สงสัยเรื่องกรรม

 
จ่าหนาน
วันที่  21 ก.ย. 2551
หมายเลข  9921
อ่าน  1,448

ที่เราเกิดมาก็มีรับกรรมและสร้างกรรม สิ่งที่เราได้รับมาถ้าดีก็มาจากกรรมดี ถ้าได้ไม่ดีก็มาจากกรรมไม่ดีให้ผล กรรมเป็นผู้กำหนดทั้งหมด แสดงว่าที่เราคิดผิด ตัดสินใจผิดก็เพราะกรรมไม่ดีให้ผล จึงทำให้เราคิดอย่างนั้น เจอคนอย่างนั้น เจอเหตุการณ์อย่างนั้นใช่หรือไม่ หรือเพราะเราอ่อนประสบการณ์ ด้อยความรู้ จึงทำให้เราคิดผิด ตัดสินใจผิดกันแน่ เพราะหลายครั้งก็มาคิดว่า ทำไมเราต้องคิดผิดอย่างนั้นในเวลานั้นด้วย ไม่น่าเลย ถ้ากรรมเดินนำทางเราตลอด เราก็ไม่ต้องคิดอะไรสิมุ่งหน้าทำความดีอย่างเดียว ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้าคิดผิดทำพลาดก็พลาดไป ยอมรับกรรมแต่โดยดี อย่างนั้นหรือเปล่าครับ ขอวิทยากรช่วยให้ความรู้หน่อยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 22 ก.ย. 2551

เรื่องของกรรมและผลของกรรมเป็นเรื่องละเอียดมาก โดยนัยของพระอภิธรรม ท่านแยก เป็นขณะจิตเลยว่า จิตขณะไหนเป็นชาติใด เป็นกรรม เป็นวิบาก ไม่มีปะปนกันเลย ขณะ คิดเป็นไปในเรื่องต่างๆ ไม่ใช่ผลของกรรม เป็นจิตชาติกุศลหรืออกุศล และในแต่ละเหตุการณ์มีจิตหลายชาติ แยกแสดงเป็นขณะจิต อย่างนี้ชัดเจนที่สุด แต่โดยนัยพระสูตรท่านแสดงโดยรวมเป็นเหตุการณ์ยาว อนึ่งความคิดผิด การตัดสินใจผิด หรือความโน้มเอียงที่ผิด เกิดจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งเกิดจากการสะสมมา ส่วนหนึ่งเกิดจากกิเลส สิ่งแวดล้อม การคบมิตรและอดีตกรรมก็มีส่วนเช่นกัน ดังนั้นปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เราไม่สามารถรู้แจ้งในรายละเอียดทั้งหมดได้ สิ่งใดที่ผิดพลาดก็ควรพยายาม แก้ไขปรับปรุงให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
choonj
วันที่ 22 ก.ย. 2551

ชีวิตเกิดมาเป็นไปตามกรรม เมื่อจุติจิตเกิด กรรมประมวลมาซึ่งปฏิสนธิ เป็นคนๆ หนึ่งซึ่งจะได้รับวิบากตามการประมวลของกรรม บางท่านได้รับวิบากที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี บางท่านเป็นเศรษฐี แต่ความประพฤติของคนที่ได้รับวิบาก อาจเปลี่ยนไปได้ตามการสั่งสมของกรรมอีกนั้นแหละ การตัดสินใจผิดถูกนั้นไม่ใช่เป็นไปตามกรรม แต่เป็นไปเพราะสิ่งแวดล้อม การคบมิตร และความรู้ เมื่อการคบมิตร สิ่งแวดล้อมและความรู้ๆ ลๆ ผิด การประมวลมาของกรรมที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อตัดสินใจผิดก็ต้องพิจารณาตัวเอง ไม่ใช่โทษกรรม ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 22 ก.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ผลของกรรม คือขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ขณะที่คิด ไม่ใช่เป็นผลของกรรม เป็นจิตที่เป็นกุศลหรืออกุศล ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุปัจจัย ก็ต้องได้รับผลของกรรม วิบากจิต (ผลของกรรม) ไม่ได้ทำหน้าที่ให้จิตนั้นคิดในทางที่ถูก หรือผิด การคิดในทางที่ถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับการสะสมปัญญา สะสมอกุศลมา อันเกิดจากปัจจัยภายในคือ ปัญญาที่สะสมมาหรืออกุศลที่สะสมและปัจจัยภายนอกคือ บุคคลที่คบด้วยทำให้เราคิดถูกหรือคิดผิดครับ

อย่างไรก็ดี จึงไม่ควรประมาทในการอบรมปัญญา การเลือกคบบุคคลเพื่อเป็นปัจจัย ให้เกิดปัญญา เมื่อปัญญาเกิด การคิดของเราก็ย่อมเป็นไปในทางที่ดี เหตุดีผลย่อมดี แต่ผลของกรรมไม่ได้หมายความว่าเมื่อคิดดี ทำดีในขณะนั้นแล้ว ผลของกรรมจะต้องให้ผลในขณะต่อไปคือ ได้รับผลดี ขณะต่อไปอาจได้รับผลของกรรมไม่ดีก็ได้ เพราะกรรมในอดีตเป้นปัจจัยให้เกิด จึงต้องแยกว่า ผลของกรรมที่จะให้ผล มีกาลเวลาด้วย เหตุดีผลดี เหตุไม่ดีผลไม่ดี

ขออนุโมทนาครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ปริศนา
วันที่ 22 ก.ย. 2551

ส่วนหนึ่งของการมีชีวิต เป็นผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว. อีกส่วนเป็นกรรม คือการกระทำในปัจจุบันที่จะให้ผลต่อไป. สิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ควรคำนึงถึง. ในทางที่จะเป็นเหตุ คือการสะสมอกุศลจิต. เมื่อศึกษาพระธรรมและพิจารณาให้ดีความสงสัยก็จะน้อยลง ความหวั่นไหวก็น้อยลงตามกำลังปัญญา และความเข้าใจในพระธรรมที่เจริญมากขึ้น.ย่อมทราบว่าเหตุแห่ง "บุญ" ว่าคืออะไรย่อมทราบว่า เหตุแห่ง "บาป" ว่าคืออะไร

ย่อมทราบว่าสิ่งที่ควรสะสมคือกุศลจิตคือ "บุญ" ซึ่งเป็นสิ่งดีๆ ที่สะสมไปในจิตได้แม้จะสิ้นชีวิตจากอัตตภาพนี้แล้วก็ตาม. ขณะที่จิตไม่เป็นไปในทาน ศีล ภาวนาขณะนั้น ไม่ใช่บุญ คือกุศลจิตแล้วปกติธรรมดาในชีวิตประจำวันสะสมอะไรมากกว่ากันคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 23 ก.ย. 2551

ขณะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรสและกระทบสัมผัส ขณะนั้นกำลังรับผลของกรรมอยู่ เช่น ขณะที่ได้ยินเสียงพระธรรมอยู่ ขณะนั้นกำลังได้รับผลของกรรมดีอยู่และขณะที่ได้ยินแล้วเกิดความเข้าใจในพระธรรมขณะนั้นเป็นกุศลจิต ไม่ใช่เกิดเพราะผลของกรรมแต่อย่างใด แต่ถ้าได้ยินเสียงพระธรรมแล้วเกิดโลภหรือโทสะเกิดขึ้น ขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิตไม่ใช่ผลของกรรมเช่นกัน และที่เราคิดผิด ตัดสินใจผิดนั่นเป็น อกุศลจิต ไม่ใช่เพราะกรรมไม่ดีให้ผล อย่างที่ท่านอาจารย์ prachern.s ได้อธิบายไว้

ส่วนหนึ่งเกิดจากสะสมของจิต สิ่งแวดล้อม การคบมิตรและอดีตกรรมก็มีส่วนเช่นกัน ดังนั้นปัจจัยต่างๆ เหล่านี้เราไม่สามารถรู้แจ้งในรายละเอียดทั้งหมดได้ สิ่งใดที่ผิดพลาดก็ควรพยายามแก้ไขปรับปรุงให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด...

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 24 ก.ย. 2551

ขอเสนอกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับคำถามนี้

คำว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรากับธาตุเลว คิดอย่างไร

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Noparat
วันที่ 24 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 24 ก.ย. 2551

๑. การให้ผลของกรรมในชาตินี้ เป็นปัจจัยของจิตและรูปที่เกิดจากจิต ในชาติต่อๆ ไปเป็นอย่างไรครับ ๒. อ้างใน ความคิดเห็นที่ 1 อนึ่งความคิดผิด การตัดสินใจผิด หรือความโน้มเอียงที่ผิดเกิดจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งเกิดจากการสะสมมา โปรดอธิบาย "การสะสม" ประเด็นที่ถาม คือ สะสมไว้ที่ใด? (เนื่องจากจิตเกิดแล้วก็ดับไปแล้ว)

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
aiatien
วันที่ 24 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 24 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
prachern.s
วันที่ 25 ก.ย. 2551

ตอบความเห็นที่ ๘

๑. การให้ผลของกรรมในชาตินี้หรือชาติไหนๆ ก็เหมือนกัน คือ ให้ผลเป็นวิบากจิต และให้ผลเป็นกรรมชรูป ส่วนจะเป็นปัจจัยให้เกิดรูปที่เกิดจากจิต เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

๒. ที่ว่าเกิดจากการสะสมมา หมายถึงเคยคิดอย่างนั้น เคยกระทำอย่างนั้น ในชาตินี้ จึงคิดเหมือนที่เคยคิด สะสมเป็นไปกับจิตที่เกิดสืบต่อกัน

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ