ปาณาติบาต....และเรื่องของการฆ่าตัวตาย

 
พุทธรักษา
วันที่  18 ก.ย. 2551
หมายเลข  9898
อ่าน  4,072

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แนวทางเจริญวิปัสสนาครั้งที่ ๓๔๑ บรรยายโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

สำหรับบุคคลที่ฆ่าตัวตาย แม้ว่าจะไม่ได้ฆ่าบุคคลอื่น ตรงกับคำอุทานที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงเปล่งอุทาน ในเวลานั้นว่า "ใครๆ ตรวจตราด้วยจิต ทั่วทุกทิศแล้วหาได้พบผู้เป็นที่รัก ยิ่งกว่าตนในที่ไหนๆ ไม่เลย"

การฆ่าตัวเอง จะตรงกับคำอุทานที่พระผู้มีพระภาค ได้ทรงเปล่งอุทาน ในขณะนั้นไหม ตรงค่ะ ไม่ตรงไม่ได้! ไม่ตรงกับคำอุทานนี้ ก็ต้องผิด

รักตน แล้วทำไม ฆ่าตน สิ่งที่ลึกอยู่ในจิตของทุกคนคือ "อนุสัยกิเลส" นอนเนื่องอยู่ในจิต. แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยที่จะปรากฏเป็นสภาพของอกุศลจิตประเภทต่างๆ ก็จริง แต่ว่า "อนุสัยกิเลส" ที่มีประจำอยู่ในจิต มีถึง ๗ ประเภท

อนุสัยกิเลส มี ๗ ประเภท คือ กามราคะ ปฏิฆะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา มานะ ภวราคะ อวิชชา

กามราคะ ความยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ซึ่งผู้ที่จะดับอนุสัยนี้ได้เป็นสมุจเฉทคือ พระอนาคามีบุคคล แม้แต่พระโสดาบัน พระสกทาคามีบุคคลก็ยังคงมีราคานุสัย ที่เป็นกามราคานุสัย ความยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ

ขณะกำลังนอนหลับ ไม่ปรากฏว่าปรารถนารูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะใดๆ แต่ทันทีที่ตื่นขึ้นมา ต้องการอะไรบ้าง จะไม่พ้นไปจากรูป โผฏฐัพพะ เลย นี่เป็นความปรารถนารูป โผฏฐัพพะที่มีอยู่ประจำในใจ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้รูป โผฏฐัพพะตามที่ต้องการ แต่เพราะปรารถนา ที่จะให้เป็นไปอย่างที่ต้องการถ้ายังมีความปรารถนาอย่างนั้นอยู่ เมื่อไม่เป็นอย่างนั้น ไม่สมปรารถนาจึงฆ่าตัวตาย เพราะไม่สามารถที่จะทนต่อสภาพที่ไม่ได้ในสิ่งที่ตนปรารถนา

เพราะฉะนั้น แม้บุคคลที่ฆ่าตัวตายก็เป็นเพราะเหตุว่า มีความพอใจ ยินดี ยึดมั่นในกาม คือ ในรูป โผฏฐัพพะ ในภว คือในภพที่ต้องการ เมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่ว่ายังยินดีในสิ่งที่ต้องการ ไม่ใช่ว่าหมดความยินดีในภพ. แต่เป็นเพราะ มีความยินดี แล้วไม่ได้ตรงตามความยินดี ไม่สามารถทนสภาพที่จะได้รับสิ่งที่ไม่ตรงกับความปรารถนา

แต่ว่าบุคคลนั้น ยังไม่หมดความยินดีในภพ ในรูป โผฏฐัพพะ มีประโยชน์ไหม การฆ่าตัวตาย หนีภพไม่ได้ เพราะเหตุว่า เมื่อยังมี "อนุสัยกิเลส" อยู่ ก็ต้องมีการเกิด แล้วแต่ว่ากรรมใด (คือ กรรมใดกรรมหนึ่งที่ทำแล้วในสังสารวัฏฏ์) จะทำให้เกิดในภูมิใดๆ เช่น อบายภูมิ ... ในนรก หรือเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่จะพ้นไปจากความปรารถนาในรูป โผฏฐัพพะ และในภพไม่ได้ และยังคงมีความปรารถนานั้น ติดตาม นอนเนื่อง อยู่ในจิต. แต่ว่า "กรรม" ที่จะทำให้ปฏิสนธินั้นก็ไม่แน่ว่าจะทำให้ปฏิสนธิ ในอบายภูมิ หรือ ในสุคติภูมิ

เพราะฉะนั้น ถ้าบุคคลใด ได้เกิดเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นสุคติภูมิ ก็ไม่ควรเลยที่จะฆ่าตัวตาย เพราะเหตุว่า ไม่พ้นไปจากกิเลส. และยังแล้วแต่ "กรรม" อีก ว่ากรรม (ที่นำเกิด) นั้นจะทำให้ปฏิสนธิ ในภพใด ภูมิใด ถ้าเป็นภพภูมิ ซึ่งไม่สามารถที่จะฟังธรรม ไม่สามารถที่จะประพฤติปฏิบัติธรรม ไม่สามารถที่จะอบรมเจริญกุศลได้ก็ย่อมจะตกลงไปสู่ทางที่ต่ำ ไม่ใช่ไปสู่ทางที่เจริญ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปริศนา
วันที่ 18 ก.ย. 2551

ในกรณีของพระภิกษุที่ฆ่าตัวตาย ท่านอาจารย์ได้อธิบายต่อไปว่า

พระภิกษุที่ฆ่าตัวเองตาย จะอาบัติหรือไม่อาบัติ

อาบัติ ใช้สำหรับเมื่อพระภิกษุที่ท่านยังทรงเพศบรรพชิตอยู่ แล้วก็ได้ประพฤติผิดพระวินัย ก็เป็นการต้องอาบัติเพราะเหตุว่า ท่านยังคงอยู่ในเพศของบรรพชิต และยังมีชีวิตที่จะต้องรักษาพระวินัยต่อไป จึงเป็นอาบัติ

ท่านก็จะต้องกระทำคืน หรือแล้วแต่ว่าท่านจะพ้นจากอาบัตินั้นได้ ด้วยวิธีใด แต่สำหรับพระภิกษุที่ท่านฆ่าตัวเองตาย แล้วก็พ้นจากสภาพของความเป็นบรรพชิตแล้ว จะอาบัติได้อย่างไร เมื่อมรณภาพไปแล้วไม่มีอะไรจะต้องประพฤติอีกต่อไปในเพศบรรพชิต จึงไม่กล่าวว่า อาบัติ. แต่ว่า ถ้าไม่มรณภาพ ก็เป็นอาบัติ เพราะเหตุว่า เป็นการกระทำที่เป็นไป ด้วยกำลังของกิเลสซึ่งเป็นสิ่งที่บรรพชิต ไม่ควรจะกระทำ

ในพระไตรปิฎก เมื่อครั้งที่พระผู้มีพระภาคยังไม่ทรงปรินิพพาน มีพระภิกษุหลายท่าน ที่ฆ่าตัวตาย แต่ก็มีหลายท่าน ที่ได้บรรลุมรรคผล เป็นพระอรหันต์ ก่อนที่จะมรณภาพ.

นี่ก็เป็น "ผลของการอบรมเจริญสติปัฏฐาน" จนกระทั่ง สามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ก่อนที่จะมรณภาพ แม้ว่าจะเป็นการกระทำด้วยกำลังของกิเลส คือการฆ่าตัวเอง

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 18 ก.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornchai.s
วันที่ 19 ก.ย. 2551

อนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 19 ก.ย. 2551

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ

อ่านแล้วยิ่งเห็นความน่ากลัวของอนุสัยกิเลส ว่ากระทำการครอบงำและชักนำไปในทางที่ผิดได้ในที่ทุกสถาน ไม่เว้นว่าสัตว์ บุคคลนั้นจะเกิดอยู่ในอบายภูมิหรือสุคติภูมิ ชีวิตนี้ ขณะนี้ ที่มีอัตภาพเป็นมนุษย์ ไม่ บอด หนวก บ้า ใบ้ ก็จริงอยู่ แต่ ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณปริศนา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 19 ก.ย. 2551

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ajarnkruo
วันที่ 19 ก.ย. 2551

การเกิดเป็นมนุษย์เป็นผลของกุศลกรรม ยากเหลือเกินที่จะได้โอกาสนี้ แต่ใครจะเห็นคุณค่าของการเกิดเป็นมนุษย์ ถ้าผู้นั้นไม่ได้อบรมเจริญปัญญา

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
anong55
วันที่ 22 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนา สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wirat.k
วันที่ 25 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 6 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ิbaibho
วันที่ 19 ต.ค. 2556

อนุโมทนาค่ะ คุณพุทธรักษาและคุณปริศนา ที่โพสต์ประเด็นนี้ "ปาณาติบาต และการฆ่าตัวตาย" และ "กรณีที่พระภิกษุฆ่าตัวตาย"

คำบรรยายของท่านอาจารย์ชัดเจน (คือไม่กำกวมทางจริยธรรม) และลึกซึ้งมาก

"อนุสัยกิเลส ๗ กามราคะ ความยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ซึ่งผู้ที่จะดับอนุสัยนี้ได้เป็นสมุจเฉทคือ พระอนาคามีบุคคล แม้แต่พระโสดาบัน พระสกทาคามีบุคคลก็ยังคงมีราคานุสัย ที่เป็น กามราคานุสัย ความยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ."

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
papon
วันที่ 24 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
peem
วันที่ 1 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Jarunee.A
วันที่ 7 ก.พ. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ