ไม่มีใครสามารถที่จะทำอะไรเราได้
กรรมที่ได้กระทำมาแล้วตั้งแต่ในอดีตชาตินับไม่ถ้วน เมื่อถึงคราวให้ผล ผลก็ย่อมเกิดขึ้น ทุกคนจึงหนีกรรมไม่พ้น ไม่ว่าจะอยู่ในที่ใดก็ตาม ถ้าได้ศึกษาธรรมโดยละเอียดก็จะทราบได้ว่า ขณะไหนบ้างที่เป็นผลของกรรม ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่า ไม่มีใครสามารถที่จะทำอะไรเราได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรรม (เป็นเพราะกรรมที่ได้กระทำมาแล้ว) แม้แต่ขณะเกิด ก็ไม่มีใครบงการ ไม่มีใครสั่ง ไม่มีใครทำให้เราเกิด แรกที่เกิดมาในโลกนี้ก็เป็นผลของกรรมแล้ว ขณะที่เห็น ขณะที่ได้ยิน ขณะที่ได้กลิ่น ขณะที่ลิ้มรส ขณะที่ถูกต้องกระทบสัมผัส ได้ลาภ เสื่อมลาภ เป็นต้น ก็เป็นผลของกรรม แต่ทั้งนี้ คนเราส่วนมาก ไม่ค่อยจะยอมรับในผลของกรรมที่ไม่ดีที่จะเกิดขึ้นในทุกรูปแบบ คอยแต่หวังอยู่ตลอดเวลาว่าเราจะต้องมีความสุข เราจะต้องมีลาภ เราจะต้อง
มีคนยกย่องสรรเสริญ เป็นต้น เพราะฉะนั้น เวลาที่มีความทุกข์ ไม่ว่าจะทางหนึ่งทางใดที่เกิดขึ้นก็ตาม ดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตามความเป็นจริง เป็นเพียงชั่วขณะที่เกิดขึ้นแล้วก็หมดไป ไม่มีอะไรที่คงที่ เกิดแล้วก็ดับไป
ไม่มีใครสามารถที่จะทำอะไรเราได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรรม จึงไม่ควรโทษ
ใครหรือโทษอะไร และจะไม่สงสัยว่า "ทำไมต้องเป็นเรา" เมื่อได้รับผลกรรมต่างๆ
ทั้งที่ดีและไม่ดี....
ขออนุโมทนาค่ะ....
อนุโมทนาค่ะ เห็นด้วยที่สุดค่ะ เมื่อใดก็ตามที่เข้าใจเรื่องกรรมและผลของกรรมแล้วก็จะไม่โทษใครเลยค่ะ............เพราะกรรมให้ผลแล้ว แม้ในขณะนี้
“ท่านโกรธแล้วจะทำอะไรเขาได้
จักอาจเพื่อยังคุณ อันมีศีล เป็นต้น ของเขาให้พินาศไป ได้หรือ
เขามาด้วยกรรมของเขา
เขาก็จักไปด้วยกรรมของเขานั้นแหละ มิใช่หรือ”
ชีวิตทุกข์น้อยหรือทุกข์มาก ล้วนเกิดแต่เหตุที่เราได้กระทำไว้แล้วทั้งสิ้น
หลีกไม่ได้ หนีไม่พ้น เพราะทุกขณะของอัตภาพนี้ มีขึ้นเกิดขึ้นแล้วเพราะผลของกรรม
ขออนุโมทนาค่ะ
อยู่อย่างเข้าใจ เข้าใจอย่างคนมีปัญญา และ ความทุกข์ จะทำอะไรเราไม่ได้เลย มีโอกาส ฟังธรรมแนวทางเจริญวิปัสสนา และวันหนึ่งจะเข้าใจเองว่า นี่แหละปัญญา ไม่ต้องถามใคร ดั่งพุทธพจน์ ใครเห็นธรรม คนนั้นเห็นเรา
ขออนุโมทนากับกุศลจิตของทุกๆ ท่าน
กรรม คือ คำตอบของชีวิต
ทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมด้วยเหตุ
เมื่อเข้าใจก็ไม่ร้อนรนเมื่อต้องประสบกับสิ่งไม่น่าปราถนา
ทุกอย่างเกิดขึ้นแต่เหตุ ย่อมดับพร้อมเหตุ
ขออนุโมทนาค่ะ
