อยากดับโมหะ และโทสะให้ได้

 
กัลยาณมิตร
วันที่  19 มี.ค. 2549
หมายเลข  939
อ่าน  3,799

รู้สึกว่าค้านๆ กับตัวเองอย่างไรไม่ทราบค่ะ เป็นคนใจอ่อน บุคคลภายนอกมองเราว่าเป็นคนมีความเมตตามาก แต่ตัวเราเองรู้สึกตัวว่าเราเป็นคนมีโทสะ โมหะมากเหลือเกิน พูดหรืออธิบายอะไรให้ใครฟังเกิน 2 ครั้งอารมณ์เริ่มไม่ดี เริ่มพูดจาเสียงดัง กระแทกเสียง จะรู้สึกตัวก็เกิดโทสะ โมหะไปแล้วทุกที แล้วก็มาเสียใจกับตัวเองทุกที


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 20 มี.ค. 2549

ผู้ที่จะดับกิเลสทั้งหมดได้ต้องอบรมเจริญปัญญาจนบรรลุความเป็นพระอรหันต์ ผู้ที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ย่อมมี ราคะ โทสะ โมหะ เป็นธรรมดา เพราะยังละไม่ได้ เมื่อมีเหตุปัจจัยย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่พระอริยบุคคลท่าน ไม่ยึดถือธรรมเหล่านั้นว่า เป็นอัตตาตัวตนของเราผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐานเมื่อโทสะเกิดขึ้นก็รู้ชัดว่าโทสะเกิด ย่อมไม่เสียใจว่าโทสะเป็นเรา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
namarupa
วันที่ 21 มี.ค. 2549

คุณกัลยาณมิตรบอกว่า...

อยากดับโทสะและโมหะให้ได้ คำถามที่น่าสนใจที่ตามมาก็คือ แล้วเหตุของอกุศลธรรมทั้งหมด คือ เจ้าโลภะตัวดีล่ะค่ะ เอาไปไว้ซะที่ไหน? มีประโยคหนึ่งที่เป็นเครื่องเตือนใจดิฉันตลอดมา คือ เมื่อโทสะ คือความโกรธ ความไม่พอใจ (ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหน) เกิดขึ้นทุกครั้ง ก็เพราะเหตุว่า " เราไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ" เจ้าตัว อยาก ติดข้อง ต้องการ นี่แหละค่ะ ที่ร้ายที่สุด เพราะเค้านำมาซึ่งความทุกข์ทั้งปวง ในแต่ละวัน เราติดไปหมด ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตั้งแต่เช้าถึงเย็น แต่เรากลับชอบเราไม่เคยบ่นหรือว่าไม่สบายใจ หรือเป็นทุกข์กับมันเลย แต่แท้ที่จริง ตัวนี่แหละคือตัวปัญหา แต่ยังไงๆ เค้าก็คือสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ที่สติสามารถระลึกรู้ในลักษณะของความ อยาก ติดข้อง ต้องการนี้ได้ กรุณาอ่านและฟังไปเรื่อยๆ เถอะค่ะ พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปค่ะ ทำใจให้สบายเถอะค่ะ ไม่ต้องไปมีโทสะเพิ่มขึ้น กับทั้งโทสะและโมหะที่มีอยู่มากมายมหาศาลหรอกค่ะ เพราะมันจะไปสะสมเพิ่มขึ้นไปอีก น่ากลัวค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ความเป็นกลาง
วันที่ 23 มี.ค. 2549

ตามที่คุณ namarupa กล่าวนั้นคือ กามฉันทะนิวรณ์ นั้นเป็นของคู่กับพยาปาทะนิวรณ์

ใช่ไหมครับ เพราะผมเคยอ่านหนังสือทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานบางเล่มที่กล่าวถึง

โทษของของคู่ตรงกันข้ามกัน เป็นคู่ๆ มาเหมือนกันครับขออนุโมทนาบุญครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
study
วันที่ 23 มี.ค. 2549

ตามที่คุณ namarupa กล่าวนั้นคือ เพราะมีโลภะความติดข้องในสิ่งต่างๆ จึงมีโทสะเกิดขึ้นเมื่อสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไป ผู้ที่ละกามราคะได้จึงละโทสะได้เช่นกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
กัลยาณมิตร
วันที่ 24 มี.ค. 2549

อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่กรุณาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
study
วันที่ 28 มี.ค. 2549

โทสะเกิดเพราะยังละปฏิฆานุสัยไม่ได้ ผู้ที่ละได้คือพระอนาคามีบุคคล

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เคารพธรรม
วันที่ 29 มี.ค. 2549

ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ คุณกัลยาณมิตรครับ คุณทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีเพื่อนทุกข์ที่มีโทสะ โมหะคล้ายๆ กันอีกคนหนึ่ง อย่าเพิ่งท้อใจนะครับ การที่เราเข้ามาในบ้านธัมมะหลังนี้ บ้านที่มีแต่คนที่มีธรรม ผมคิดว่าเราเข้ามาถูกที่แล้วครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
กัลยาณมิตร
วันที่ 3 เม.ย. 2549

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
unknown
วันที่ 3 ก.พ. 2550
ขออนุโมทนาที่เป็นผู้ตรงคับ ทุกคนที่ยังไม่ใช่พระอนาคามีย่อมมีโทสะแน่นอน เพราะฉะนั้น แม้ว่าไม่มีใครชอบโทสะ แต่โทสะก็เกิดเพราะมีเหตุปัจจัย ดังนั้น ข้อนี้ก็ยืนยันได้ว่า แม้โทสะ โมหะก็เป็นอนัตตา บังคับไม่ได้ที่จะไม่ให้เกิด เพราะฉะนั้น ขณะที่สติเกิดจึงรู้ว่าแม้โทสะก็ไม่ใช่เราและเห็นโทษของโทสะด้วยครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ