กรณี ท้าวมหาพรหมที่สี่แยกราชประสงค์ถูกทุบทำลาย

รูปปั้นเป็นเพียงรูปธรรมที่สมมติกันขึ้นว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ และที่ว่าศักดิ์สิทธิ์

คงจะคิดกันไปเอง ตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ได้แสดงไว้ว่า สัตว์

ทั้งหลายเป็นไปตามกรรมที่ตนทำไว้ รูปปั้นไม่สามารถบันดาลให้ใครได้ลาภ

ได้ยศ หรือมีความสุขได้ สิ่งเหล่านี้เป็นไปตามเหตุ คือ กุศลกรรมของแต่ละคน

ได้ทำมา

เห็นด้วยค่ะ รูปปั้นที่ว่าไม่น่าจะมีความพิเศษอะไร พระอริยบุคคลทั้งหลาย

ท่านไม่มากราบไหว้สิ่งของเหล่านี้ เพราะท่านมีปัญญารู้แจ้งความจริง มีแต่

ปุถุชนคนมืดบอดเท่านั้น ที่กราบไหว้บูชาสิ่งที่ไม่ใช่ที่พึ่งที่แท้จริง

เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เข้าใจได้ชัดเจนว่า มนุษย์ปุถุชนทุกคนมีความทุกข์

ทางกาย ทางใจอยู่เสมอ และพยายามหาที่พึ่งแสวงหาความพ้นทุกข์ในรูปแบบต่างๆ

ตามๆ กันไปเนื่องจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจความจริง ถ้าได้ศึกษาพระธรรมก็ช่วยลดความ

เชี่อที่ผิดได้ ผู้ได้ศึกษาพระธรรมพอเข้าใจบ้างแล้ว อย่างสมาชิกสหายธรรมของมูลนิธิ

ศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนานี้ จึงควรอย่างยิ่งที่จะช่วยเผยแพร่ธรรมะที่ถูกต้อง

ให้มากที่สุดที่โอกาสอำนวย เป็นการยังประโยชน์สูงสุดแก่เพี่อนมนุษย์ สังคม และ

ประเทศชาตินะคะ

ติดตามข่าวเรื่องนี้เหมือนกันครับ และรู้สึกแปลกใจที่มีผู้คนให้ความสำคัญมากกว่า

การที่พระพุทธรูปถูกทำลาย ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยกว่ามาก

เพราะอวิชชาจึงทำให้สัตว์ทั้งหลายถือเอาสิ่งที่ไม่ควรถือเอา กระทำในสิ่งที่

ไม่ควรทำ อวิชชาเป็นมลทินยิ่งกว่ามลทินทั้งหมด

พวกเราส่วนมาก ณ เวลานี้เป็นชาวพุทธบูรณาการกันไปแล้ว (เขาบอกว่ามันอิน

เทรนด์นะ) คือ เอาหมด พุทธ คริสต์ อิสลาม พรามหณ์ ฮินดู แถมด้วย สิงๆ ทรงๆ อีกก็

ได้ไม่ว่ากัน เพราะเป็นกรรมจัดสรร ผมจึงชื่นชมมากที่ได้ทราบว่า ยังมีชาวพุทธ

เถรวาทแท้ๆ อยู่ โอ...กระผมขออนุโมทนาในดวงปัญญาของท่านทั้งหลายด้วยเถิด