ศัตรูของมนุษย์ คืออะไร และมีวิธีป้องกันและต่อสู้ได้อย่างไร

 
MAMMAYMEAN
วันที่  11 ก.ย. 2551
หมายเลข  9826
อ่าน  2,678

รบกวน ครูบาอาจารย์ ตอบปัญหาด้วยนะคะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้า ขอให้ธรรมะคุ้มครองทุกท่าน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 12 ก.ย. 2551

ศัตรูหรือข้าศึกภายในของสัตว์ทั้งหลายก็คือ กิเลสอกุศลที่อยู่ในใจของทุกคนนี้เอง และจะป้องกันต่อสู้ด้วยการอบรมเจริญปัญญาครับ

สมดังข้อความในมลสูตร บางตอนดังนี้ ...

[๒๖๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อกุศลธรรม ๓ ประการนี้ เป็นมลทินภายใน (มลทินของจิต) เป็นอมิตรภายใน เป็นศัตรูภายใน เป็นเพชฌฆาตภายใน เป็นข้าศึกภายใน ๓ ประการเป็นไฉน? คือโลภะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อกุศลธรรม ๓ ประการนี้แล เป็นอมิตร เป็นศัตรู เป็นเพชฌฆาต เป็นข้าศึกภายใน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 12 ก.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prakaimuk.k
วันที่ 12 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 12 ก.ย. 2551

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ajarnkruo
วันที่ 12 ก.ย. 2551

ศัตรูด่านแรกของมนุษย์ คือ ความเห็นผิดว่าเป็นมนุษย์ เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เที่ยง เป็นสุขและเป็นอัตตา ซึ่งตรงกันข้ามกับความจริง ที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ว่า สิ่งที่มีจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว ที่จะไม่ดับไปนั้นไม่มี แล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็วทุกขณะเสียด้วย เมื่อเกิดแล้วดับจึงเป็นสิ่งที่มีจริงที่จะหาความเที่ยงแท้ไม่ได้ เมื่อไม่เที่ยง ก็จะบอกว่าสิ่งนั้นเป็นสุขไปไม่ได้ ความไม่เที่ยงนั้นแหละที่เป็นทุกข์ แล้วก็ไม่เป็นไปในอำนาจของผู้ใดทั้งสิ้น เพราะเป็นอนัตตา ผู้ที่ไม่ประจักษ์ความรวดเร็วของการเกิดดับ ไม่เห็นความแตกต่างกันของความจริงที่ปรากฏกับเรื่องราวความนึกคิดทางใจ ก็ย่อมจะไม่สามารถแยกขาดการยึดถือสิ่งที่ประชุมรวมกันที่มองเห็นว่าเป็นแท่งทึบออกไปเป็นแต่ละอย่างๆ โดยละเอียดได้ ยังคงมองเห็นแต่ความเป็นกลุ่มก้อนที่มั่นคง ไม่แตกสลายอยู่อย่างนั้น ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่มีแก่นสารที่จะเหลือไว้ให้ยึดถือได้เลยสักขณะเดียว เพราะเกิดขึ้นแล้วก็หมดไปสูญสิ้นไปอยู่ทุกๆ ขณะ ขณะที่โลภะเกิดขึ้นแล้วดับไป ความเห็นผิดที่เกิดต่อมาก็ยึดว่าเป็นเรามีโลภะ เวลาที่เห็นใครแสดงกิริยาอาการที่มักมาก ได้ยินเสียงที่ทำให้คิดว่า คนนี้พูดด้วยความโลภ ความเห็นผิดที่เกิดตามมาก็ยึดไว้อย่างเร็วว่าเป็นมนุษย์ผู้นั้นจริงๆ ที่มีโลภะ เวลาที่ขุ่นใจ ไม่พอใจ โทสะนั้นเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปก็ยังคงเกิดความเห็นผิดว่าโทสะที่ดับไปนั้นเป็นของเรา เป็นเราโกรธ เหล่านี้เป็นต้น สภาพธรรมะทั้งหลายเป็นสิ่งที่มีจริง เกิดดับตามเหตุปัจจัย สั่งสมอะไรมาสิ่งนั้นก็ย่อมมีโอกาสเกิดอีกได้ ไม่มีใครจะบังคับยับยั้งด้วยอำนาจพิเศษอะไรได้เลย ผู้ที่ไม่รู้ว่าทุกๆ วันเป็นไปด้วยความมีตัวตน ก็ไม่พ้นที่จะหาวิธีที่เป็นไปด้วยความมีตัวตน แต่กิเลสเป็นสิ่งที่ยากที่ใครจะป้องกันด้วยความไม่รู้ ด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเพียงคิดที่จะป้องกันหรือต่อสู้กับกิเลสด้วยความมีตัวตน ขณะนั้นก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสเสียแล้ว มีแต่ความเข้าใจความจริงจากการศึกษาพระธรรมเท่านั้นที่จะยับยั้ง ป้องกันและต่อสู้ จนกระทั่งประหารศัตรู คือกิเลสได้หมดสิ้นไม่เหลืออีก เมื่อบรรลุความเป็นพระอรหันต์ แต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้น ค่อยๆ ศึกษาพระธรรมของพระผู้มีพระภาคต่อไปโดยไม่หวังอะไร มากไปกว่าการศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่จะเป็นไปเพื่อการประพฤติปฏิบัติตามมากขึ้นทีละน้อยๆ ดีกว่านะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 12 ก.ย. 2551

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อกุศลธรรม ๓ ประการนี้ เป็นมลทินภายใน คือโลภะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑ เป็นอมิตร เป็นศัตรู เป็นเพชฌฆาต เป็นข้าศึกภายใน และจะป้องกันต่อสู้ด้วยการอบรมเจริญปัญญา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 12 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Noparat
วันที่ 15 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ