พระอริยเจ้ากับสติปัฏฐาน 4

 
suthon
วันที่  11 ส.ค. 2551
หมายเลข  9551
อ่าน  1,781
ไม่ทราบว่าพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันท่านมีสติปัฎฐาน 4 เจริญเป็นปกติไหม หมายถึงว่ามีสภาพสติเกิดขึ้นบ่อยๆ เนื่องๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเวลานอนหลับ

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ก่อนที่จะเป็นพระอริยเจ้า ก็ต้องมีการอบรมปัญญาคือการเจริญสติปัฏฐาน 4 ใน

ชีวิตประจำวัน ทาง ตา หู...ใจ เป็นปรกติ จนปัญญาถึงระดับที่สามารถดับกิเลสได้ เป็น

พระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เมื่อเป็นพระอริยเจ้าแล้ว สภาพธรรมก็มีปรากฎในชีวิตประจำวัน

เหมือนเดิม ปัญญาที่เคยอบรมมาแล้วในการรู้ลักษณะของสภาพธรรมคือสติปัฏฐานก็

ไมได้หายไปไหน เมื่อมีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้นอีกรู้ลักษณะของสภาพธรรม พระโสดาบันก็

ต้องมีสติเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม (สติปัฏฐาน) ในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นหน

ทางเดียวในการอบรมปัญญาที่จะดับกิเลสเพื่อไปสู่การเป็นพระสกทาคามี พระอนาคามี

พระอรหันต์ และเมื่อเหตุปัจจัยพร้อม สติปัฏฐานก็สามารถเกิดได้แม้ในเวลาฝัน เพราะ

ขณะนั้นก็มีสภาพธรรมที่มีจริงและปัญญาสามารถรู้ทั่วได้ สำหรับผู้อบรมเจริญปัญญามา

มากแล้วครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 11 ส.ค. 2551

ซึ่งในโกสลสูตร (เล่ม 30 หน้า 382) ได้อธิบายในประเด็นเรื่อง การเจริญสติปัฏฐาน 4 ว่าสามารถเกิดได้ในชีวิตประจำวัน

แม้ในบุคคลผู้ที่เป็นปุถุชนที่กำลังอบรมเจริญ เกิดได้แม้กับพระอริยเจ้าที่เป็นพระเสขะ

คือยังไม่ใช่พระอรหันต์และแม้พระอรหันต์ก็มีสติปัฏฐานเกิดได้ในชีวตประจำวัน เพราะมี

สภาพธรรมที่มีจริงและสติก็สามารถเกิดระลึกได้ครับ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมครับ สติย่อม-

จำปรารถนาในที่ทั้งปวง ขออนุโมทนาครับ อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 12 ส.ค. 2551

พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ท่านเป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐาน 4 แต่สติปัฏฐาน

ไม่ได้เกิดตลอดเวลา บางครั้งท่านก็หลงลืมสติ เช่น จำชื่อคนไม่ได้ หรือชื่อถนน ฯลฯ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 12 ส.ค. 2551

การอบรมเจริญสติปัฏฐาน เป็นหนทางที่พระอริยเจ้าทั้งหลายดำเนินมาแล้ว การอบรมเจริญสติปัฏฐาน เป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การดับกิเลสประการต่างๆ ได้ในที่สุด สภาพธรรมที่ปัญญาจะประจักษ์แจ้งได้นั้น ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายและทางใจ เพราะฉะนั้นแล้ว จึงต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณา-พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ทั้งในเรื่องของรูปธรรม นามธรรมในชีวิตประจำวันบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อเป็นเครื่องปรุงแต่งให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ซึ่งจะเป็นไปเพื่อการละคลายความยึดถือในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้ เพราะเหตุว่าไม่มีหนทางอื่นที่จะเป็นไปเพื่อความ

บริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลายได้เลย นอกจากการอบรมเจริญสติปัฏฐานในชีวิตประจำวัน
ครับ ..

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 12 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 13 ส.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Sam
วันที่ 13 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 13 ส.ค. 2551

อนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ajarnkruo
วันที่ 13 ส.ค. 2551

พระอริยสาวก ย่อมมีปรกติเจริญสติปัฏฐานครับ เพราะธรรมมีเป็นปกติในชีวิตประจำวันสภาพธรรมะที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีเป็นไปตามปกติ แต่ปัญญาของท่านฉลาดที่จะรู้ความจริงที่เป็นอริยสัจจ์จากความปกตินั้นมากมายกว่าผู้ที่เป็นปุถุชนครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 15 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ