พระอรหันต์ ทำอกุศลและการเป็นพระอรหันต์หมดไปหรือไม่?

 
เจริญในธรรม
วันที่  2 ก.ย. 2551
หมายเลข  9727
อ่าน  2,083

ผมขอรบกวนเรียนถามทุกท่านด้วยครับ

1. พระอรหันต์หากทำอกุศลที่ทำให้เกิดสังโยชน์ การเป็นพระอรหันต์จะหมดลงได้หรือไม่?

2. พระอรหันต์ที่ทราบมา แต่ละท่านจะมีนิสัยใจคอไม่เหมือนกัน ถามว่าแล้วแต่ละท่าน

จะทำในสิ่งที่ทำให้ลูกศิษย์และฆราวาส โดยทั่วไปกระทำในสิ่งที่ผิดบาปหรือไม่ เช่นรับเงิน ด่าว่า มีความพอใจไม่พอใจโดยแสดงเป็นคำพูดออกมา เช่น พูดพอใจพอใจผมสงสัยครับ เพราะมีพระอรหันต์ท่านหนึ่ง ที่ท่านอื่นๆ บอกกันมีพฤติกรรมเช่นนี้และลูกศิษย์ลูกหา ชอบบอกว่าเป็นนิสัยดั้งเดิมของท่าน

3. พระอรหันต์มีความเห็นแก่ตัวหรือไม่ โดยถือว่าตัวเองพ้นแล้ว คนอื่นจะทำบาปอย่างไรก็ช่าง ไม่ตักเตือนสอนสั่ง จะมีแบบนี้มั๊ยโดยขาดการเจริญเมตตา

ขออนุโมทนาในทุกคำตอบนะครับ สงสัยจริงๆ ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 2 ก.ย. 2551

๑.ผู้ที่บรรลุความเป็นพระอรหันต์ เพราะท่านตัดสังโยชน์ทั้หมดได้แล้ว และความเป็นพระอรหันต์ ย่อมไม่เสื่อม คือจะไม่มีการลดระดับ เป็นพระอนาคามีหรือปุถุชน๒.เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะพระอรหันต์ ไม่รับเงินทอง ไม่โกรธหรือด่าว่าใครๆ ๓.คำว่า ความเห็นแก่ตัว เป็นชื่อของกิเลสประเภทโลภะ พระอรหันต์ท่านไม่มีโลภะแล้วจริงอยู่พระอรหันต์บางรูปท่านมีอัธยาศัยหลีกเร้น เช่น พระเรวตะ เป็นต้น ท่านย่อมไม่มีอัธยาศัยในการแนะนำหรือสอนผู้อื่น แต่ไม่เรียกว่าเป็นผู้เห็นแก่ตัว..

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปริศนา
วันที่ 2 ก.ย. 2551

ก่อนจะใช้คำใด เช่น คำว่า พระอรหันต์ควรจะทำความเข้าใจคำนั้นก่อนค่ะ ว่าหมายถึงอะไร

การพูดและเชื่อตามๆ กันไป โดยไม่รู้ ไม่ควรค่ะเพราะโอกาสที่จะเข้าใจผิด เห็นผิด ด้วยความไม่รู้ มีมาก

พระอรหันต์ คือผู้ที่ดับกิเลสได้แล้วเป็นสมุจเฉทจึงเป็นผู้ที่ ไม่เป็นภัย กับใครทั้งสิ้น แต่ที่สำคัญผู้ที่จะทราบได้จริงๆ อย่างแน่นอนว่าผู้ใดเป็นพระอรหันต์นอกจากพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วก็มีแต่ ผู้ที่บรรลุเป็นพระอรหันต์เช่นเดียวกันเท่านั้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 2 ก.ย. 2551

ท่านพระอรหันต์ท่านหมดจดจากกิเลส การกระทำกรรมใดๆ ของท่านไม่เป็น

กุศล และ อกุศล เป็นกิริยาจิตค่ะ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

1. พระอรหันต์ไม่เกิดจิตที่เป็นอกุศลเลยเพราะดับกิเลสหมดแล้ว จิตของท่านมีเพียงชาติ กิริยาจิตและวิบากจิตเกิดขึ้นเท่านั้น เมื่อกิเลสท่านดับหมดแล้ว ก็จะไม่มีทางกลับมามีกิเลสอีก จึงไม่มีวันเสื่อมจากคุณธรรมในความเป็นพระอรหันต์

2. พระอรหันต์หมดกิเลสแล้ว แต่ยังละวาสนา ความประพฤติที่เคยชินมาไม่ได้ เช่นพระปิลินทวัจฉเถระ ท่านมักพูดว่าคนถ่อย แต่ไม่ได้พูดด้วยอำนาจกิเลสเลย แต่เพราะเป็นความประพฤติที่เคยชินที่สะสมมา ซึ่งละได้เพียงพระองค์เดียว คือพระพุทธเจ้าดังนั้น พระอรหันต์กระทำสิ่งใดย่อมไม่เป็นบาปเลยครับ

3.พระอรหันต์แต่ละรูปก็มีอุปนิสัยสะสมมาต่างๆ กัน อย่างท่านพระสารีบุตร เมื่อมีผู้ทำผิดท่านก็กล่าวเตือน แต่บางรูปเป็นผู้กล่าวเตือนครั้งเดียวแล้วก็ไม่กล่าวเตือนอีก เช่น พระโสธนเถระกล่าวเตือนพระกปิละ แต่บางรูปก็ไม่กล่าวว่าตักเตือน ไม่ได้หมายความว่าเมื่อไม่กล่าวเตือนแล้วจะเป็นผู้เห็นแก่ตัว แต่เพราะท่านสะสมมาที่มีอุปนิสัยอย่างนั้น ยินดีในวิเวก สงัด ดังนั้นแม้จะไม่กล่าวตักเตือนก็ไม่ได้หมายความว่า จิตท่านจะเป็นอกุศลเพราะท่านดับกิเลสแล้ว ต่างกับปุถุชนที่มักกล่าวตักเตือนแต่จิตก็ยังเต็มไปด้วยกิเลส

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 3 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาผู้ตอบทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 3 ก.ย. 2551

พระอรหันต์ หมายถึง ผู้ไกลจากกิเลส ดับกิเลสแล้ว กิเลสนั้นๆ จะไม่หวนกลับมาอีก

และท่านก็สั่งสมอธัยาศัยมาต่างกัน บางรูปก็ปฏิบัติแบบโมเนยยะ มีเพียงภิกษุรูปเดียว

เคร่งไม่พูดกับใคร มักน้อย ในปัจจัยสี่ ฯลฯ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ