เวลาโกรธ ถ้ารู้ว่าโกรธ ก็จะไม่โกรธ

 
เสือ
วันที่  3 มี.ค. 2557
หมายเลข  24544
อ่าน  2,479

ธรรมะดูแล้ว ถ้ามองให้ง่ายมันก็ง่ายเหมือนกันไหมครับ

เรากำลังโกรธคนนี้มากเลย แต่พอใจเรารู้ว่าเรากำลังโกรธ ความโกรธก็จะหายไป

แบบนี้เรารู้ทันบ่อยๆ ก็ชนะกิเลสโทสะได้แล้วสิ ก็เหลือแค่ตัว โลภะ กับ โมหะ

เราก็ใช้แบบเดียวกับตัวโกรธ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 3 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

โกรธ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง คือ โทสเจตสิก ที่เป็นสภาพธรรมที่ขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ ซึ่งความโกรธสามารถเกิดได้เป็นธรรมดา สำหรับผู้ที่หนาด้วยกิเลส ที่ยังเป็นปุถุชน ซึ่งผู้ที่จะละความโกรธได้จนหมดสิ้น คือ พระอนาคามี ครับ

ซึ่งในความเป็นจริง โกรธ เป็นแต่เพียงธรรมที่เกิดขึ้น โดยมากของผู้ที่เผินในการศึกษาพระธรรม ย่อมที่จะละความโกรธ เพียงเพราะรู้ความโกรธไม่ดี ก็เป็นตัวเราที่จะละ เป็นตัวเราที่ไม่ดี เป็นตัวเราที่โกรธ เป็นตัวเราที่จะละความโกรธ ก็ไม่มีทางละความโกรธได้เลย เพราะฉะนั้น โกรธไม่ดี รู้แค่เข้าใจขั้นการฟังว่า โกรธไม่ดี แต่ยังไม่ได้รู้จักตัวความโกรธจริงๆ ในลักษณะของความโกรธที่เกิดขึ้น จึงยังไม่รู้ว่าโกรธเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้น หนทางที่ถูกต้องในการละความโกรธ คือ เข้าใจความโกรธที่เกิดขึ้นว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ย่อมเป็นหนทางการละความโกรธได้ในที่สุด ครับ

บุคคลผู้ที่เป็นปุถุชน เป็นผู้ที่หนาแน่นไปด้วยกิเลส มีกิเลสที่ได้สะสมมาอย่างมากมาย เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย ก็พร้อมที่จะเกิดขึ้นทันที เป็นอกุศลทันที อกุศลเป็นธรรม เกิดกับใครก็เป็นอกุศลไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ แต่เพราะไม่เข้าใจธรรมจึงมีการยึดถือว่าคนนี้ที่ทำไม่ดี สร้างความเสียหายให้แก่เรา หรือใครก็ตาม ตัวเราเองจึงเกิดอกุศลจิตเพราะการกระทำไม่ดีของผู้อื่น แท้ที่จริงแล้ว ตัวเราก็ไม่มี คนอื่นก็ไม่มี มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปเท่านั้น แล้วจะโกรธอะไร? แต่ความโกรธ ความไม่พอใจก็เกิดขึ้นเป็นไป ตามความเป็นจริงแล้ว ควรอย่างยิ่งที่จะเห็นใจ สงสาร เข้าใจในอกุศลของบุคคลอื่น เพราะขณะนั้น เขากำลังสร้างเหตุที่ไม่ดีให้กับตัวเขาเอง

ขณะที่โกรธ ขณะที่ไม่พอใจ ขณะที่ขุ่นเคืองใจ นั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ขณะนั้นเป็นการสะสมโทสะไว้ในจิตแล้ว เมื่อสะสมมากขึ้นๆ จนโทสะ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ มีกำลังมากขึ้น วันหนึ่งวันใดข้างหน้าอาจจะถึงกับประทุษร้าย เบียดเบียน ฆ่าผู้อื่นก็เป็นได้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จึงไม่ควรเห็นว่า ความโกรธเป็นเรื่องดี ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะยินดีในความโกรธ เพราะเหตุว่า การสอนให้โกรธ การสอนให้ทำร้ายสอนให้คิดร้ายต่อบุคคลอื่นนั้น ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังเป็นการคิดเรื่องราวในความโกรธ ไม่ใช่หนทางการละความโกรธ ตามที่กล่าวมา แต่การคิดถูกก็เป็นการสะสมสิ่งที่ดี ให้คิดดี แต่ไม่ควรลืมว่า หนทางการละความโกรธ คือ การเข้าใจความโกรธว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ครับ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา ที่ทำให้ผู้ที่ศึกษา มีความเข้าใจถูก เห็นถูก เป็นไปเพื่อละอกุศล ละความไม่รู้ จนกระทั่งสูงสุดเพื่อความเป็นผู้ดับกิเลสได้หมด พ้นจากทุกข์ทั้งปวง ครับ.

การรู้ว่าเราโกรธ แล้วความโกรธหายไป เป็นเราที่รู้โกรธ ไม่ใช่ ปัญญาที่รู้ลักษณะที่โกรธว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อเป็นเราที่รู้ว่าโกรธแล้วความโกรธหายไป เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม กิเลส คือ โทสะก็เกิดอีกเป็นธรรมดา ดังนั้น วิธีละกิเลสที่ถูกต้องคือ การรู้ลักษณะกิเลสที่เกิดขึ้นแล้วว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา โดยไม่ใช่การคิดนึก ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 3 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรม ไม่ง่าย เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็สามารถที่จะเข้าใจได้ ถ้ามีศรัทธา เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง ซึ่งมีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน แม้ความโกรธก็มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับความโกรธได้หมดสิ้น เมื่อได้เหตุปัจจัยความโกรธก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ การดับกิเลสไม่ใช่ด้วยความอยาก หรือด้วยความเป็นตัวตน แต่ต้องด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง และจะดับในทันทีทันใดไม่ได้ ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการสะสมปัญญา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ที่สำคัญ คือ ไม่ประมาทพระธรรม ว่าง่าย, ก่อนที่จะดับโทสะ ควรที่จะได้เข้าใจว่า ในชีวิตประจำวัน พอที่จะเป็นไปได้ไหมสำหรับการขัดเกลาโทสะ จากที่เคยโกรธเคยไม่พอใจคนนั้นคนนี้ สามารถที่จะมีเมตตาได้ไหมแทนที่จะโกรธ ขณะใดที่กุศล เช่น เมตตา เกิดขึ้น ขณะนั้นโทสะหรือ ความโกรธ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งหมดก็ต้องอาศัยความเข้าใจพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 4 มี.ค. 2557

โกรธไม่ดี จะละความโกรธ ต้องปัญญา ความโกรธไม่เกิดอีกเมื่อเป็นพระอนาคามี ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Dayjung
วันที่ 4 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เสือ
วันที่ 5 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Jarunee.A
วันที่ 18 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ