สติและปัญญาเกิดได้ เพราะอบรมเหตุที่ถูกต้อง
ที่สำคัญต้องเข้าใจว่าสติคืออะไร สติคือธรรมฝ่ายดี เกิดกับจิตที่เป็นกุศลทุกประเภท
รวมทั้งเกิดกับวิบากจิตและกิริยาจิตบางประเภท แต่เมื่อพูดถึงสติที่หมายถึงการเจริญ
วิปัสสนานั้น ต้องมีปัญญาเกิดร่วมด้วยและควรเข้าใจว่า สติและปัญญาที่เป็นไปในการ
เจริญวิปัสสนานั้นคือเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ คือ สติระลึกสภาพ
ธรรมที่มีในขณะนี้ ปัญญารู้ตามความเป็นจริงในขณะนั้นว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา แต่สติ
และปัญญาเป็นธรรมและเป็นอนัตตา ต้องมีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น ดังนั้นต้องอบรมเหตุที่
ถูกต้อง คือฟังให้เข้าใจก่อน ว่าธรรมคืออะไร เพราะถ้าไม่เข้าใจว่าธรรมคืออะไร สติและ
ปัญญาก็ไม่มีทางเกิดได้เลยเพราะไม่มีปัญญาขั้นการฟังที่รู้ว่าธรรมคือสิ่งที่มีจริงในขณะ
นี้ ก็ไม่เป็นเหตุปัจจัยให้สติและปัญญาเกิด เพราะสติและปัญญาเกิดก็รู้ความจริงที่มีใน
ขณะนี้ครับ
การฟังพระธรรมให้เข้าใจก่อน คือการอบรมเหตุที่ถูกต้อง
ขออนุโมทนาค่ะ....
การฟังพระธรรมก็เพื่อให้เข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในขณะนี้ สติระลึกศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎบ่อยๆ เนืองๆ ก็จะเป็นเหตุปัจจัยให้สติปัฎฐานเกิดขึ้นได้ ซึ่งมีหนทางเด๊ยวที่จะอบรมเจริญปัญญาที่ถูกต้องขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
เริ่มต้นด้วยการฟังให้เข้าใจให้ถูกต้องตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา
ให้รู้จักเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นรูป เห็นเป็นนาม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลค่ะ
การศึกษาธรรมะมีเหตุมีผลค่ะ ไม่ใช่การพูดลอยๆ แล้วแต่ว่าผู้ศึกษาจะมีปัญญาเกิดขณะศึกษาหรือไม่ แล้วแต่เหตุปัจจัยและการสะสมค่ะ "เรา" ไม่มี แต่ยังไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ เพราะอวิชชาสะสมมามากกว่าปัญญา จึงดำเนินชีวิตเป็นไปด้วยกิเลสมากมาย
แต่ก็ไม่พักไม่เพียรค่ะ อนุโมทนา
ถ้าไม่เข้าใจธรรมมะ แล้วจะมีอะไรไปพิจารณาธรรมะ
เสมือนเห็นน้ำที่กว้างใหญ่ แต่ไม่มีภาชนะอะไรไปตักน้ำ
ขออนุโมทนาครับ