ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร....ว่าด้วย การยังธรรมจักรให้เป็นไป
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธัมเมกขสถูปสถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา"ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร "อิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ กรุงพาราณสี
[เล่มที่ 6] พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่มที่ ๔ ภาคที่ ๑ หน้าที่ ๔๔- ๔๙
ปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (พระสูตรว่าด้วย การยังธรรมจักรให้เป็นไป)
ลำดับนั้น พระปัญจวัคคีย์ได้ยอมเชื่อฟังพระผู้มีพระภาคเจ้าเงี่ยโสตสดับ ตั้งจิตเพื่อรู้ยิ่ง ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะพระปัญวัคคีย์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ที่สุด ๒ อย่างนี้ อันบรรพชิตไม่ควรเสพ คือ
การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุข ในกามทั้งหลาย เป็นธรรมอันเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชนไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ๑
การประกอบความเหน็ดเหนื่อยแก่ตน เป็นความลำบาก ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปฏิปทาสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ที่สุด ๒ อย่างนั้น ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่งทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน เป็นไฉน
ปฏิปทาทางสายกลางนั้น ได้แก่ อริยมรรค มีองค์ ๘ นี้แหละ คือ
ปัญญาอันเห็นชอบ ๑
ความดำริชอบ ๑
เจรจาชอบ ๑
การงานชอบ ๑
เลี้ยงชีวิตชอบ ๑
พยายามชอบ ๑
ระลึกชอบ ๑
ตั้งจิตชอบ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แล เป็นทุกขอริยสัจจ์คือ ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ความประกอบด้วยสิ่งไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ โดยย่นย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แล เป็นสมุทยอริยสัจจ์คือ ตัณหาอันทำให้เกิดอีก ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน มีปกติเพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ คือกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แล เป็นทุกขนิโรธอริยสัจจ์ คือ ตัณหานั่นแล ดับไปโดยไม่มีเหลือ ด้วยมรรค คือ วิราคะ สละ สละคืน ปล่อยไป ไม่พัวพัน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แล เป็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจคือ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้แหละ คือ ปัญญาเห็นชอบ ..... ตั้งจิตชอบ
ก็แล เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไวยากรณภาษิตนี้อยู่ ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดขึ้นแก่ท่านพระโกณฑัญญะว่า สิ่งใด สิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวล ล้วนมีความดับไป เป็นธรรมดา"
ครั้นพระผู้มีพระภาคได้ประกาศ ธรรมจักรอันยอดเยี่ยม เหล่าภุมเทวดาได้บรรลือเสียงว่า "นั่นพระธรรมจักรอันยอดเยี่ยม พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศให้เป็นไปแล้วณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสีอันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลก จะปฏิวัติไม่ได้.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงเปล่งพระอุทานว่า "ท่านผู้เจริญ โกณฑัญญะ ได้รู้แล้วหนอ ท่านผู้เจริญ โกณฑัญญะ ได้รู้แล้วหนอ" เพราะเหตุนั้น คำว่า "อัญญาโกณฑัญญะ" นี้จึงได้เป็นชื่อของท่านพระโกณฑัญญะ ด้วยประการฉะนี้
จบธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่ และสรรพสัตว์
"ท่านผู้เจริญ โกณฑัญญะ ได้รู้แล้วหนอ ท่านผู้เจริญ โกณฑัญญะ ได้รู้แล้วหนอ" อ่านแล้วซาบซึ้งมากครับ
...ขออนุโมทนาครับ...