ความเป็นบรรพชิต ถ้ารักษาไม่ดี มีแต่จะทำให้เกิดโทษ
ผู้ที่จะบวชเป็นบรรพชิตได้นั้นต้องเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยน้อมไปที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิตด้วยใจจริง ซึ่งต้องสละอาคารบ้านเรือน สละวงศาคณาญาติ รวมถึงสละโภคสมบัติด้วย เมื่อบวชแล้วยังจะต้องศึกษาพระธรรมวินัย ศึกษาในสิกขาบทข้อต่างๆ ที่พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ้าปราศจากการศึกษาหรือไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง พฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่มีความละอาย ล่วงละเมิดพระวินัยบัญญัติ ก็ย่อมจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ความเป็นบรรพชิตถ้ารักษาไม่ดี ไม่เอื้อเฟื้อในพระธรรมวินัย มีแต่จะทำให้เกิดโทษฝ่ายเดียว ดังข้อความที่ว่า
"หญ้าคาอันบุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือนั่นเอง ฉันใด ความเป็นสมณะ อันบุคคลปฏิบัติไม่ดี ย่อมฉุดเข้าไปในนรก ฉันนั้น"
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ช่วยเตือนสติให้ได้อย่างมากที่ได้ข้อความจากพระพุทธพจน์มาบอกกัน ทั้งที่พระองค์เคยพยากรณ์ในเรื่องสงฆ์ในอนาคตหลังพุทธปรินิพพาน ก็เป็นเช่นนั้นให้เห็นมีอยู่ แต่ก็ต้องแยกบุคคลที่ทำนั้นเป็นกรรมเฉพาะบุคคลที่พระท่านจะเตือนพระเอง
อนุโมทนาครับ เพราะการบวชในสมัยนี้ทำไปเพราะเป็นประเพณีไม่ใช่ตามที่คุณธรรมทัศนะ บอกเล่ามา แต่ก็นับว่าน่าสงสารคนเราทุกวันนี้มากๆ ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ แต่อีกประการหนึ่ง คือ ถ้าไม่ทำก็ถูกหาว่าเป็นลูกที่ไม่ตอบแทนคุณพ่อแม่ นับว่าน่าบอกประกาศเรื่องแบบนี้กับสื่อต่างๆ มากเลยนะครับว่า ที่พระพุุทธเจ้าบอกในพระไตรปิฎกที่สอน/บัญญัติไว้อย่างแท้จริงคืออะไร? ไม่ใช่ทำไปๆ เพราะ ... ใครก็ไม่รู้เริ่มต้นความคิดนี้