สภาพธรรม จะต้องปฏิบัติอย่างไร

 
oom
วันที่  10 ส.ค. 2551
หมายเลข  9522
อ่าน  964

สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจสภาพธรรมะ จะต้องปฏิบัติอย่างไร จึงจะเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฎนั้น ว่าเป็นสภาพธรรมที่กำลังเกิดอยู่ี


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 11 ส.ค. 2551
ต้องฟังให้เข้าใจก่อนครับ การฟังบ่อยๆ เนืองๆ ย่อมเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้ความรู้ความเข้าใจมั่นคงยิ่งขึ้น ถ้าความเข้าใจยังไม่มั่นคง ไม่จรดเยื่อในกระดูกจริงๆ ก็ย่อมไม่พอที่จะเป็นปัจจัยให้รู้ ให้ระลึกจริงๆ ดังนั้นอวิชชามีมาก การหลงลืมสติมีมาก เพราะได้รับการสะสมมามาก ฝ่ายสติสัมปชัญญะจะมีมากก็ต้องอาศัยการสะสมการฟังและความเข้าใจให้มากจึงจะเป็นปัจจัยให้ระลึกได้บ่อยขึ้น..
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Sam
วันที่ 11 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 11 ส.ค. 2551

ในครั้งพุทธกาล ผู้ที่จะบรรลุธรรมก็ต้องอาศัยการฟังธรรม เช่น ท่านพระสารีบุตรได้ฟังธรรมจากท่านพระอัสสชิ ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน แล้วท่านก็ไปบอกเพื่อน แสดงธรรมให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน และในที่สุดทั้งสองออกบวชและได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ค่ะ เราต้องอาศํยการฟังธรรม จนกว่าจะเป็นสัญญาความจำที่มั่นคงจริงๆ ว่าเป็นธรรมะ ไม่ใช่เราค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 11 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้น (ปัญญา) จึงสามารถนำไปสู่การรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏอยู่ครับ แต่ควรเข้าใจว่าต้องเริ่มจากการฟังมให้เข้าใจก่อนว่าธรรมคืออะไร อยู่ในขณะไหน เมื่อเข้าใจก็ย่อมรู้ว่าธรรมคือสิ่งที่มีจริง มีอยู่ในชีวิตประจำวัน อดทนและอบรมขั้นการฟังไปเรื่อยๆ เมื่อมีเหตุปัจจัย สติและปัญญาก็เกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ แต่คงไม่รวดเร็ว เพราะสะสมความไม่รู้มามาก สะสมความยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคลมามาก ไมได้สะสมความรู้ความเข้าใจว่าเป็นธรรมมามากเหมือนสะสมความไม่รู้ จึงต้องอาศัยเวลา อาศัยการฟังพระธรรม ความอดทน และกัลยาณมิตรที่จะทำให้เหตุปัจจัยของสติและปัญญาเกิดขึ้นเข้าใจสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ครับ

ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 11 ส.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ajarnkruo
วันที่ 11 ส.ค. 2551
การศึกษาธรรมะต้องละเอียด สุขุม ไม่ข้าม เพราะปัญญาโตช้าและก็ยังโตตามลำดับขั้นอดทน อาจหาญ ร่าเริง ที่จะฟังพระธรรมต่อไปเพราะรู้ว่า " นี่เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะเป็นไปเพื่อการเจริญปัญญาในชาตินี้ " หนทางอื่นๆ นอกจากนี้ เป็นไปเพื่อการเกิดแห่งทุกข์ทั้งมวล ไม่ทำให้พ้นจากทุกข์ได้เลยครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
oom
วันที่ 11 ส.ค. 2551
เพื่อนดิฉัน มักจะถามว่าสภาพธรรมเป็นอย่างไร ดิฉันก็ตอบว่าให้ฟังธรรมมากๆ จะได้เข้าใจว่าสภาพธรรมเป็นอย่างไร เพราะดิฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ปรากฎทางทวารทั้ง6 นั้นเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เช่น การเห็น การได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กายกระทบสัมผัสเย็นร้อน อ่อน แข็ง ใจเป็นสุข เป็นทุกข์ ซึ่งก็รู้ได้เป็นบางครั้ง เราจะสนทนาธรรมกันเป็นประจำ เพื่อนดิฉันชอบปฏิบัติ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม มาประมาณ 15 ปีเหมือนดิฉันก็ฟังธรรม อจ. สุจินต์มา 15 ปี เท่ากัน แต่จะชอบไปคนละทาง
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 11 ส.ค. 2551

เริ่มที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง มีความละเอียด ลึกซึ้ง ยากที่จะเข้าใจ แต่ไม่เหลือวิสัยสำหรับผู้มีความตั้งใจ สามารถที่จะฟังเข้าใจตามได้ แต่ต้องใช้เวลาในการฟัง ในการศึกษา เป็นเวลานาน ค่อยๆ สั่งสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ถ้าหากว่าไม่ได้ฟังไม่ได้ศึกษาอย่างแท้จริงแล้ว เวลาใครพูดอะไร หรือแนะนำอะไร (ในหนทางที่ผิด) ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาก็มักจะคล้อยตามในความเห็นหรือในคำแนะนำดังกล่าวนั้น แต่ถ้าได้ฟัง ได้ศึกษา ได้มีความเข้าใจ แม้ในเบื้องต้นแล้ว ก็จะเป็นผู้มีความเข้าใจในเหตุในผล มั่นคงในเหตุและผลของธรรม ตามความเป็นจริง ไม่เชื่อในหนทางที่ผิดต่างๆ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาทว่าไม่ยาก หรือ ไม่ควรประมาทว่า สามารถเข้าใจได้เร็ว แต่ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อตัวเองว่า ได้สั่งสมอวิชชา (ความไม่รู้) มามากและสั่งสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ดังนั้น กว่าที่ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้น เพิ่มขึ้น แทนที่ของความไม่รู้ นั้น จะต้องใช้เวลานานแสนนานทีเดียว ในการฟัง ในการศึกษา ในการอบรม เพื่อความเข้าใจสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ตามความเป็นจริง เพราะชีวิตประจำวัน เป็นธรรม ไม่พ้นไปจากนามธรรมกับรูปธรรม ไม่มีขณะใดเลยของชีวิตที่ไม่ใช่ธรรม ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงตาย ล้วนเป็นธรรมทั้งนั้นเราอยู่กับธรรมตลอดเวลา แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรม เพราะฉะนั้น จึงต้องอดทนที่จะฟัง-พระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณาพระธรรม ต่อไป ทางอื่นไม่มี มีทางเดียวเท่านั้นคือ อบรมเจริญปัญญา ครับ ..

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 11 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ปริศนา
วันที่ 13 ส.ค. 2551

อย่าเพิ่งรีบไปปฏิบัติอะไร...ถ้ายังไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังศึกษา.

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
oom
วันที่ 15 ส.ค. 2551
ขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ให้ข้อคิดเห็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ สำหรับผู้อ่านและดิฉันอย่างมาก
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ