ทานที่หวังผลตอบแทน
* * * ทานที่หวังผลตอบแทน เป็นทานที่เศร้าหมอง เพราะอาศัยกุศลเป็นเหตุให้เกิดอกุศล (โลภ) เป็นทานที่เป็นไปเพื่อความติดข้อง เป็นเหตุให้เนิ่นช้า มิอาจพ้นไปจากวัฏสงสารได้
* * * ทานที่ไม่เศร้าหมอง คือ ทานที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นทานที่บำเพ็ญเพื่อการชำระขัดเกลากิเลส และอาสวะ ได้แก่ ความโลภ ความตระหนี่ เป็นต้น และเป็นไปเพื่อออกจากวัฏสงสาร
* * * ทานที่ประกอบด้วยปัญญา คือ
1. การพิจารณารูปนามขันธ์๕ โดยความเป็นไตรลักษณ์ ย่อมคลายความยึดมั่นถือมั่นในรูปนามขันธ์ ๕ ย่อมพิจารณาเห็นกายนี้ และทรัพย์สมบัติทั้งหลายล้วนเป็นเสมือนของที่หยิบยืมมา เมื่อความตายมาถึงทุกอย่างต้องคืนให้กับโลกทุกอย่างที่สะสมมาทั้งชีวิตรวมทั้งร่ากายก็ต้องกองคืนไว้ให้กับโลก แม้แต่ข้าวสักเมล็ดหรือผมสักเส้นก็มิอาจนำติดตัวไปได้ พิจารณาดั่งนี้แล้วจึงให้ทานได้โดยไม่หวงแหน
2.พิจารณาว่าทาน ทำอย่างไร ทำกับุคคลใด มีอานิสงส์มาก
3.พิจารณาว่า ควรจะประคับประคองจิตอย่างไร ก่อนให้ทาน, ขณะให้ทานและหลังให้ทาน
* * * * * หากมีสิ่งใดผิดจากหลักธรรม กราบขอความเมตตาจากท่านผู้รู้ชี้แนะแก้ไขจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง...ครับ
ขออนุโมทนา ....ครับ
ผลตอบแทนจากทาน ย่อมมีมาเสมอเมื่อเหตุสมควรแก่ผลแต่ทาน ที่เป็นทานบารมี
เป็นไปเพื่อการสละทั้งหมด
เริ่มตั้งแต่การสละวัตถุสละความติดข้องพอใจตลอดไปจนถึง
การสละจากการยึดถือนามธรรมและรูปธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล.
.................................
ุขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออนุโมทนาค่ะ.