ประกาศ การจากไปของคุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และเพื่อนสหายธรรมทุกคน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสีย
คุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์
(ภรรยา ดร. พลตรีวีระ พลวัฒน์ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิ) ซึ่งได้จากพวกเราไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 17:42:46 น. ของวันที่ 20 กรกฎาคม 2551
จะมีพิธีสวดพระอภิธรรม ณ ศาลา 9 วัดธาตุทอง ถนนสุขุมวิท ในวันที่ 21-22-23 กรกฎาคม 2551
วันที่ 21 กรกฎาคม 2551 มูลนิธิเป็นเจ้าภาพ
วันที่ 22 กรกฎาคม 2551 ศูนย์วิจัยพัฒนาการทหาร สำนักงานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกระทรวงกลาโหม บริษัทบ้านแพนรีเสิร์ชแลบอราตอรี่จำกัด เป็นเจ้าภาพ
วันที่ 23 กรกฎาคม 2551 มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และสหายธรรม เป็นเจ้าภาพ
วันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ถวายภัตตาหารเพล
17.00 ประชุมเพลิง
วันนี้ ช่วงบ่าย ท่านอ. หายไป หลายท่านที่มามูลนิธิ บอกท่านไปธุระ แท้จริงเพิ่งทราบข่าว การจากไปของคุณบุษบงรำไพ ท่านอ.ไปอยู่กับพี่บง ตลอด จนกระทั่ง 17:42:46 น ขออนุโมทนาท่าน อ.สุจินต์ ด้วยความเคารพ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสีย คุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์
คิดถึงพี่บุษบงรำไพคะ
ด้วยกุศลกรรมที่ท่านได้บำเพ็ญมา
ขอให้ท่านมีใจเบิกบานด้วยพระสัทธรรม ในภพหน้านั้นเทอญ
จิรปฺปวาส ปุริสํ ทูรโต โสตฺถิมาคตํ ญาตี
มิตฺตา สุหชฺชา จ อภินนฺทนฺติ อาคตํ
ตเถว กตปุญฺญมฺปิ อสฺมา โลกา ปรํ คตํ
ปุญฺญานิ ปฏิคณฺหนฺติ ปิยํ ญาตีว อาคตํ.
ญาติ มิตร และคนมีใจดีทั้งหลาย เห็นบุรุษผู้ไปอยู่ต่างถิ่นมานาน
มาแล้วแต่ที่ไกลโดยสวัสดีย่อมยินดียิ่งว่า 'มาแล้ว' ฉันใด.
บุญทั้งหลายก็ย่อมต้อนรับแม้บุคคลผู้กระทำบุญไว้
ซึ่งไปจากโลกนี้สู่โลกหน้า
ดุจพวกญาติเห็นญาติที่รักมาแล้ว ต้อนรับ อยู่ ฉันนั้นแล.
ขอกุศลทั้งหมดที่คุณอาบงสะสมมา จงนำพาให้อาบงไปสู่สุคติ
ธรรมมะที่อาบงร่วมสนทนากับLNSในครั้งยังมีชีวิตอยู่หรือแม้แต่คำแนะนำ สั่งสอน จะยังอยู่ในใจตลอดไป ไม่ได้ดับสูญไปไหน
รักและเคารพมาก
ป.ล. อยากให้คุณอาวีระเข้มแข็ง อดทน
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การพลัดพรากจากกันเป็นของธรรมดาของโลก หากแต่ว่าชีวิตหนึ่งที่เกิดมานั้น สิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือการได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง คุณป้าก็เป็นผู้หนึ่งที่เข้าใจถูกต้องในหนทางการอบรมปัญญาเพื่อดับกิเลส เมื่อรู้ข่าวคุณป้า ก็หดหู่ เป็นอกุศล แต่หนทางเพื่อเข้าใจถูกตามความเป็นจริงที่ถูกต้องคือ ไม่ใช่ไม่ให้บังคับไม่ให้เกิดเพราะเกิดแล้ว แต่เข้าใจว่าเป็นธรรม แม้แต่ขั้นการฟังก็ตาม ก็ให้เข้าใจว่าเป็นธรรม ขอบพระคุณคุณป้าที่ทำให้ได้เข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน 4 รวมทั้งการสั่งสอนในเรื่องต่างๆ ให้ผมได้เข้าใจและปรับปรุงให้ดีขึ้น ชาติใดที่เป็นมิตรเกื้อกูลกันในพระธรรม ชาตินั้นก็ประเสริฐที่สุดกว่าชาติอื่นๆ ขออุทิศส่วนกุศลให้คุณป้าบงครับ
เชิญคลิกฟังเสียงป้าบงสนทนากับท่านอาจารย์สุจินต์ครับ
DhPTV 5 ... ไม่ใช่แค่ฟังรู้เรื่อง
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับผู้หญิงชื่อเพราะ....บุษบงรำไพ
00389 อายุของมนุษย์ทั้งหลายนี้น้อยนัก
ปฐมอายุสูตร ว่าด้วยอายุน้อย
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อายุของมนุษย์ทั้งหลายนี้น้อยนัก จำต้องไปสู่สัมปรายภพ ควรทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ สัตว์ผู้เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มี
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนที่เป็นอยู่นาน ย่อมเป็นอยู่ได้เพียงร้อยปีหรือจะอยู่เกินไปได้บ้าง ก็มีน้อย.
ธรรมเตือนใจวันที่ : 06-07-2549
ขออุทิศกุศลให้ป้าบงและสรรพสัตว์
ความเข้าใจพระธรรม (ปัญญาเจตสิก) จะนำให้พี่บงปฏิสนธิในสุขคติภูมิครับ
ขอให้พี่วีระ มีพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง ในยามที่เสียใจ นะครับ
ขอกุศลเจตนาที่แก้วได้เพียรบำเพ็ญมา
แก้วขออุทิศกุศลนั้นๆ แด่พี่บงที่รักและเคารพยิ่ง
และ
ขอแสดงความเสียใจยิ่งกับพี่วีระค่ะ
กราบคุณพระรัตนตรัย
และอาลัยกับการจากไปของคุณ บุษบงรำไพ ครับ
ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สูญเสียบุคคลผู้เป็นกัลยาณมิตรและเป็นพี่ที่น่ารักเสมอ
คุณ บุษบงรำไพ พลวัฒน์
พี่บงเป็นพี่ที่คอยเกื้อกูลน้องๆ อยู่เสมอ คอยเตือนน้องๆ ให้ตั้งใจฟังพระธรรม ยังจำคำพูดที่พี่บงเคยเตือนเมตตาว่า " เมตตา ท่านอาจารย์อายุมากแล้วน่ะ พวกเราอย่าได้ประมาทตั้งใจฟังให้ดี เพราะจะหาใครที่จะบรรยายพระธรรมให้เข้าใจให้เข้าถึงสภาพธรรมตามความเป็นจริงเหมือนอย่างท่านอาจารย์น่ะหายาก "นี่เป็นคำพูดเพียงบางส่วนของพี่บงที่เตือนน้อง
ขออุทิศส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้แล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแก่พี่บุษบงรำไพ พลวัฒน์ ขอจงมีจิตโสมนัสยินดีอนุโมทนาในส่วนกุศลนี้ด้วยเทอญ
ขอแสดงความเสียใจและอาลัยกับการจากไปของ...คุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์......คะ
วันนี้ตอนเช้าผมถวายทานแด่พระสงฆ์จำนวนหนึ่ง แล้วอุทิศส่วนบุญให้แก่
คุณพี่บุษบงรำไพ ขอให้คุณพี่บุษบงรำไพ จงอนุโมทนาส่วนบุญนี้ด้วยเทอญ
จากความคิดเห็นที่ 1
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ที่มีเมตตากรุณาต่อศิษย์แม้แต่ในวาระสุดท้ายครับ
ผมขออุทิศกุศลที่ได้ทำมาแล้วในอัตภาพนี้แด่คุณบุษบงรำไพครับ
ขอให้คุณบุษบงรำไพจงไปสู่สุคติ
ขอให้คุณลุงวีระมีธรรมะเป็นที่พึ่งนะคะ
เสียใจอย่างสุดซึ้งค่ะ
การจากไปของญาติผู้ใหญ่หลายท่านทำให้ข้าพเจ้าสะดุ้งเสมอๆ ว่าจุติจิตนั้นจะเกิดกับข้าพเจ้าและทุกๆ คน "เมื่อไหร่ก็ได้จริงๆ " เพราะเป็นอนัตตา
ขอให้กุศลกรรมที่ได้ทำแล้วของคุณป้าบุษบงรำไพ
ทำให้ท่านได้ไปเกิดในที่ที่มีโอกาสได้รับฟังพระธรรมอีกค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านและขอร่วมอุทิศส่วนกุศลที่ได้กระทำมาแด่คุณบุษบงรำไพขอกุศลของท่านได้นำพาท่านไปสู่ภพภูมิที่จะทำให้ท่านได้มีโอกาสฟังพระธรรมอีกผมเคยเจอท่านครั้งหนึ่งในห้องสมุดของมูลนิธิฯคำพูดที่ผมพอจะจำได้บ้าง เพราะได้ยินขณะที่ท่านกำลังสนทนาธรรมกับอีกท่านหนึ่งและในมือก็กำลังเปิดอ่านพระสูตรไปด้วยว่า"อะไรจะมีค่ากว่าการศึกษาพระธรรมละคะ"ช่างเป็นคำพูดสั้นๆ ที่เป็นประโยชน์และเตือนใจให้ไม่ประมาทดีเหลือเกิน
ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลที่ได้กระทำแล้วในอตีดถึงวันนี้แก่
คุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์
ขอจงมีจิตโสมนัสยินดีในกุศลนี้ด้วยเทอญ
แม้ไม่เคยเสวนาด้วย แต่เคยได้รับทราบการถามปัญหาต่างๆ จากจดหมายน้อยถึง
ท่านอาจารย์
ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่คุณป้าบุษบงรำไพ ได้บำเพ็ญมา ขอจงเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้คุณป้าได้ไปเกิดในประเทศอันสมควร มีโอกาสได้คบสัตบุรุษ และได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อมรมเจริญปัญญา ต่อไป ด้วยเทอญ ด้วยความอาลัย และรำลึกถึงภาพบรรยากาศของการสนทนาธรรม ที่คุณป้าบุษบง-รำไพ ได้ถามปัญหาธรรม สนทนาธรรม ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เสมอ ครับ ผมขอร่วมอุทิศส่วนบุญ (อันน้อยนิด) ที่ผมได้บำเพ็ญแล้วในวันนี้ แด่คุณป้าบุษบง-รำไพ ด้วยครับ
ขออุทิศส่วนกุศลที่ได้กระทำมาแล้วด้วยดี แด่พี่บงด้วยค่ะ
และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับพี่วีระค่ะ
มีครั้งหนึ่งที่ท่านอาจารย์สุจินต์และคณะวิทยากรจากมูลนิธิฯ ไปเชียงใหม่ คุณพี่บุษบงรำไพ พลวัฒน์ ได้อนุเคราะห์เกื้อกูลธรรมะหลายเรื่องให้ข้าพเจ้าในช่วงพักเบรค ตอนนั้นไม่รู้ว่าคุณพี่ชื่ออะไร แต่ก็คุ้นมากกับเสียงท่านที่ฟังจากเทป ขออุทิศส่วนกุศลที่ได้ทำแล้วให้กับท่านครับ
รายการ ในวันประชุมเพลิง
พฤหัสบดีที่ 24 ก.ค. 2551
- 10.30 น. สวดพระพุทธมนต์
- 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล
- 13.00 น. สนทนาธรรม (ที่ ศาลา 9)
- 15.00 น. สวดมาติกา - บังสุกุล
- 17.00 น. ประชุมเพลิง
ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสีย
คุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์
ผู้มีคำถามอันเป็นประโยชน์เกื้อกูลสหายธรรมท่านอื่นๆ เสมอมามิได้ขาด
แม้ในเวลาที่ร่างกายอ่อนแออย่างที่สุด
ทราบมาว่าคุณบุษบงรำไพชอบดอกไม้สีแดง
.....กุหลาบแดงคู่นี้สำหรับคุณบุษบงรำไพค่ะ.....
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ในภพนี้ คุณบุษบงรำไพ เคยมีความสุข อาจหาญร่าเริงใจในพระธรรมและบุญกุศลทั้งหลายเช่นไร
ขอคุณบุษบงรำไพ ได้รับความสุข ความอาจหาญร่าเริงใจในพระธรรมและบุญกุศลทั้งหลายเหล่านั้น เช่นนั้น ในภพหน้า และตลอดไปทุกๆ ภพด้วยเทอญ
แม้วันนี้จะไม่มี ผู้หญิงชื่อเพราะ ... บุษบงรำไพ แต่วันนี้ และวันต่อๆ ไป ก็จะยังคงได้ยินเสียงถามธรรมะใน mp3 หลายต่อหลายครั้งของมูลนิธิ จาก
ผู้หญิงชื่อเพราะ ... บุษบงรำไพ
และแม้จะไม่มีเสียงถามธรรมะจาก ผู้หญิงชื่อเพราะ ... บุษบงรำไพ แต่ก็ยังได้ยินคำถามข้อธรรมะ ที่ฝากมาถามจาก
เมื่อระลึกถึงความมั่นคงในกุศลธรรมของท่านครั้งใดขออนุโมทนาแด่...คุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์ ค่ะ
ดีใจที่พี่บงได้ไปเกิดใหม่ที่ดีกว่า เพราะเหตุที่ได้บำเพ็ญเพียรไว้ดีแล้ว
แต่เสียดายแบบอย่างของรุ่นพี่ที่ดีของสหายธรรมได้จากไป
ไม่รู้จักท่านและไม่เคยพบท่านแต่ได้ยินชื่อท่านบ่อยๆ เนื่องจากการฟังสนทนาธรรมของท่านอาจารย์ทางซีดีหลายคนจำได้เพราะชื่ออันไพเราะของท่าน
ขณะอ่านหัวข้อกระทู้รู้สึกขนลุกบอกไม่ถูกและใจหาย ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เสมือนเป็นญาติธรรมกัน มั่นใจว่าสิ่งที่ท่านได้สะสมและบำเพ็ญมั่นคงในพระธรรมจะเป็นเหตุปัจจัยให้ท่านมีธรรมเป็นเกาะเป็นที่พึ่งในทุกภพไปค่ะ
ขอไว้อาลัยด้วยความจริงใจค่ะ
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพลวัฒน์ค่ะ
คุณงามความดีและกุศลจิตของคุณบุษบงรำไพจะ "ประดับไว้ในโลกา" ทั้งโลกนี้
และโลกหน้าค่ะ....
ขออุทิศส่วนกุศลแก่พี่บงผู้มั่นคงในพระธรรมแม้ยามป่วยไข้ เหตุนี้คงทำให้พี่บงได้
ฟังพระสัทธรรมต่อในภพภูมิต่อไปจนกว่าจะบรรลุพระอริยสัจธรรม
และขอแสดงความเสียใจต่อพี่วีระ ซึ่งมีพระธรรมเป็นที่พึ่งแน่นอน
ความดีที่ท่านทำไว้ในโลกย่อมจับใจพวกเราตลอดไปค่ะดิฉันจะไม่ประมาทมั่นศึกษาธรรมเพราะไม่รู้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อไรขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพลวัฒน์ด้วยค่ะ
ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ
คุณบุษบงรำไพ พลวัฒน์
และขออุทิศส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วทั้งหมดให้ท่านได้รับรู้และอนุโมทนาค่ะ
.....ขอจงไปสู่สุคติ.....
วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) - หน้าที่ ๘๘
"ชีวิต อัตภาพ และสุขทุกข์ทั้งมวล * ประกอบ (คือผูก) ไว้กับจิตดวงเดียว
ขณะ (แห่งชีวิต) เป็นต้นนั้น) ย่อมเป็นไปพลัน (คือชั่วขณะจิต หนึ่ง)
แม้เทวดาเหล่าที่ (มีอายุยืน) ตั้งอยู่ได้ตลอด ๘๔,๐๐๐ * กัป
ก็ใช่ว่าปลง (ชีวิตเป็นต้น) ไว้กับจิต ๒ ดวงตั้งอยู่หามิได้
ขันธ์เหล่าใดที่ดับแล้วของสัตว์ที่ตาย
หรือของสัตว์ที่ยังตั้งอยู่ในปวัติกาลนี้ก็ตาม
ขันธ์เหล่านั้นก็เหมือนกันหมด (คือดับ) ไปไม่ต่อกัน
ขันธ์ทั้งหลายที่ (เป็นปัจจุบัน) ดับๆ อยู่
ในระหว่างแห่งขันธ์ (อดีต) ที่ดับๆ มาแล้วไม่ขาดระยะ
และขันธ์ที่ (จัก) ดับในอนาคต
หามีความต่างกันในเพราะลักษณะ (ที่ดับ) ไม่
เพราะจิตไม่เกิด สัตวโลกก็ชื่อว่าไม่เกิด
เพราะจิตเกิดขึ้นจำเพาะหน้า สัตวโลกก็ชื่อว่าเป็นอยู่
เพราะความแตกดับแห่งจิต สัตวโลกก็ชื่อว่าตาย
(นี่) เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์
สังขารธรรมทั้งหลายที่แตกดับแล้ว ก็มิได้ไปเก็บไว้ (ที่ไหน)
กอง (สังขารสำหรับที่จะเกิด) ในอนาคตก็หามีไม่
สังขารทั้งหลายเหล่าใดที่เกิดแล้วตั้งอยู่เล่า
สังขารเหล่านั้นก็อุปมาดังเมล็ดพรรณผักกาด
(ที่คนวางลง) บนปลายเข็ม (พอถูกปลายเข็มก็ตกไปพลัน)
อนึ่ง เมื่อ (สังขาร) ธรรมทั้งหลายเกิดแล้ว
ความแตกดับก็รุมล้อมธรรมเหล่านั้นไว้
มันจึงมีความแตกทำลายเป็นธรรมดา (ในตัวมัน)
ไม่ปนกันธรรมก่อนๆ
มันมาโดยไม่เห็น แตกดับแล้วก็ถึงซึ่งความไม่เห็น
มันเกิดขึ้นและเสื่อมสิ้นไป
ดังความเกิดขึ้นแห่งสายฟ้าในอากาศ ฉะนั้น"
* * * * * * * * * * *
ชีวิตเป็นของน้อย ทุกขณะจิตที่ดับไปก็เป็นการตายจากไปทุกๆ ขณะ
ขอให้ทุกท่านใช้เวลาที่เหลืออยู่ (ของความเป็นบุคคลนี้) ด้วยความไม่ประมาทค่ะ
....ขออนุโมทนา....
ขออนุโมทนาในบุญกุศล ของคุณพี่ บุษบงรำไพ ที่ได้กระทำมาแล้วครับ เชื่อได้ว่าจะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ คุณพี่บุษบงรำไพ ได้มีโอกาศในการเจริญกุศลทุกประการ และมีโอกาศศึกษา ได้ยินได้ฟัง พิจารณาพระธรรม เจริญสติปัฎฐานต่อไปครับ
ใจหายเมื่อทราบข่าวค่ะ
คิดถึงเมื่อครั้งไปอินเดียปี '50 พี่บงแสนจะน่ารัก มีเมตตากับดิฉันมาก ทั้งที่เพิ่งจะได้พูดคุยกันเป็นครั้งแรก พี่บงก็ช่วยเหลืออย่างดียิ่ง ภาพที่พี่บงจูงมือพาไปซื้อของที่น้องอยากได้ยังอยู่ในความทรงจำ
หลังจากนั้นเมื่อมีโอกาสได้พบพี่บง พี่บงก็เตือนเรื่องความไม่ประมาท ให้ศึกษาธรรม เจริญสติปัฎฐาน เพราะเป็นทางเอก ทางเดียว ยังจำคำพี่บงไว้เตือนตัวเองเสมอค่ะ
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพลวัฒน์ด้วยค่ะ
อาลัยยิ่ง
คุณ พี่บุษบงรำไพ พลวัฒน์
อุทิศส่วนกุศลแด่ พี่บง
เมื่อตอนที่ร่างกายพี่บงเริ่มทรุดโทรมใหม่ๆ พี่บงบอกแก้วว่าพี่บงพร้อมเสมอที่จะจากไป
แต่ระหว่างที่ยังไม่จากไปนี่ซิ จะอดทนอยู่ด้วยกุศลจิตมากกว่าอกุศล
แก้วนำคำพูดของพี่บงไปไตร่ตรองและได้บอกพี่บงว่าธรรมนั้นคงเป็นไปได้ยาก
จะอดทนและมีกุศลจิตเกิดมากกว่าได้อย่างไร
จะไม่หวั่นไหวกับทุกขเวทนาในขณะนั้นได้อย่างไร
"แก้ว"ธรรมใดปรากฏก็ระลึกรู้ลักษณะที่กำลังปรากฏนั้น
แก้วต้องมั่นคงว่ามีแต่ธรรมเท่านั้นที่กำลังปรากฏ พี่บงก็ไม่มี
และพี่บงก็เป็นตัวอย่างให้แก้วแน่ใจได้ว่าถ้าปัญญามี
กุศลจิตก็สามารถเกิดได้ท่ามกลางทุกขเวทนา
พี่บงแจ่มใสตลอดมา
พี่บงยังคอยที่จะเกื้อกูลผู้ฟังธรรม โดยการเขียนคำถามที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์
ต่อท่านผู้ฟัง มากราบเท้าท่านอ. และท่านวิทยากร
และเมื่อไม่สามารถที่จะเขียนคำถามได้เอง ก็พูด ให้เขียน
แม้เมื่อร่างกายอ่อนเพลีย หอบเหนื่อย ก็ยังพูดคำถามไป หอบไป พักไป
ด้วยเพียงเพื่อจะเกื้อกูลและพี่บงคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟังธรรม...
พี่บงเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของแก้วค่ะ
ในสังสารที่ยังไม่สิ้นสุด
หากเหตุปัจจัยทำให้เราได้เกิดในภูมิเดียวกันขอให้เราได้เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน
มีโอกาสที่จะศึกษาธรรมด้วยสัมมาทิฏฐิด้วยจุดหมายเดียวกันนะคะพี่บง
ด้วยความเคารพ และรัก พี่บงค่ะ