถูกต้องว่า เป็นขณะนี้หรือเปล่า เช่น ธรรมะขณะนี้มีหรือเปล่า ถ้าไม่มี หาไม่เจอ คือว่า ฟังไปทำไม ฟังธรรมไปทำไม ไม่มี หาไม่เจอ ก็คือว่าฟังไปไม่เกิดประโยชน์ ฟังธรรมไปทำไม แต่ถ้ารู้ว่ามี ขณะนี้มีสิ่งที่ปรากฏ นี่แหละเป็นสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ ความเป็นจริงว่าไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล มีจริง เพราะว่าเกิดขึ้นปรากฏ
แต่ละคำต้องพิจารณา ไตร่ตรอง มิฉะนั้นแล้ว ถ้าเป็นผู้ที่เพียงจำชื่อ ก็เข้าใจผิดได้ โดยเฉพาะในเรื่องหนทางการอบรมเจริญปัญญา ที่จะรู้ลักษณะของสัทธรรมเพียงฟังว่าพิจารณากาย แค่นี้จะสามารถพิจารณากายได้ไหม จะเข้าใจตามความเป็นจริงได้ไหม อะไรเป็นกาย ก็เป็นเรื่องที่ไม่ประมาทในพระธรรมว่า มีความลึกซึ้ง
การอบรมเจริญปัญญา ที่จะรู้ลักษณะของสัทธรรมเพียงฟังว่าพิจารณากาย แค่นี้จะสามารถพิจารณากายได้ไหมจะเข้าใจตามความเป็นจริงได้ไหม อะไรเป็นกาย ก็เป็นเรื่องที่ไม่ประมาทในพระธรรมว่ามีความลึกซึ้ง
ขออนุโมทนาค่ะ
ระลึกเนืองๆ บ่อยๆ ว่าขณะนี้เป็นลักษณะของนามธรรม รูปธรรมเท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ถ้าระลึกอย่างนี้ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้นค่ะ
จุดประสงค์ของการฟัง เพื่อเข้าใจในสิ่งที่มีจริงๆ แล้วปรากฏ ซึ่งไม่เคยเข้าใจมาก่อน
อนุโมทนาค่ะ