บันทึกสุดท้าย...จาก ผู้หญิงชื่อเพราะ...บุษบงรำไพ #5

 
pannipa.v
วันที่  25 ส.ค. 2551
หมายเลข  9672
อ่าน  2,109

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น

บันทึกสุดท้าย จาก บุษบงรำไพ พึ่งบุญ ณ อยุธยา พลวัฒน์

"เป็นเรื่องที่น่าติดตาม เพราะไม่รู้ถึงวันจบเมื่อไหร่?

แต่จบ...แน่ๆ !!!"

~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~

(....ต่อ...)

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 อังคาร

ด้วยความเมตตา จะมีหมอมาจากลพบุรี พลโทชัชเชาวฤทธิ์ มาช่วยจัดการดูแลให้เจาะท้อง นำน้ำออกมาตรวจ และจะให้ท้องยุบด้วย

ขณะเจาะท้อง ก็ขอเจาะเลือดด้วย (อะไรจะขนาดนั้น) คิดว่ากลัวจะอ่อนแรง หนาวสั่น โชคดีได้ผ้าคลุมที่เท้ามาปิดอก ก็ยังไม่พอ ขอพยาบาลว่า "ขอผ้าอีกผืน" ได้รับคำตอบว่า "ไม่มี" ก็ ok ทนหนาวสั่นทั้งๆ ที่นอนเจาะเอาน้ำออก ต้องนอนตะแคงเกือบชั่วโมง น้ำก็ไหลออกน้อย ในที่สุด พอได้แค่ไหนก็แค่นั้น น้อยกว่าที่หมอจะเอา 2 ขวด (ขวดละลิตร) ได้ไม่ถึงขวด โชคไม่ดีอีก ตอนขาไปท้องยุบลงแล้ว พอเอาน้ำออกกลับโตขึ้นอีก ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร?

คุณหมอตามผลให้ เรื่องตัดเนื้อไปตรวจ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ผลออกมาตามหมอคิดอีกแล้วคือ เนื้อไม่ดี หมอกสานต์ สิตลารมณ์ (ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคมะเร็ง) ถามว่า "จะถามอะไรไหม?" ได้สนทนา

กับหมอว่า ขณะนี้ยังหาต้นตอไม่ได้ว่า เริ่มจากจุดไหน? ความว่า ลามไปถึงข้างเอว เพราะฉะนั้น ต้นตอจะอยู่บริเวณท้อง ก็เลยคุยกันว่า ไม่ขอทำอะไรทั้งสิ้น เพราะเขาลุกลามไปแล้ว เป็นมานานแล้ว จริงๆ ก็ดี ถ้ารู้ก่อน อดไปประเทศอินเดีย สองครั้งหลังแน่ (ตุลาคม 2550 และ 30 มกราคม-02 กุมภาพันธ์ 2551) งานใหญ่ยิ่ง

ดูในรูป ท้องก็ยื่นผิดปกติแล้ว พ.อ.นพ. กสานต์ บอกจะเอาอย่างนั้นก็เป็นสิทธิ์ ก็เสริมหมอว่า ไม่ตายคราวนี้ คราวหน้าก็หนีไม่พ้น สนทนากันขณะเจาะท้องอยู่ ซึ่งเป็นหมอที่มีความชำนาญทางโรคมะเร็ง

คุณหมอสั่งการว่า ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้มา x-ray computer ที่ท้อง เพื่อ จะรู้ว่าต้นตอตรงไหน จะได้ให้ยารักษาพอปะทัง ฟังดูว่าถ้าเป็นที่ลำไส้พอมียา แต่ที่อื่นดูเหมือนต้องลอยแพไป จนกว่าจะหมดแรง ดังเพลงว่า "อ่อนล้าและหลงทาง" ถ้าอบรมเจริญสติ ไม่น่าหลงทางนัก ช่วยเชียร์หน่อย เพราะเขียนให้อ่านแล้ว อาจได้ความเข้มแข็ง พร้อมต่อสู้ต่อไปในสังสารวัฏฏ์

จริงๆ เจ็บคราวนี้ มีคุณมหันต์ เพราะได้เข้าใจว่า ความเจ็บมี จริง ไม่ใช่พูดไปเปล่าๆ ความแก่ก็ปรากฏเกิด ร่างกายผอม เหมือนหุ่นกระบอก แต่ท้องยื่น ดูในกระจกแล้วขำไม่ออก คงจะ

ต้องผอมไปทุกวันๆ ๆ ก็ดี เวลาเผาจะได้ไม่เสียเวลาสัปเหร่อ แต่กว่าจะได้เผา คงนาน เพราะจะต้องไปเป็นพระอาจารย์ที่ ร.พ.จุฬาฯ ซึ่งเป็น ร.พ.ที่คุณพ่อเสียชีวิตด้วย ตอนคุณพ่อเสียชีวิต ดิฉันอยู่ที่ L.A. เพิ่งไปได้ 6 เดือน ก็เลยไมได้กลับมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ เพราะคิดว่า เป็นงานที่สูงสุด เราไม่มีเกียรติเท่าไร กลับมาแล้วก็ไม่รู้จะมีโอกาสกลับไปอีกหรือเปล่า ขณะนั้น อายุ 22 กระมัง

บอกชื่อบิดาก่อน พลเอกเจ้าพระยารามราฆพ ส่วนนามสกุลดิฉัน พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็นนามสกุลที่ รัชกาลที่ 6 พระราชทาน เพราะฉะนั้น จะเสียชีวิตที่ร.พ. พระมงกุฏฯ ก็อบอุ่น ประกอบกับสามีเป็นทหาร พลตรี ดร. วีระ พลวัฒน์ ทั้งบิดาและสามี รับใช้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ควรภูมิใจแล้วมิใช่หรือ

ส่วนมารดา คุณนงคราญ อายุ 86 ขณะนี้ยังไม่รู้เรื่องไม่สบาย ไม่อยากบอก ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจเพราะเรา มีพี่น้อง 7 คน เราน่าจะไปก่อน ในเร็ววันนี้ด้วย วันไหนหนอ ไม่มีใครรู้ ตกลง เข้าใจ เกิด แก่ เจ็บ ตาย อย่างลึกซึ้ง เพราะถ้าไม่เจ็บ ไม่เคย คิดว่าจะเจ็บอย่างไร? เป็นโรคอะไรจริงๆ เจริญสติรู้ว่า ทุกขเวทนา ก็ไม่ได้เกิดตลอด ผู้ที่สบายดี แต่โทสะเกิด ก็ไม่ศึกษาลักษณะ พอทุกขเวทนา ก็ไม่อาจเข้าถึงลักษณะซึ่งศึกษาได้ (เตรียมตัวก่อนเจ็บ..นะจ๊ะ) แล้วสติปัฏฐานจะเกิดได้อย่างไร?

ถามแต่ว่า "ทำไมสติไม่เกิด?"

จำได้ว่าท่านอาจารย์บอกว่า "ข้ามขั้นไปแล้ว เพราะไม่อบรม แต่ถามถึงสติปัฏฐาน สติขั้นระลึกศึกษา ยังไม่มีด้วยซ้ำ" ผู้ที่ยังมีโอกาสได้ฟัง อย่าทิ้งโอกาสเลย (คนจะตาย เตือนคนเป็น)

จริงๆ ไม่มีคนมีสัตว์ มีขันธ์ ๕ รูปขันธ์เป็นเรื่องของกรรมด้วย ส่วนนามธรรมทั้ง ๔ กุศล อกุศล วิบาก กิริยา ขณะนี้ก็เตือนตัวเองว่าถ้าเกิดอกุศลอยู่ จุติเกิดตามมาจะลำบากในภพหน้า แต่จะห้ามอกุศล ไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น เกิดแล้วก็มีประโยชน์ ศึกษาลักษณะ (เตือนตัวเองจ้ะ) วันนี้เขียนยาวที่สุด เพราะสดชื่น ชีวิตรู้ซึ้งวันนี้เอง

ตอนแรกคิดว่าจะหลุดจากชื่อ มะเร็ง ก็ไม่ได้อยู่ดี แต่จะไปเกาะกินที่ไหน พรุ่งนี้ค้นหาต่อไป อดอาหารเช้า ห้ามน้ำ ตรวจ 8 โมง ทรมานน่าดู อดทน ทำไม่ ดีแยะ เคยบอกว่า อย่าสงสารเวลาเจ็บ เพราะทำบาปไว้มาก ก็รับผลของกรรมไปซิ เดี๋ยวจะไม่รู้ว่า กรรม มีจริง...!!!

พลเอก สพรั่ง โทรถามข่าว ก็กราบขอบคุณท่าน เพราะได้รับความสะดวกอย่างที่สุด ผลกรรมดียังพอมี ทานอาหารตอนหัวค่ำอีกมื้อ จะได้ไม่หิวเช้า ผู้ปกครองจัดให้มี donut honey ซะด้วย...

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเส้นหมี่ เส้นใหญ่ไม่ได้ มันไป กระเพาะปลา มันบดและ สลัดทูน่า อร่อยทุกอย่าง ทานอย่างละนิด เว้นราดหน้า

~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
(....ยังมีต่อ....)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pannipa.v
วันที่ 25 ส.ค. 2551

" ก็ผู้ใด...ไม่เห็นบทอันไม่ตาย พึงเป็นอยู่สิ้น ๑๐๐ ปี

ความเป็นอยู่วันเดียว ของผู้เห็นอมตบท

ยังประเสริฐกว่า ความเป็นอยู่ของผู้นั้น "

" มัจจุ...พานระนั้น ผู้มัวเมาในบุตร และปศุสัตว์

ผู้มีใจข้องในอารมณ์ต่างๆ ไป เหมือนห้วงน้ำใหญ่

พัดเอาชาวบ้านผู้หลับไป...ฉะนั้น "

จาก............คาถาธรรมบท..เรื่อง นางกีสาโคตมี

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 25 ส.ค. 2551

ผู้ที่ยังมีโอกาสได้ฟัง อย่าทิ้งโอกาสเลย (คนจะตาย

เตือนคนเป็น) ขออนุโมทนาค่ะ ขออุทิศส่วนกุศลที่ได้

ทำแล้วในวันนี้ให้สรรพสัตว์และพี่บงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kanchana.c
วันที่ 25 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนากับการเผยแพร่ความเข้าใจธรรมของพี่บงค่ะ ทำให้มั่นคงในการฟังธรรมมากขึ้น เพราะธรรมนี่แหละเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริงไม่ว่าในอยู่ในสถานการณ์ไหน ขอผลกุศลของพี่บงและกุศลจิตของผู้อ่านบทความนี้ทำให้พี่บงมีความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิไหนก็ตาม

จากสุขุมาลสูตร..

ปุถุชนผู้มิได้สดับ เมื่อตนเป็นผู้มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ เห็นคนอื่นเจ็บไข้ ก็ล่วงตนเองเสีย แล้วอึดอัด ระอา รังเกียจ ไม่คิดว่า แม้เราก็เป็นผู้มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ ก็และการที่เราซึ่งเป็นคนมีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ ได้เห็นคนเจ็บไข้เข้าแล้ว พึงอึดอัด ระอา รังเกียจข้อนั้น เป็นการไม่สมควรแก่เราเลย ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเรานั้นสำเหนียกอยู่ดังกล่าวมา ย่อมละความเมาในความไม่มีโรคเสียได้โดยประการทั้งปวง ความแก่ ความตายก็เช่นเดียวกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
shumporn.t
วันที่ 25 ส.ค. 2551

เดี๋ยวจะไม่รู้ว่า กรรม มีจริง...!!!

(คนจะตาย เตือนคนเป็น)

ขออนุโมทนาค่ะ ยังเป็นผู้หนึ่งที่ไม่มั่นคงในกรรมและผลของกรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 25 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เมตตา
วันที่ 26 ส.ค. 2551

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเรานั้นสำเหนียกอยู่ดังกล่าวมา ย่อมละความเมาในความไม่มีโรคเสียได้โดยประการทั้งปวง ความแก่ ความตายก็เช่นเดียวกัน จำได้ว่าท่านอาจารย์บอกว่า "ข้ามขั้นไปแล้ว เพราะไม่อบรม แต่ถามถึงสติปัฏฐาน สติขั้นระลึกศึกษายังไม่มีด้วยซ้ำ"

ผู้ที่ยังมีโอกาสได้ฟัง อย่าทิ้งโอกาสเลย (คนจะตาย เตือนคนเป็น)

ขออนุโมทนาพี่บงค่ะ เมื่อคนเป็นยังไม่มีโรคก็อย่าเพลิดเพลินมัวเมาไปกับรูป เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ อย่าทิ้งโอกาส อย่าเป็นผู้ประมาท ที่จะอบรมเจริญปัญญาบ่อยๆ เนืองๆ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
prakaimuk.k
วันที่ 26 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ เป็นเครื่องเตือนสติได้ดีจริงๆ .....
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
choonj
วันที่ 26 ส.ค. 2551

อ่านหัวข้อและความคิดเห็นแล้วเศร้าอยากจะร้องให้เป็นคนใจอ่อนนะ ก็ต้องปฎิบัติตามคำเตือน คืออย่าประมาทในการฟังธรรม
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Pararawee
วันที่ 26 ส.ค. 2551

อนุโมทนาค่ะ......

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pornpaon
วันที่ 26 ส.ค. 2551

ยิ่งอ่านยิ่งพูดไม่ออก ซึ้งค่ะ

ที่รู้สึกก็คือ ความเข้าใจในพระธรรมนั้น มีคุณค่าประมาณไม่ได้เหลือเกิน

สำหรับชีวิตที่มีเวลาแสนสั้นในแต่ละภพแต่ละชาติ ที่มีโอกาสได้ฟังและสะสมไว้

พระธรรมเป็นเกาะ เป็นที่พึ่งที่มีค่าและสำคัญที่สุด

และ.บันทึกของคุณบุษบงรำไพ ทำให้ได้เห็นความประมาทของตนเองชัดจริงๆ

..........ขออนุโมทนาคุณบุษบงรำไพ พึ่งบุญ ณ อยุธยา พลวัฒน์..........

ขออนุโมทนาคุณ pannipa.v

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 26 ส.ค. 2551

ข้าพเจ้าก็เช่นกัน

ได้เห็นความตาย ได้เห็นคนตาย มาแต่เด็กๆ ขอขอบคุณในวิบากนั้นๆ ที่ให้ได้เห็นได้รับรู้ ความจริงของชีวิตอันได้ก่อให้เกิดความคิดและการพิจารณาตามมา เมื่อครั้งเรียนจบมหาวิทยาลัยได้งานการที่ดีทำ มีหลักฐานที่ดีขึ้นได้สนองคุณพ่อแลแม่ด้วยเต็มกำลัง แต่วันหนึ่งก็พบว่าพ่อป่วยเป็นมะเร็ง ในเวลาที่กำลังมีความสุขในบั้นปลายของชีวิต ยอมรับกับท่านทั้งหลายว่าขณะที่ขับรถไปบนถนนเพื่อไปเยี่ยมพี่สาวพ่อที่ต่างจังหวัดคนเดียว ณ.เวลานั้น ขับรถไปก็สะอื้นไห้ไปตลอดทาง สงสารพ่อที่กำลังมีความสุขสบาย หลังจากทนลำบากเลี้ยงลูกถึงเจ็ดคนมาตลอดชีวิตด้วยกุศลของพ่อและข้าพเจ้าก็ให้ได้พบหนทาง (ธรรมชาติบำบัด) ในเวลานั้น ทำให้พ่อมีชีวิตยืนยาวมาอีกสิบกว่าปี หลังจากพ่อสิ้นชีวิต (ด้วยโรคชรา) วันหนึ่งข้าพเจ้าก็ได้พบกับเสียงของท่านอาจารย์อันเป็นเสียงที่ข้าพเจ้ารู้ได้ในทันทีที่ได้ฟังว่านี่แหละคือ สิ่งแท้จริงที่ข้าพเจ้าตามหามาตลอดชีวิต และได้พบแล้วชีวิตในชาตินี้ของข้าพเจ้า ไม่สูญเปล่าแล้ว ข้าพเจ้าจึงกล้าที่จะบอกกับท่านทั้งหลายว่า "กรรม" และ "ผลของกรรม" มีจริง

ขอกราบบูชาคุณสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เสด็จมาดีแล้วพระองค์นั้น

กับทั้งกราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ปริศนา
วันที่ 27 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาทุกท่านที่มั่นคงในกรรมและผลของกรรม พระสัทธรรม คือที่พึ่งที่แท้จริงความกตัญญูต่อผู้ที่มีคุณ เป็นสัญลักษณ์ของคนดีและความกตัญญูอย่างสูงที่สุดแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นพระธรรม พระอริยสงฆ์และท่านอาจารย์สุจินต์คือการศึกษาพิจารณาพระธรรมคำสอนและน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติตามตามกำลังปัญญาและตามเพศของตนๆ ด้วยความเคารพและนอบน้อมอย่างสูง

หนทางแห่งมรรคนั้นยาวไกลมาคนเดียวไปคนเดียววนเวียนอยู่เช่นนี้

จิรกาลภาวนา.

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ajarnkruo
วันที่ 27 ส.ค. 2551

ความจริงที่เกิดขึ้นในกับผู้ใด ในเหตุการณ์ใด หรือแม้แต่ในขณะนี้เป็นพยานแก่ผู้ที่เข้าใจพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ได้เสมอ...ขออนุโมทนาครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
คุณ
วันที่ 27 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 27 ส.ค. 2551

อนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
paderm
วันที่ 27 ส.ค. 2551

ผู้ที่ยังมีโอกาสได้ฟัง อย่าทิ้งโอกาสเลย (คนจะตาย เตือนคนเป็น)

ขออนุโมทนาครับ เตือนใจได้ดีจริงๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Komsan
วันที่ 30 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนา คุณพี่ บุษบงรำไพ พึ่งบุญ ณ อยุธยา พลวัฒน์ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ