อัธยาศัย ... กับการเจริญสติปัฏฐาน

 
พุทธรักษา
วันที่  24 ก.ย. 2551
หมายเลข  9956
อ่าน  1,011

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ข้อความบางตอนจากการถอดเทป การบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ณ ตึกสภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัยพ.ศ. ๒๕๒๕ โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ท่านผู้ฟังจะเห็นได้ว่าเมื่อเป็นผู้มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐานแล้ว ท่านเป็นตัณหาจริตหรือทิฏฐิจริต แต่อย่าลืมทิฏฐิไม่เกิดกับจิตอื่นเลยนอกจากโลภมูลจิต (๔ ดวง ที่เป็น ทิฏฐิคตสัมมปยุตต์) เพียงแต่ว่า ขณะใดลักษณะของสภาพความต้องการปรากฏในขณะนั้นๆ หรือว่า ขณะใดลักษณะของความเห็นผิด ความเข้าใจผิดในการปฏิบัติ และความเห็นผิดในลักษณะของสภาพธรรม ปรากฏในขณะนั้นๆ

ท่านผู้ฟัง ถ้าไม่เลือกสติแล้ว ในสมัยพระพุทธเจ้าทำไมยังต้องไปเทศน์ในป่าช้า ที่มีคนตายขึ้นอืด ชวนให้คนที่หลงสวย หลงงาม ไปที่ป่าช้าแล้วจึงเทศน์ ประกอบนิมิต เพราะเหตุไร

ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ในขณะที่เห็นอะไร สภาพธรรมใด ปรากฏเป็นอารมณ์ พระผู้มีพระภาคก็ทรงแสดงธรรมเพื่อที่จะให้พิจารณาระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงที่กำลังปรากฏในขณะนั้น สำหรับอสุภกรรมฐาน ซึ่งเป็นสติปัฏฐาน เป็นเพียงให้เห็นโทษเพื่อให้เกิดการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงเท่านั้น ไม่ใช่หมายความว่าผู้นั้นจะต้องอบรมเจริญอสุภภาวนา จนกระทั่งฌาณจิตเกิด เพราะฉะนั้น ก็แล้วแต่อัธยาศัยในขณะนั้นๆ

สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน จริงๆ

แล้วแต่ว่า ปัญญาของใครได้อบรมมา (แล้ว) เมื่อได้ฟังธรรมแล้วสติเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่เป็นอนัตตาซึ่งเกิดดับ สิ่งที่เป็น อสุภ เกิดดับไหมคะ

ท่านผู้ฟัง ขณะที่เห็นนั้น ถ้ายังเป็นปุถุชนอยู่ ก็ยังไม่เห็นหรอกครับ แต่กิเลสมันหดหู่อยู่แล้ว ไม่โผล่ออกมา สังเกตุดูจะเห็นคนเศร้าโศรกเสียใจ จะให้อะไรก็ไม่ยอมเอาบางทีจะเป็นลมเอา เมื่อเห็นญาติพี่น้อง

ท่านอาจารย์ คนตายกับคนเป็น วันหนึ่งๆ เห็นคนเป็นหรือเห็นคนตายมากคะ

ท่านผู้ฟัง เห็นคนเป็นมากครับ

ท่านอาจารย์ เห็นคนเป็นมาก แล้วคนเป็นๆ ที่กำลังเห็นนี้ เกิดดับไหม

ท่านผู้ฟัง ถ้าเวลามีสติ ก็เกิดดับ แต้ถ้าไม่มีสติ ก็ปุถุชนธรรมดา

ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเห็นอสุภซึ่งเป็นซากศพ หรือจะไม่เห็นอสุภก็ตาม สิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนั้น เป็นสิ่งใดพระผู้มีพระภาคก็ทรงแสดงธรรม เนื่องด้วยสิ่งนั้น.เพื่อที่จะให้ปัญญารู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปริศนา
วันที่ 24 ก.ย. 2551

ท่านอาจารย์ ท่านผู้ฟังได้ยินคำว่า "ทุกข์" บ่อยๆ ใช่ไหมคะ? ทุกข์ เป็นอริยสัจจธรรม ที่ ๑ ทุกขอริยสัจจ์ หมายถึงอะไรคะ

ท่านผู้ฟัง ทุกขอริยสัจจ์เป็นของจริง

ท่านอาจารย์ คืออะไรคะ

ท่านผู้ฟัง ความเกิด ความแก่ ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บ ความตาย ก็เป็นทุกข์

ท่านอาจารย์ ความเกิดขึ้นแล้วดับไปของสภาพธรรมเป็น ทุกขอริยสัจจ์.ไม่ใช่หมายความว่า ท่านผู้ฟังต้องเป็นทุกข์ ถูกไหมคะ

ท่านผู้ฟัง ถูกครับ

ท่านอาจารย์ เพราะว่า มหากุศลจิต ไม่ได้ประกอบด้วย โทมนัสเวทนา มหากุศลจิต ประกอบด้วย อุเบกขาเวทนา หรือ โสมนัสเวทนาเพราะฉะนั้น ไม่ต้องเป็นทุกข์ ไม่ต้องมีการเจ็บป่วย จึงจะว่า "เห็นทุกข์" ถูกไหมคะ

ท่านผู้ฟัง เพราะอะไร พระผู้มีพระภาค จึงพาคนไปดูศพที่ขึ้นอืด ที่ป่าช้าละครับอยากทราบตรงนี้

ท่านอาจารย์ เหมาะกับ จริต อัธยาศัยของใคร มีพระอรหันต์กี่รูป ซึ่งต้องไปที่ป่าช้า และมีพระอรหันต์จำนวนเท่าไร ที่ไม่ต้องไปป่าช้า แล้วท่านผู้ฟังอ้างว่าต้องไปที่นั่น ต้องทำอย่างนั้น ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้แจ้งอัธยาศัยของสัตว์โลกว่า สำหรับแต่ละบุคคลนั้นธรรมที่เหมาะที่จะทำให้บุคคลนั้น เกิดสติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ คืออะไร มีภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง อาจารย์ของท่านก็ให้ตรึกนึกถึงอสุภกรรมฐาน แต่ปรากฏว่าท่านไม่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมเลย แต่เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงเนรมิตดอกบัวทองให้ เพราะว่าชาติก่อน ท่านเป็นช่างทอง (ภิกษุรูปนั้น) ท่านสามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ แล้วจะทำอย่างไรคะ จะเกณฑ์ทุกคนให้ไปป่าช้า ในเมื่อไม่ใช่ จริต ไม่ใช่ อัธยาศัย ของบุคคลนั้น

ท่านผู้ฟัง ไม่ใช่อย่างนั้น ขอโทษครับ ผมติดตามฟังอาจารย์ทางวิทยุ แทบทุกวันล่ะครับ

ท่านอาจารย์ ขออนุโมทนา แต่ท่านต้องพิจารณาด้วยว่า สภาพธรรมที่ประจักษ์แจ้งจะต้องเป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ตามปกติ ตามธรรดา แล้วปัญญาเจริญขึ้นๆ



ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 25 ก.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 25 ก.ย. 2551

สำหรับอสุภกรรมฐาน ซึ่งเป็นสติปัฏฐาน เป็นเพียงให้เห็นโทษเพื่อให้เกิดการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม ตามความเป็นจริงเท่านั้นไม่ใช่หมายความว่า ผู้นั้นจะต้องอบรมเจริญอสุภภาวนา จนกระทั่งฌาณจิตเกิด

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเห็น อสุภ ซึ่งเป็นซากศพ หรือจะไม่เห็น อสุภ ก็ตาม สิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนั้น เป็นสิ่งใดพระผู้มีพระภาคก็ทรงแสดงธรรม เนื่องด้วยสิ่งนั้น.เพื่อที่จะให้ปัญญารู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 26 ก.ย. 2551

ใครมีอัธยาศัยอย่างไรเป็นเรื่องรู้ได้ยาก จนถึง ไม่มีทางรู้ได้ เพราะบางที แม้แต่อัธยาศัยของตนเอง ก็ยังโลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวชอบอยากให้เป็นแบบนั้น เดี๋ยวอยากเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ เรื่อยไปจนถึงการคิดเอาว่า สติปัฏฐานเป็นเรื่องเลือกได้ (สารภาพ : ในอดีตที่ไม่นานเท่าไหร่ เคยคิดว่าเลือกได้มาก่อนแล้วเหมือนกัน)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณปริศนา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ