ความเป็นจริงของพระธรรม

 
ตุลา
วันที่  29 ก.ค. 2551
หมายเลข  9410
อ่าน  1,329

ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย

พระธรรมไม่สามารถให้ลาภ ให้ยศ ให้ตำแหน่ง ที่ทุกคนปรารถนาได้ แต่พระธรรมให้ความจริงของสิ่งทั้งปวง และทำให้สามารถอบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลส จนเป็นบุคคลที่ประเสริฐได้ พระธรรมให้ความสุขที่สงบประณีต เพราะดับความเร่าร้อน คือกิเลสในจิต ตามลำดับความเข้าใจ (ของแต่ละบุคคล)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 29 ก.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นสิ่งที่มีจริง ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น และเป็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ไม่มีใครทำอะไรให้เกิดขึ้นได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยไม่มีใครทำเห็นให้เกิดขึ้น ไม่มีใครทำได้ยินให้เกิดขึ้น แต่มีแล้ว เกิดแล้ว เพราะมีเหตุปัจจัย ไม่มีใครทำโกรธให้เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุปัจจัยให้ความโกรธเกิดขึ้น ความโกรธก็เกิดขึ้น ไม่มีใครทำความติดข้องให้เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุปัจจัยให้ความติดข้องเกิดขึ้นความติดข้อง ยินดีพอใจก็เกิดขึ้นเป็นปกติ จึงไม่มีใครทำอะไรให้เกิดขึ้นได้

ดังนั้น จึงมีการอบรมเจริญปัญญา เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีอยู่แล้วในขณะนี้จนกระทั่งปัญญาความรู้ความเข้าใจ เพิ่มขึ้น เจริญขึ้น การที่ปัญญาจะเจริญขึ้น สมบูรณ์ขึ้น ก็ย่อมเป็นไปตามลำดับขั้น ไม่ใช่มีตัวตนที่จะไปทำให้ผลสำเร็จขึ้นได้ อีกทั้งยังต้องมีจุดประสงค์ที่แท้จริงของการศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ด้วย กล่าวคือ เป็นผู้ที่ตั้งจิตไว้ชอบ

ถ้าจะศึกษาเหมือนวิชาการทางโลกที่มีการสอบวัดผล มีการมอบใบประกาศนียบัตร-หลัง่ศึกษาจบ หรือแม้กระทั่งการศึกษาธรรม เพื่อที่จะเก่ง เพื่อที่จะรู้มากกว่าบุคคลอื่นเพื่อลาภ ยศ สักการะชื่อเสียง นั้น ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงก็เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง เพื่อขัดเกลากิเลสอกุศล เพื่อละความไม่รู้ ครับ ..

...ขออนุโมทนาครับ...
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 29 ก.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 29 ก.ค. 2551

อนุโมทนาค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 ก.ค. 2551
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

00500 เพื่อสำรวมและเพื่อละกิเลส

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พรหมจรรย์นี้ ภิกษุไม่อยู่ประพฤติเพื่อจะหลอกลวงชน ไม่อยู่ประพฤติเพื่อประจบคน ไม่อยู่ประพฤติเพื่ออานิสงส์ คือ ลาภ สักการะ ความสรรเสริญ ไม่อยู่ประพฤติ ด้วยคิดว่า ชนจงรู้จักเราด้วยอาการอย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ที่แท้พรหมจรรย์นี้ ภิกษุย่อมอยู่ประพฤติเพื่อการสำรวมและเพื่อการละ.

ปฐมนกุหนาสูตร

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 207


ธรรมเตือนใจวันที่ : 26-06-2551


ขออนุโมทนาครับ ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prakaimuk.k
วันที่ 30 ก.ค. 2551
พระธรรมให้ความสุขสงบที่ประณีต......ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 30 ก.ค. 2551

พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง นำออกจากทุกข์ได้จริง ผู้ปฏิบัติธรรมพึงเห็นเอง

รู้ได้เฉพาะตน ไม่จำกัดกาลเวลาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ajarnkruo
วันที่ 30 ก.ค. 2551


00059 เกื้อกูลญาติมิตรด้วยพระธรรม

เมื่อมีโอกาส

เกื้อกูลญาติมิตร

ด้วยพระธรรมสั้นๆ ข้อหนึ่งข้อใด

เมื่อถึงกาลที่สมควร

ที่เป็นประโยชน์กับเขา

ขณะนั้นเป็นการแสดงธรรม

แสดงสิ่งที่ถูกที่ควร

ซึ่งจะอุปการะผู้นั้นให้มีการระลึกได้


ธรรมเตือนใจวันที่ : 06-10-2547

...ขออนุโมทนาคุณตุลาและกุศลจิตของสหายธรรมทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 31 ก.ค. 2551

ขออนุโมทนากุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ