อบรมเจริญอโมหเหตุ ได้แก่ปัญญาเจตสิก
เมื่อไหร่กุศลเหตุจะค่อยๆ เจริญขึ้นๆ จนกระทั่งมีกำลังมากกว่าฝ่ายอกุศลเหตุเสียที ต้องอบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง เพราะการรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงนั้นเป็นปัญญาเจตสิกเป็นอโมหเหตุ ตราบใดที่ปัญญายังไม่รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ที่จะไม่ให้โลภเหตุ โทสเหตุ หรือโมหเหตุเจริญงอกงามไพบูลย์นั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่มีธรรมอื่นเลยที่จะละคลายและดับอกุศลเหตุได้นอกจากปัญญาซึ่งเป็นอโมหเหตุ
เมื่อศึกษาพระธรรมและเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ และเป็นผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน กุศลที่เป็นอโมหะ คือ ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้น เมื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคลเมื่อไร เมื่อนั้นจึงจะดับอกุศลธรรมเป็นประเภทๆ ได้ จนกว่าจะถึงความเป็นพระอรหันต์
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป