บัญญัติ - ฆนบัญญัติ - สมมติสัจจะ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  17 ก.ย. 2551
หมายเลข  9883
อ่าน  1,688

ความลึกและหนียวแน่นของอวิชชา ที่ทำให้ยึดถือในสมมติสัจจะว่าเป็นวัตถุ เป็นสัตว์ บุคคลต่างๆ นั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นก็มีนามธรรมและรูปธรรมเกิดดับสืบต่อมาเรื่อยๆ เมื่อคลอดจากครรภ์มารดาแล้วย่อมเห็นสิ่งที่ปรากฏ ได้ยินเสียงที่ปรากฏ ได้กลิ่นที่ปรากฏ ลิ้มรสที่ปรากฏ รู้เย็นร้อนที่กระทบสัมผัสกาย แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นแต่เพียงสภาพธรรมชนิดหนึ่ง จึงยึดถือในอาการของสภาพธรรมที่เกิดดับสืบต่อกันตลอดเวลาที่ปรากฏเสมือนไม่เกิดดับว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด

ขณะนั้นก็มี ฆนบัญญัติ คือ การยึดถืออาการของสภาพธรรมที่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน โดยยังไม่รู้ว่าสมมติเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นอะไรเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่รู้ความและยังพูดไม่ได้ และสัตว์ดิรัจฉาน ย่อมรู้ฆนบัญญัติเหมือนกันจนกว่าจะเจริญเติบโตขึ้น เข้าใจความหมายของเสียง จึงรู้สมมติสัจจะ คือ การสมมติบัญญัติเรียกสภาพธรรมต่างๆ เพื่อให้เข้าใจถูกต้องตรงกัน ฉะนั้น เมื่อเป็นเด็ก เคยเห็นอาการของสภาพธรรมที่ปรากฏเสมือนไม่เกิดดับอย่างไร เมื่อเติบโตขึ้นแล้วก็ยังคงเห็นเป็นอย่างนั้น เป็นสิ่งนั้น เช่นเห็นเป็นวัตถุ เป็นสัตว์ บุคคลต่างๆ ตามความเป็นจริงนั้น สภาพที่แข็งไม่ว่าจะเป็นถ้วยหรือจาน หรือช้อน หรือส้อมก็เป็นเพียงธาตุแข็ง เป็นปฐวีธาตุ

แต่ในวันหนึ่งๆ นั้นเห็นอะไร กระทบสัมผัสอะไร ในขณะที่กระทบสัมผัส ไม่เคยคิดว่าเพียงกระทบสัมผัสสิ่งที่มีจริงซึ่งเป็นสภาพที่แข็ง แต่มีความรู้สึกว่าสัมผัสช้อนหรือส้อม หรือจาน หรือถ้วย ตามที่เคยยึดถือในอาการที่เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วจนปรากฏเป็นรูปร่างสัณฐานต่างๆ ทั้งๆ ที่เมื่อสัมผัสช้อนก็แข็ง ส้อมก็แข็ง จานก็แข็ง เพราะลักษณะที่แท้จริงเป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่แข็ง แต่โดยการจำรูปร่างต่างๆ จึงทำให้รู้ว่าถ้วยไม่ใช่จาน ช้อนไม่ใช่ส้อม

ฉะนั้น แม้ว่าสภาพธรรมที่มีจริงนั้นเป็นรูปธรรมที่มีลักษณะแข็ง แต่ก็ยังจำสมมติสภาพนั้นว่า จานสำหรับใส่ข้าว ถ้วยสำหรับใส่แกง ช้อนสำหรับตักอาหาร จำสมมติสภาพที่เป็นธาตุแข็งต่างๆ เช่น เหล็ก วัสดุ ที่นำมาประกอบกันเป็นวิทยุ เป็นโทรทัศน์ เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ โดยไม่ประจักษ์ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งเกิดขึ้นปรากฏแต่ละลักษณะแล้วก็ดับไป นี่คือการจำสมมติบัญญัติสิ่งที่ปรากฏทางตา ซึ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการประดิษฐ์ใหม่ๆ ทุกๆ วัน ขณะที่รู้รูปร่างสัณฐานอาการที่ปรากฏรวมกันเป็นสิ่งต่างๆ ขณะนั้นเป็นการรู้บัญญัติ เป็นสมมติสัจจะ ไม่ใช่ปรมัตถสัจจะ

ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 1 ส.ค. 2564

กราบขอบพระคุณ และยินดีในกุศลด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Sea
วันที่ 22 ต.ค. 2564

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ