รู้ว่าเป็นธรรมและรู้ว่าเป็นอนัตตา
อ.ธิดารัตน์ อย่างนี้หมายถึงว่าเรามีความไม่รู้มาก เมื่อมีความไม่รู้มากก็ย่อมมีความสงสัยตามมา ซึ่งอาจจะเกิดสลับกันด้วยความไม่รู้อย่างนี้ก็ได้ใช่ไหม
ท่านอาจารย์ ชีวิตจริงๆ เป็นยังไงก็เป็นธรรมทั้งหมดเลย แล้วเราไม่ได้รู้ เพราะฉะนั้นจะรู้ก็คือว่าศึกษาเข้าใจ ขณะที่เราเข้าใจ คนอื่นจะบอกว่าเราไม่เข้าใจ ได้ไหม ก็ไม่ได้ ใช่ไหม เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆ แล้วต้องเข้าใจจุดประสงค์ของการศึกษาด้วย รู้ว่าเป็นธรรม แล้วรู้ว่าเป็นอนัตตา และก็ค่อยๆ เข้าใจลักษณะของธรรมซึ่งมีจริงๆ เป็นตัวจริงๆ ให้รู้ว่าที่ทรงแสดง ไม่ใช่แสดงให้เราจำชื่อ แต่ให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏจริงๆ เพราะฉะนั้นพระพุทธศาสนาจึงมีขั้นฟัง สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา ภาวนามยปัญญา ตามลำดับ
ที่มา ...
หมายเลข 10024
3 ก.ย. 2567