การขอขมาพระ

 
12345
วันที่  8 ก.ย. 2551
หมายเลข  9784
อ่าน  8,876

ไม่ทราบว่าการขอขมาพระสงฆ์จำเป็นต้องขอขมาต่อหน้าพระสงฆ๋ที่เราได้ล่วงเกินท่านหรือไม่ครับ หรือขอขมาที่ไหนก็ได้ (เช่น ที่หัวนอน) ขอให้ใจระลึกถึงท่านก็พอ เพราะท่านอยู่ไกลไปลำบากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 8 ก.ย. 2551

ในอรรถกถาอธิบายการขอขมาหรือขออดโทษไว้ว่า

๑. ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ต้องไปขอขมาต่อหน้าท่าน

๒. ถ้าท่านล่วงลับไปแล้วให้ไปขอขมาที่หลุมฝังศพ ที่เชิงตะกอน หรือที่อัฏฐิของท่านถ้ากล่าวตามลำพังตามที่อื่นๆ เช่นที่หัวนอน ยังไม่พอครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
12345
วันที่ 8 ก.ย. 2551

อย่างกรณีถ้าอยู่ที่บ้านแล้วมีความคิดอกุศลโผล่เข้ามา คิดไม่ดีต่อพระ แล้วฉุกคิดได้ แบบนี้ต้องนั่งรถไปขอขมาท่านทุกครั้งที่คิดหรือเปล่าครับ (เนืองจากปุถุชนยังมีสติไม่สมบูรณ์ และไม่สามารถห้ามความคิดอกุศลได้100%)

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prachern.s
วันที่ 8 ก.ย. 2551

ตามตัวอย่างในอรรถกถานั้น มีการกระทำที่ไม่ดีทางกาย ทางวาจา ถ้าเพียงคิดในใจเท่านั้น คงไม่ต้องถึงต้องเดินทางไปขอขมาหรอกครับ เพราะเรื่องความคิดของปุถุชนย่อมเป็นไปในเรื่องต่างๆ แม้ในพระวินัยพระพุทธองค์ ไม่ทรงบัญญัติการปรับอาบัติแก่พระภิกษุ ในเพราะท่านเพียงคิดไม่ดีเท่านั้น สรุปคือ เพียงความคิดในใจไม่เป็นโทษถึงขนาดต้องไปขอขมาก็ได้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ปริศนา
วันที่ 8 ก.ย. 2551

โดยส่วนตัว เข้าใจว่าถ้าล่วงเกินทางกาย วาจา ไปแล้ว ก็ควรไปขอขมา ถ้ามีโอกาส (ขอโทษจากใจด้วยความสำนึกผิดจริงๆ )

เมื่อขอขมาแล้ว ก็ควรแล้ว! คือทำดีที่สุดแล้วด้วยสัจจะส่วนท่านที่เราขอขมาจะให้อภัยหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่บังคับบัญชาได้ไม่ควรจะมีปัจจัยให้เป็นอกุศลจิตในภายหลังหากว่า "ขอขมา (จากใจจริง) แล้ว" จริงๆ

ถ้าท่านเสียไปแล้วก็ทำกุศลแล้วอุทิศกุศลให้เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดอกุศลจิตประเภทต่างๆ ในชีวิตประจำวันของปุถุชนเช่นเราๆ ถ้าขณะนั้นจิตไม่เป็นไปใน ทาน ศีล ภาวนา ทาน ศีล ภาวนา หากอบรมมากๆ ก็เกื้อกูลและเป็นเหตุปัจจัยแก่กุศลทุกประการพระผู้มีพระภาคจึงทรงเตือนสาวกให้เป็นผู้ไม่ประมาท คือ ไม่ปราศจากสติ

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 8 ก.ย. 2551

เป็นธรรมดาที่เกิดความคิดในใจที่เป็นอกุศลกับบุคลอื่น เพราะยังมีกิเลสมาก แต่ประโยชน์ของพระธรรมคือ การเห็นโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเห็นโทษจึงสำรวมระวังกายวาจาต่อไป ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ทำผิดทาง กาย วาจาและใจเป็นผู้เจริญขึ้นเพราะเห็นโทษตามความเป็นจริง นี่คือประโยชน์ของพระธรรมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
choonj
วันที่ 9 ก.ย. 2551

ภายหลังที่ขอขมาต่อหน้าหรือที่หัวนอนแล้ว จิตยังคิดล่วงเกินอยู่เพราะห้ามไม่ได้ เมื่อรู้ว่าการคิดนี้ไม่ดีไม่ควรไม่มีประโยชน์ไร้สาระ บางทีอาจจะช่วยไม่ไห้คิดไม่ดีอีกได้ ส่วนเมื่อคิดไปแล้วและกรรมไม่ครบองค์ก็ไม่ต้องนั่งรถไปที่วัด สำคัญที่จิตเป็นกุศลหรืออกุศลถ้าระลึกได้จิตอาจเป็นกุศลได้ก็รอดตัว ส่านพระท่านมีเมตตาอภัยอยู่แล้วและไม่รู้เรื่องด้วย ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
คุณ
วันที่ 9 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ