ขอเกิดร่วมกับคนที่ปฏิบัติธรรมะร่วมกัน ?

 
สารธรรม
วันที่  1 ส.ค. 2551
หมายเลข  9442
อ่าน  1,400

: อิชั้นเคยได้ยินคนพูดนะคะ ว่าไม่อยากไปนิพพานหรอก

เพราะว่าไม่มีอะไร นิพพานไม่สนุกเหมือนสวรรค์ นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ความยินดีพอใจในตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของคนนี้ยังมีมาก ไม่มีสามารถที่จะดึงเอากิเลสออกจากจิตใจไม่มองเห็นความทุกข์ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้ ก็เลยกลัวพระนิพพานค่ะ เพราะคำว่า สุญฺญํ กลัวกันจริงๆ ก็มีค่ะ แต่ก็อยากได้ถ้าหากว่าพระนิพพาน นิพฺพานํ ปรมํ สขํชอบคำนี้ ...แต่ไม่ชอบคำนี้ (สุญญํ)

: ชอบสุข แต่ไม่ชอบสูญเหรอคะ : ใช่ค่ะ ชอบสุขอยู่ แต่ไม่ชอบสูญ

: ค่ะ

: ก็แสดงว่ายังติดหลงอยู่ในกามคุณ

: แล้วถ้าจะว่ากลัวนิพพาน ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเลย เพราะ

ว่าแสนไกล

: คือสุขอื่นเสมอด้วยนิพพานไม่มี คำนี้ก็เคยได้ยินค่ะ ยังงี้

เป็นความจริงใช่มั้ยคะ อาจารย์คะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
สารธรรม
วันที่ 1 ส.ค. 2551

: คำถามของท่านผู้ฟัง ทำให้คิดถึงท่านผู้ฟังท่านหนึ่ง

ค่ะ "ขอเกิดร่วมกับคนที่ปฏิบัติธรรมะร่วมกัน" นี่ก็ยังคงเป็นสภาพของจิตใจของแต่ละคน ซึ่งถ้าเจริญสติ จะได้ทราบตามความเป็นจริงว่า ...ยังมีความผูกพัน ...ยังมีความปรารถนา ...ยังมีความต้องการอยู่ แม้จะเกิดร่วมกับผู้ที่ปฏิบัติธรรมร่วมกัน ฟังดูเหมือนจะดีนะคะ คือว่าเป็นหมู่คณะซึ่งปฏิบัติธรรมร่วมกัน ก็ปรารถนาที่จะได้เกิดร่วมกันต่อไปอีก


ถ้าคนที่ปฏิบัติธรรมะร่วมกันนั้น ยังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้านะคะ ก็ยังคงจะต้องเกิดในอบายภูมิได้ เวลาที่เป็นผลของอกุศลกรรม เพราะฉะนั้น ถ้าบังเอิญว่าผู้ที่ปฏิบัติธรรมะร่วมกันเนี่ยค่ะ ไปเกิดเป็นนก เป็นหนู เป็นปู เป็นปลา แล้วก็อธิษฐาน...ขอให้เกิดร่วมกันกับผู้ที่ปฏิบัติธรรมะด้วยกัน จะเป็นยังไงคะ ยังคงมีความผูกพันกับนก หนู ปู ปลานั่น ว่าเป็นผู้ที่เคยปฏิบัติธรรมะร่วมกันหรือเปล่า


ถ้ามีการจุติและปฏิสนธิแล้ว เป็นบุคคลใหม่ ตามบุญตามกรรมที่ได้กระทำมา ไม่ควรที่จะไปผูกพันว่า คนนี้เคยเป็นอย่างนั้นมาเก่าก่อน หรืออะไรอย่างนี้นะคะ เพราะเหตุว่าไม่ทำให้รู้สภาพธรรมะตามความเป็นจริงว่า แท้ที่จริงขณะที่คิดอย่างนั้นเป็นสภาพของจิตอย่างไร


แม้แต่ม้ากัณฑกะ ท่านสะสมอบรมเจริญสติปัฏฐาน..มานานก่อนที่จะได้บรรลุมรรคผล แต่ว่าก่อนที่จะได้บรรลุมรรคผลเนี่ยค่ะ เกิดเป็นม้ากัณฑกะก่อน แล้วก็ผู้ที่เคยปรารถนาที่จะทำบุญเกิดร่วมกันกับผู้ที่เคยปฏิบัติธรรมะมาร่วมกัน จะเป็นยังไงคะ ในเมื่อชาตินั้นเป็นม้ากัณฑกะซะแล้ว แล้วก็หลังจากที่จุติจากชาตินั้น จึงได้บังเกิดในสวรรค์ แล้วก็ได้บรรลุมรรคผล เมื่อได้มาเฝ้าฟังธรรมจากพระผู้มีพระภาค


เพราะฉะนั้น เรื่องของการติดเนี่ยนะคะ ถ้าได้พิจารณาจริงๆ แล้วจะเห็นได้ว่า มากมายเหลือเกินค่ะ แล้วก็อันตรายก็คือว่า เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่มีอยู่แล้วเนี่ยนะคะ มากเหลือที่จะรู้ได้ว่าแค่ไหน แต่ว่าเป็นปัจจัยให้มีการหลงลืมสติเรื่อยๆ ทำให้ไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมะที่กำลังปรากฏ ทำให้มีความปรารถนา ความต้องการต่างๆ กันไป นี่คือสภาพของอกุศลที่ได้สะสมมา..มากทีเดียว แต่อันตรายก็คือว่า เพิ่มขึ้นอีกๆ ๆ ๆ เรื่อยๆ ถ้าไม่อบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมะที่กำลังปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง

ข้อความบางตอนจาก...ชุดเทปวิทยุ ชุดที่ ๑๐ ครั้งที่ ๖๔๑

บรรยายโดย ท่าน อ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 1 ส.ค. 2551

สาธุ

รูปแบบใหม่นี้ อ่านง่าย และน่าสนใจดี

ขออนุโมทนาคุณสารธรรมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 1 ส.ค. 2551

อนุโมทนานะคะ อ่านดีมาก

นิพพานนั้น...แสนไกลต้องเป็นผู้ตรงจริงๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 1 ส.ค. 2551

ขอเกิดร่วม..ตามเหตุปัจจัยและถ้าเขาไปอบายภูมิจะอยากเกิดร่วมกับเขาไหม

ความติดข้อง..เป็นเพื่อนสองคอยติดตามเสมอ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 1 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 2 ส.ค. 2551

ถ้าไม่อบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมะ ที่กำลังปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ในชีวิตปัจจุบันก็เป็นไปกับ อกุศลคือความติดข้องเป็นส่วนมาก โทสะบ้าง และโมหะบ้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอกุศลจิตที่สะสมเพิ่มขึ้นๆ ก็จะเป็นปัจจัยให้มีการหลงลืมสติเรื่อยๆ ทำให้ไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมะที่กำลังปรากฎ

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
คนเจ้าโทสะ
วันที่ 2 ส.ค. 2551

เพราะยังไม่เข้าใจสภาพธรรม จึงใฝ่หาผู้ที่มีภูมิรู้ น่าจะเป็นความต้องการที่เป็นปัจจัยที่ดี เพราะมีความเชื่อว่า ท่านผู้มีการสะสมความเข้าใจในพระธรรมเกิดอีกชาติใดก็ยังสะสม วาสนาเช่นนี้อยู่ ถ้าเราได้อยู่ใกล้ท่านเหล่านั้นในกาลข้างหน้า ดั่งเช่นม้ากัณฑกะก็ยัง ได้ไปเกิดเพื่อรอองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบนสวรรค์ เราก็น่าจะมีโอกาสได้ฟังธรรมจาก ท่านเหล่านั้น คิดผิดไหมที่อยากเกิดมาพบท่านอาจารย์สุจินต์ ในชาติอื่นๆ อีก ขอให้ท่านผู้รู้แสดงทัศนะด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ajarnkruo
วันที่ 2 ส.ค. 2551

ความผูกพัน เยื่อใย ติดข้อง หวัง ปรารถนา เป็น...อกุศลจิต

...ต่างจาก...

ความตั้งใจมั่นที่จะอบรมเจริญปัญญาความจริงใจที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อการขัดเกลากิเลสความเข้าใจในเรื่องการให้ผลของกุศลกรรมที่จะทำให้ได้ฟังพระธรรมและอบรมเจริญปัญญาในชาติต่อๆ ไปว่า...ไม่ได้อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครความเห็นถูกว่า...ไม่มีใครจะกลับมาเป็นบุคคลเดิมได้อีกในชาติต่อไปหลังจากที่จุติจิตของชาตินี้เกิดเป็น...กุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
พุทธรักษา
วันที่ 2 ส.ค. 2551

หมายถึง อฐิษฐานบารมี ใช่ไหมคะ อาจารย์ครูโอ?

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 2 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สะสมเหตุที่ถูกส่วนจะเจอบัณฑิตหรือไม่แล้วแต่เหตุปัจจัย แต่ที่สำคัญควรเริ่มจาก ขณะนี้ให้เข้าใจ อบรมเจริญปัญญา ดังนั้น ความมั่งคงที่เป็นบารมีจึงไม่ได้หวังเพราะโลภะเป็นข้าศึกต่อทุกบารมี แต่มั่นคงในการอบรมความเห็นถูกเพื่อเข้าใจสภาพธรรมใน ขณะนี้และมั่นคง ตั้งใจมั่นในการเจริญกุศลทุกประการและไม่ใช่เพื่ออย่างอื่นคือเพื่อขัด เกลากิเลส ดังนั้น จึงตั้งใจมั่นที่จะอบรมเหตุ โดยไมได้หวังว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะยังมาไม่ถึง อบรมเหตุให้ถูกต้องในขณะนี้ครับ

ออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
citta89121
วันที่ 2 ส.ค. 2551

เหตุดี ผลย่อมดี

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
wannee.s
วันที่ 3 ส.ค. 2551
ขอให้ได้พบและคบกับพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกภพทุกชาติค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
kaewin
วันที่ 3 ส.ค. 2551
อนุโมทนา สาธุ ครับ..... จิต นี้ ช่างละเอียด เกิน คาดเดา ถ้าไม่ระลึก บ่อยๆ ๆ เนืองคงตกเป็น ทาส กิเลส และ อวิชชา ต่อไป.......
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pornpaon
วันที่ 4 ส.ค. 2551

ความติดข้องมีมานาน มีมาก และละได้ยาก

เพราะไม่เคยรู้สึกตัวเลยว่ากำลังติด และกำลังมีความยินดีพอใจในการติดนั้น

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาท่านอาจารย์

ขออนุโมทนาคุณสารธรรมและทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
yupa
วันที่ 4 ส.ค. 2551

ส่วนตัวก็คิดเช่นนั้น คือ ขอเกิดร่วมกับคนที่ปฎิบัติธรรมะร่วมกัน เหมือนมีมิตรแท้ แม้แต่คนที่ล่วงลับไปแล้ว ก็อธิษฐานว่า ขอให้ผู้นั้นได้พบพระธรรมทุกภพทุกชาติเพื่อพ้นจากการเวียนวายตายเกิด

ระลึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์สุจินต์เสมอ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Sam
วันที่ 4 ส.ค. 2551

"....ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นตถาคต....."

ผู้ใดฟังธรรมที่ท่านอาจารย์นำมาแสดงแล้วเข้าใจ รวมทั้งประพฤติปฏิบัติตาม จึงจะ นับว่าเป็นผู้ที่ได้รู้จักท่านอาจารย์อย่างแท้จริง...ไม่ว่าตัวจะอยู่ไกล้หรือแสนไกล..

และเมื่อถึงคราวที่ต้องจากกันในชาตินี้ สิ่งที่ควรปรารถนาที่จะได้พบอีกครั้งคืออะไร? สัตว์ บุคคล ตัวตน (ที่ท่านสอนให้ละคลายความยึดติด) หรือ พระธรรมคำสอน (ที่ ท่านเคารพ)

ขอกราบอนุโมทนาและน้อมรำลึกถึงคุณของท่านอาจารย์ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
คุณ
วันที่ 4 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาในความเห็นถูกของทุกบุคคลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 27 พ.ย. 2551


ขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
opanayigo
วันที่ 29 พ.ย. 2551

อนุโมทนานะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
chatchai.k
วันที่ 9 ก.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ