ญาณ 16 มีในพระไตรปิฎกหรือไม่
ไม่ทราบว่าเรื่อง โสฬสญาณ พระพุทธเจ้าเคยตรัสด้วยพระองค์เองหรือไม่ครับ หรือว่าเป็นเรื่องที่พระอรรถกถาจารย์อธิบายขึ้นภายหลัง
ขอบคุณครับ
คำว่า โสฬสญาณ หรือ วิปัสสนาญาณ ๑๖ เป็นชื่อของปัญญาระดับสูงคือ ผู้มีปัญญาอันอบรมจนมีกำลังแล้ว จริงอยู่ในพระไตรปิฎกพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันตสาวก ท่านไม่ได้แสดงจำนวนเรียงตามลำดับตั้งแต่ ญาณ ๑ - ๑๖ ก็จริง คือ แสดงจำนวน ๙ บ้าง ๑๐ บ้าง แต่พระอรรถกถาท่านอธิบายขยายความให้ละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น ตามนัยของพระพุทธพจน์นั่นเองคือในพระบาลี ท่านละไว้ในฐานะที่เข้าใจกัน จึงไม่ได้กล่าวถึงญาณะบางญาณะ เช่น ญาณะที่ ๑ เป็นต้น แต่ผู้ที่จะบรรลุเป็นพระอริยบุคคลต้องผ่านญาณทั้ง ๑๖ ญาณทุกคน ดังนั้น พระอรรถกถาจึงขยายความการเจริญขึ้นของปัญญาเป็นลำดับขั้น เป็น ๑๖ ขั้น สรุปคือ โสฬสญาณ หรือ ญาณ ๑๖ จะกล่าวว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ได้ เพราะอธิบายตามนัยของคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้รู้จักโลกทั้ง ๖ คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เกิดแล้วดับ ไม่เที่ยง สุดยอดของความรู้ คือ การรู้จักโลกทั้ง ๖ ตามความเป็นจริงขณะนี้ว่าเป็นธรรมค่ะ
พระอรรถกถาจารย์ทั้งหลาย ท่านช่วยให้ผู้ที่ศึกษาธรรมะรุ่นหลัง ซึ่งมีปัญญาน้อยลงได้เห็นถึงความละเอียดประณีตของพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า แม้พระองค์จะตรัสกับสาวกเพียงสั้นๆ แต่ความจริงนั้น อรรถแสนลึก ยากที่จะเข้าถึงหากขาดความรอบคอบในการศึกษาเพิ่มเติม แล้วพิจารณา ไตร่ตรองจนเกิดปัญญาเครื่องตรวจสอบและพิสูจน์ความจริงด้วยตนเอง ปัญญาที่เกิดจากการศึกษาที่ละเอียดขึ้นจะช่วยป้องกันไม่ให้มีการหลงผิด คิดว่า การบรรลุอริยสัจจธรรม หรือ การได้วิปัสสนาญาณขั้นต่างๆ เป็นเรื่องง่ายที่ใครก็สามารถที่จะประจักษ์และบรรลุได้ ซึ่งความเป็นจริง ก็ไม่ง่ายอย่างนั้นจริงๆ เพราะเหตุว่าปัญญาเจริญช้ามาก และหนทางที่จะได้เจริญปัญญานั้นก็แสนยาก สาวกที่เป็นปุถุชนจึงไม่ควรประมาทในพระปัญญาคุณของพระองค์ และปัญญาของท่านพระอรหันต์ทั้งหลายแม้ในรุ่นหลังๆ เลย หากยังไม่รู้ ก็ยังต้องอาศัยการฟังพระธรรมที่ทรงแสดงโดยตลอด ๔๕ พรรษาเป็นหลักอีกมากเหลือเกิน พร้อมทั้งเพิ่มพูนความเข้าใจในจุดที่เข้าไม่ถึงด้วยอรรถกถาซึ่งท่านอธิบายไว้โดยประการต่างๆ ครับ
สหายธรรมท่านหนึ่งกล่าวเตือนข้าพเจ้าว่านามธรรม และ รูปธรรมที่ปรากฏทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รูป คือ สี เสียง กลิ่น รส สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึงไหว รู้ได้ทางกายสภาพเอิบอาบ เกาะกุม รู้ได้ทางใจ นี่คือสภาพธรรมที่เกิดดับอยู่ในชีวิตประจำวันรู้ลักษณะเหล่านี้บ้างแล้วหรือยัง?
น่าพิจารณาจริงๆ ขออนุโมทนาค่ะ