ได้ยินแล้วคิด_6
ได้ยิน ท่าน อ สุจินต์ แสดงอยู่บ่อยๆ
"เป็นธรรม เป็นธรรม ทุกอย่างเป็นธรรม"
ได้ยินแล้วคิด อย่างไร...
ธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงทั้งหมด ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ
ธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน
ธรรม เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน
จึงควรที่จะศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม เพื่อความเข้าใจจริงๆ ว่า
ทุกอย่างเป็นธรรม ค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ธรรม มีจริงแต่รู้ตามได้ยากจึงต้องย้ำ บ่อยๆ
เพื่อจะได้ไม่หลงลืมสติ บ่อยๆ
ถ้ารู้และเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมะจะไม่ยึดถือว่าเป็นเราและของเรา
คิดว่าท่านอาจารย์คงย้ำคำนี้เสมอๆ บ่อยๆ
ด้วยความเมตตาและเกื้อกูล
เพื่อสักวัน ผู้ฟัง จะสามารถเข้าใจได้ด้วยปัญญาจริงๆ ว่า
ไม่ใช่เรา ไม่มีเรา
เพื่อความไม่ยึดมั่นถือมั่นใน เรา ได้จริงๆ
สักวันหนึ่ง...ในอนาคตข้างหน้า...อันแสนไกล
อนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นสิ่งที่มีจริง ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น และเป็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ไม่มีใครทำธรรมให้เกิดขึ้นได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีใครทำเห็นให้เกิดขึ้น ไม่มีใครทำได้ยินให้เกิดขึ้น แต่มีแล้ว เกิดแล้ว เพราะมีเหตุปัจจัย ไม่มีใครทำโกรธให้เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุปัจจัยให้ความโกรธเกิดขึ้น ความโกรธก็เกิดขึ้นไม่มีใครทำความติดข้องให้เกิดขึ้นได้ เมื่อมีเหตุปัจจัยให้ความติดข้องเกิดขึ้น ความติดข้อง ยินดีพอใจก็เกิดขึ้น นี่คือความเป็นจริงของธรรม เป็นธาตุแต่ละอย่างๆ เท่านั้น หาความเป็นสัตว์บุคคล ตัวตน ไม่ได้เลย ดังนั้น จึงมีการอบรมเจริญปัญญาเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ จนกระทั่งปัญญา ความรู้ความเข้าใจ เพิ่มขึ้น เจริญขึ้น รู้จริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม และละคลายการยึดถือสภาพธรรมทั้งหลายว่าเป็นสัตว์บุคคล ตัวตน ไม่ใช่เพียงแต่การพูดตามๆ กันเท่านั้นว่า ทุกอย่างเป็นธรรม
การที่ปัญญาจะเจริญขึ้น สมบูรณ์ขึ้นได้นั้น ย่อมเป็นไปตามลำดับขั้น ไม่มีตัวตนที่จะไปทำให้ผลสำเร็จขึ้นได้ จึงต้องอาศัยการศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน ค่อยๆ สั่งสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ
..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ถ้าไม่เกิดปัญญาที่จะเข้าใจว่า ทุกอย่างเป็นธรรมะก็ไม่มีอะไรจะไปละความเป็นตัวตนนี้ออกได้
...ขออนุโมทนาครับ...